
เสียดาย 'น้องใหม่ฯ' เตรียมลาจอ 'เขตต์' คิดหนักเล่นบทพ่อ
"เขตต์" ฐานทัพ เชื่อละคร "น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์" จะอยู่ในใจของแฟนๆ ตลอดไป หลังเตรียมลาจอเดือนหน้า เผยคิดหนักเล่นรับบทพ่อในละคร "เด็กเสเพล"
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - เป็นพระเอกละครมากว่า 50 เรื่อง ตอนนี้ “เขตต์” ฐานทัพ ยอมพลิกบทบาทมาเป็น “พ่อ” ในละคร “เด็กเสเพล” เจอตัวทั้งทีไม่ได้ถามแค่เรื่องเดียวแน่นอน เพราะล่าสุดละคร “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ที่ “เขตต์” เคยเล่นไว้ในรุ่นแรกเตรียมลาจอ หลังสร้างความประทับใจให้คนดูมากว่า 20 ปี ซึ่งตอบถึงเรื่องทั้งหมดว่า
“ก็อดีตน้องใหม่(หัวเราะ) เป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับผม เป็นละครน้ำดี รักษาสังคมที่ตรึงใจคุณผู้ชมในยุคนึงเลย ช่วงที่เราเล่นคือกระแสดีมาก พีคมาก”
ใจหายไหม ตอนนี้น้องใหม่ฯ จะลาจอแล้ว
“แต่เราก็ห่างจากตรงนั่นมาพอสมควรแล้ว เป็นสิบปีแล้ว ถามว่าใจหายมั้ย คือผมว่าทุกอย่างมันมีวัฎจักรของมัน วันหนึ่งมีเข้ามาก็ต้องมีจากไป”
ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเห็นผลงานของน้องๆ รุ่นใหม่บ้างไหม
“หลังสุดต้องบอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยได้ตามแล้ว เพราะมันจะไกลกันเยอะมาก แต่ช่วงที่เราออกมาใหม่ๆ ยังมีกลับมาดู”
ยังมีกลิ่นอายของน้องใหม่อยู่ไหม
“หลังๆ ไม่มีแล้ว เพราะช่วงแรกๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กมัธยมรอยต่อเข้ามหาวิทยาลัย พอออกมามันก็จะกลายเป็นเรื่องวัยรุ่นสมัยนี้แล้ว เราเองก็ห่างไกลจากคำว่าวัยรุ่นพอสมควรแล้ว”
อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์
“เมื่อมีมาก็มีจบ แต่สิ่งที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของเราทุกคนคือความประทับใจมากมาย ตลอดระยะเวลาเป็นสิบๆ ปีของซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นซีรีส์บุกเบิกแรกๆ ในวงการบันเทิงไทย ที่มีกระแสตอบรับดีและยาวนาน ก็ขอให้เรื่องนี้ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ”
ในอนาคตจะมีโอกาสที่จะหยิบยกเรื่องนี้มาทำใหม่
“อันนี้ยังตอบไม่ได้ครับ ไม่แน่ๆ อีกหลายปีค่อยคุยกันใหม่ครับ”
กลับมาครั้งนี้กับบทบาทคุณพ่อ
“จริงๆ บทประพันธ์เรื่องเด็กเสเพล ตัวละครเด่นๆ ก็จะมีอยู่ประมาณหนึ่ง เราถือเป็นตัวเริ่มเรื่องอีกแล้ว เป็นคาแรกเตอร์ที่มีความน่าสนใจ”
ต้องดูบทที่น่าสนใจ ถึงจะกลับมารับเล่นละครหรือเปล่า
“คือ ณ วันนี้ การตัดสินใจ เล่นละครแต่ละเรื่อง มันก็ต้องมีความน่าสนใจนิดนึง ต้องมีความสำคัญ มันหลายอย่างปนกัน และตอนนี้เราก็วัยล่วงเลยมาประมาณหนึ่งแล้ว”
ต้องแบ่งเวลาในการทำงานทั้งผู้จัดและนักแสดง
“ก็ทำเต็มที่ครับ ปกติก็ใช้เวลากับการทำงานแทบทุกวันอยู่แล้ว พอดีเรื่องนี้ เป็นคิวที่ไม่ตรงกับละคร ที่เราดูแลอยู่ ก็มารับเล่นได้”
จากอดีตพระเอกมาสู่บทพ่อ เรารู้สึกยังไงบ้าง
“มันไม่แปลก จริงๆ ตัวละครพ่อในการแสดง มันมีหลากหลาย พ่อที่อยู่กับลูกตั้งแต่ต้น พ่อพระเอก พระนางเอก ที่เดินเรื่องคู่ลูกมา ตัวละครบางตัวที่เป็นพ่อ จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง ก็จะอีกแบบหนึ่ง”
ไม่ซีเรียสกับการมารับบทพ่อ
“จริงๆ แล้วละครไทยมันมีแค่พระเอก นางเอก ตัวโกง ถ้าหลุดจากสามตัวนี่ก็ต้องคิดว่าจะเป็นอะไร ขึ้นอยู่ว่าตัวละครนั้นๆ มีความสำคัญมากแค่ไหน ส่วนผมเองเป็นพระเอกมา 50 กว่าเรื่องแล้ว เราคงไม่สามารถเป็นพระเอกไปได้จนอายุ 50 หรอก มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และด้วยหน้าที่การงาน สิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันก็ผ่านขั้นตอนหลากหลายในชีวิตมาแล้ว คือถ้าไปเป็นพระเอกมันก็ไม่ได้ดังไปกว่าเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิมและคงอยู่ เพียงแต่เราเลือกรับเล่นละครในบทที่มันมีความน่าสนใจมากกว่า”