'Suspiria' ภาพยนตร์สุดหลอนของ 'ลูกา กัวดาญิโน่' | คมชัดลึก

           ในปี 2017 หลายคนอาจจะคุ้นชื่อผู้กำกับ ลูกา กัวดาญิโน่  จากภาพยนตร์ดีกรีเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Call Me by Your Name (คอล มี บาย ยัวร์ เนม)” ผลงานคุณภาพที่หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือหนังที่ส่งมอบประสบการณ์ความอิ่มเอมใจอย่างน่าอัศจรรย์  แต่สำหรับหนังสยองขวัญอย่าง “Suspiria”  ที่มีฉากหลังเป็นกรุงเบอร์ลินในช่วงสงครามเย็นนั้น  สิ่งที่ผู้ชมจะได้สัมผัสอาจไม่ใช่ความอิ่มเอม หากแต่เป็นความสยองขวัญที่พรั่งพรูออกมาดั่งเลือดที่กำลังไหลทะลัก

           “Suspiria(ซัสพีเรีย)” คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1977 เมื่อหญิงสาวชาวอเมริกัน ซูซี่ แบนเนี่ยน (ดาโกต้า จอห์นสัน) ได้เดินทางมาถึงที่กรุงเบอร์ลินเพื่อมาออดิชั่นในคณะบัลเลต์ที่มีชื่อเสียง ความฝันของเธอคือการได้รับการอบรมจากหัวหน้าผู้ฝึกสอน มาดามบลังค์ (ทิลด้า สวินตัน) แต่เรื่องแปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้นภายในคณะแห่งนี้เมื่อ แพทริเซีย (โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์) หนึ่งในนักเต้นได้หายตัวไปจากคณะอย่างปริศนา ทิ้งร่องรอยเอาไว้เพียงเสียงของเธอที่ก้องสะท้อนอยู่ ณ โถงทางเดิน โอลก้า (เอเลน่า โฟคีน่า) อดีตนักเต้นนำของคณะ ได้ถูกขังอยู้ในห้องฝึกซ้อมคนเดียว ร่างกายของเธอค่อยๆ บิดเบี้ยวจนทำให้กระดูกของเธอแตกหัก ความเจ็บปวดของเธอถูกถ่ายทอดผ่านภาพสะท้อนบนกำแพงกระจกในห้องปิดตายแห่งนั้น เสมือนกับว่าเธอกำลังเต้นรำอยู่กับปีศาจ

           โดย ลูกา ได้เผยถึงครั้งแรกที่เขาได้พบกับ “Suspiria (ซัสพีเรีย)” ของ ดาริโอ อาร์เจนโต ว่า ในเวลานั้นคือช่วงที่เขายังมีอายุเพียงแค่ 10 ขวบ  เขาได้เดินผ่านโรงภาพยนตร์ที่ถูกทิ้งร้างในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งของอิตาลี โรงภาพยนตร์แห่งนั้นคือที่แรกที่ทำให้เขาได้พบกับโปสเตอร์หนัง “มันเป็นภาพของนักเต้นบัลเลต์ที่ไม่มีศีรษะครับ” ลูกา นึกถึงตัวเขาในอดีต “มันเป็นภาพที่ดูหลอน เป็นภาพที่ปลุกความรู้สึกบางอย่างในตัวผม และเป็นภาพที่ทำให้ผมต้องมนตร์สะกดหนังเรื่องนี้ไปทั้งชั่วชีวิต” ภายหลังในช่วงที่เขาอายุ 14 ขวบ เขามีโอกาสได้รับชม “Suspiria(ซัสพีเรีย)” โดยบังเอิญผ่านช่องทางโทรทัศน์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การนำ “Suspiria (ซัสพีเรีย)” มาสร้างใหม่ก็ได้กลายเป็นความฝันและเป้าหมายในชีวิตของเขา 

           ในปี 2018 ลูกา กัวดาญิโน่ ได้ปลุกตำนานภาพยนตร์สยองขวัญของ ดาริโอ อาร์เจนโต ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งบนจอภาพยนตร์ โดยถือคติว่า การสื่อสารที่ดีที่สุดนั้นไม่ใช่การเล่าเรื่องผ่านคำพูด แต่เป็นการเล่าเรื่องผ่านรายละเอียดของภาพและการออกแบบ  และเมื่อโอกาสมาถึงเขาจึงได้ปรึกษากับผู้กำกับภาพ สยมภู มุกดีพร้อม เรื่องการกำกับโทนสีและภาพของหนังเรื่องนี้ 

            ด้านสถานที่ถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งอยู่บนภูเขาอันหนาวเหน็บทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี โรงแรมร้างที่ตั้งอยู่กลางภูเขาเป็นตัวแทนของคณะบัลเลต์ที่ถูกปมคลุมด้วยความลับสีดำ โรงแรมที่ครั้งหนึ่งเคยถูกทอดทิ้งได้ถูกเหล่าแม่มดของ ลูกา กัวดาญิโน่ ปลุกให้มีชีวิตอีกครั้ง พวกเธอได้มารวมตัวกันที่นี่เพื่อกิน ดื่ม และประกอบพิธีกรรม บางคนต้องพบกับจุดจบบนกองเลือด บางคนต้องซ้อมเต้นอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อการถ่ายทำฉากเต้นสุดทรหด 50 ช็อต ภายใน 5 วัน และแม้กระทั่งนักแสดงนำอย่าง ดาโกต้า จอห์นสัน ต้องเข้ารับการรักษาสภาพจิตหลังเสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้วพวกเธอก็คือเหล่าแม่มดของ ลูกา กัวดาญิโน่ “การได้ถ่ายทอดสิ่งที่ผมรัก ผ่านลงไปในภาพยนตร์ถือเป็นสิ่งที่นำความปิติยินดีมาให้ผมเป็นอย่างมาก” ลูกา กล่าว “มันรู้สึกดีจริงๆ ครับที่ได้อยู่ร่วมกับเหล่าแม่มดของผม”

          ภาพยนตร์เรื่อง “Suspiria(ซัสพีเรีย)” จะเข้าฉาย 31 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์