เพราะคิวงานไม่ลงตัว "บอย" ยอมรับเครียด!! | คมชัดลึก

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก – ถ้าเข้าไปส่องใน IG ของหนุ่มจอมเกรียน “บอย” ปกรณ์ ก็จะเห็นว่าช่วงก่อนหน้านี้ เจ้าตัว มักโพสต์ให้กำลังใจตัวเอง จนหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวเลยต้องถาม “บอย” ถึงเรื่องดังกล่าว

ก่อนหน้านี้เหมือนเรามีเรื่องเครียดๆ

   “มันเหนื่อยเนื่องจากว่า ช่วงตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ถึงเดือนธ.ค. มันมีโปรเจคและงานหลายอย่างที่เราทำ พูดง่ายๆก็คือคิวเต็ม ผมเครียดเพราะว่าผมไม่สามารถจัดคิวได้ในช่วงนั้น คิวไม่พอสำหรับลงงาน เลยเครียดนิดนึง”

เครียดเพราะความฮอต

   “มันไม่เกี่ยวกับความฮอต ตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับเหนื่อยกาย เครียดเพราะเราจัดตารางงานไม่ลงตัวมากกว่า จะทำยังไงดี คิวเต็มแล้วแต่ยังมีคนขอคิว จะลงตรงไหน สลับคิวยังไง ตอนนั้นมันทำไม่ถูก แต่ตอนนี้มันดีขึ้นแล้ว ตอนนั้นเครียดหนักๆไปประมาณ 2 วัน”

ทำไมเราถึงไม่เลือกที่จะปฏิเสธรับงาน แต่กลับรับเข้ามาอีก

   “มันปฏิเสธไม่ได้ ยกตัวอย่าง หนังเข้าปลายปี ก็ต้องหาคิวให้วันแถลงข่าว เดินสาย แต่ว่ามันก็คลี่คลายด้วยความที่เราต้องยอมเหนื่อยหน่อย วิ่งวันล่ะหลายงาน วันนึงวิ่ง 3 งาน ตอนนั้นเหนื่อยจัดคิวงาน”

วิ่งเยอะสุดวันล่ะกี่งาน

   “เดือนที่แล้วครั้งแรกเลยนะ 4 งานต่อวัน ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แต่ช่วงนี้มันจำเป็น บางทีงานมันก็ไม่ได้หนักมาก แต่ว่าเราต้องวิ่ง”

เป็นเราจัดคิวเองหรือเปล่า

   “มีคนช่วยจัดให้ด้วยครับ”

งานเยอะแบบนี้ส่งผลยังไงกับร่างกายบ้าง

   “ไม่เลยครับ ผมรู้ว่าช่วงนี้ผมต้องทำงานเยอะ ผมก็รีบนอน ระหว่างย้ายไปทำงานอีกทีก็หลับก่อน ไม่ได้เหนื่อยเรื่องร่างกาย แต่ช่วงนั้นเหนื่อยเรื่องจัดคิว เขาขอคิวแถลงข่าวทำไงดี ไม่มีให้ก็ต้องไปขยับคิวงานโน้นนี้”

ช่วงหลังแก้ไขยังไง

   “มันแก้ยาก เพราะว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ งานต่างๆ เข้ามาช่วงนี้พอดี ตอนนี้ผมถ่ายละคร 2 เรื่อง มีหนังเข้า มีทำธุรกิจอันใหม่ โน้นนี้ โฆษณาถ่าย อีเว้นท์ มันประดังกันเข้ามา มีไปต่างประเทศด้วย คิวมันก็เลยแน่น ผมว่านักแสดงทุกคนเคยประสบปัญหานี้กันมาหมด เพียงแต่ว่าใครจะจัดยังไง”

ล่าสุดเห็นไปประเทศจีนกับครอบครัว

   “ทริปนี้ผมไปกับสินค้า พาผู้โชคดีไปเที่ยว ผมก็เลยพาคุณแม่กับวันใหม่ไป ไปทริปนี้ไม่ต้องเอารถเข็นไปให้เขานั่งเหมือนครั้งก่อนๆแล้ว ทริปนี้ก็เดินเอง”

แต่ก็ยังเห็นเราแกล้งน้องอยู่

   “มันสนุกครับ มันเป็นโมเม้นท์ที่เราได้อยู่ด้วยกันเป็นปกติครับ”

วันใหม่โตขึ้นได้ดังใจเรามากขึ้นไหม

   “มันไม่ใช่เรื่องได้ดั่งใจ แต่เวลาที่เขาตอบอะไรมา เราได้เห็นพัฒนาการณ์ของเขา ว่าเขาโตขึ้น รู้เรื่องมากขึ้น เริ่มมีเหตุมีผลในการพูดมากขึ้น เราเห็นเขาโตขึ้นก็ดีใจ”

ล่าสุดเขาตอบเรื่องค่าตัวของเขาเรารู้สึกอย่างไร

   “ที่เรารู้สึกดีมากๆ คำพูดที่เขาบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยสอนเขาด้วยคำพูด เขาน่าจะซึมซับได้เอง แล้วเขาก็พูดออกมาเอง เราดีใจตรงคำพูดนั้นมากกว่า มันใหญ่โตในเรื่องของความรู้สึก เราดีใจ เราอิ่ม แต่ไม่ถึงขั้นให้รางวัล”

ภูมิใจแค่ไหนกับน้องคนนี้

   “เขาคือความรักที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เขาเริ่ม เราทุ่มเทความรักให้เขาตลอด คอยดูการเจริญเติมโต พัฒนาการณ์ของเขาในทุกๆเรื่อง เรารู้สึกว่าเขาเป็นเด็กค่อนข้างฉลาดในความคิด เราว่าดีนะ โตขึ้นเขาน่าจะเอาตัวรอดเก่ง ดีใจครับ เขาน่ารักด้วย”

ตอนนี้เขาเข้าวงการแล้วเราต้องดูแลเขาเป็นพิเศษไหม

   “ยังไม่ถึงกับเข้าวงการ อย่างหนังเรื่องที่เขาเล่นล่าสุด มันเป็นช่วงที่ว่าง ยังไงเราเน้นเรื่องเรียนเป็นหลักก่อน”

พี่ๆ เตรียมดันเข้าวงการไหม

   “คงไม่ได้ขนาดนั้น ดูตามความชอบของเขาดีกว่า ถ้ามีอะไรติดต่อมา เราจะถามเขาก่อนว่าเขาชอบไหม ถ้าเขาอยากทำ แล้วไม่ได้กระทบกับเรื่องเรียน มันก็โอเคครับ”