"คริส" พีรวัส แสงโพธิรัตน์ รับมีคนเข้ามาคุย แต่ยังไม่มีคนที่โอเคจนอยากลงหลักปักฐาน เผยกลัวการเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน เพราะหวั่นเข้ามาเพราะกระแสความดัง
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - เป็นหนุ่มฮอตที่เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดง สำหรับ “คริส” พีรวัส ล่าสุดก้าวเข้ามาเป็นนักร้องพร้อมปล่อยเพลง “ประตู อากาศ และวันดีดี” ออกมา ซึ่งกระแสตอบรับที่ปรเทศไทยว่าดีแล้ว แต่ที่ประเทศจีนดีกว่า เพราะติดชาร์ตเพลงที่เมืองจีนติดต่อกันเกือบ 2 เดือน งานนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องนี้
"ใช่ครับ ขึ้นชาร์ต 7 สัปดาห์ แต่สัปดาห์ที่ 8 โดนโค่นไปแล้ว (หัวเราะ) ซึ่งกระแสตอบรับที่ประเทศจีน คริสเองเช็คจากทวิตเตอร์ที่มีการแท็กมา ถามว่ากระแสดีขนาดนี้อยากทำเป็นเวอร์ชั่นจีนไหม ตอบเลยว่าเป็นเรื่องที่ยากจัง แต่ใจจริงก็อยากทำนะ แต่เราก็มีความกังวลเพราะเราไม่รู้ว่าช่วงนี้เขาอยากที่จะฟังเพลงของเราอยู่ไหมคือตัวคริสเองก็อยากที่จะให้แปลเป็นภาษาอื่นๆ เพื่อที่จะได้ไปร้องให้แฟนๆ ในแต่ละประเทศที่เราไปเจอได้ฟังและอีกอย่างคือคริสอยากที่จะเปลี่ยนจังหวะของเพลงนี้ด้วย อยากจะอะเรนจ์ใหม่ให้เป็นแนวสนุกๆ อันนี้คือสิ่งที่อยากทำจริงๆ คืออยากเอาเพลงประตูอากาศและวันดีๆ มารีมิกซ์ใหม่ เพื่อให้มันสนุกยิ่งขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าเวลาเราไปตามงานเราอยากมีเพลงสนุกๆ ร้องกับแฟนๆ เพราะบางทีเพลงซึ้งๆ มันก็จะให้อารมณ์หน่วงๆ หน่อย คือเราคิดว่าถ้ามันสามารถเปลี่ยนจังหวะได้มันก็อาจจะทำให้สนุกมากขึ้น"
กระแสเพลงนี้ดีขนาดนี้จะทำเพลงที่ 2 ไหม
"เรื่องเพลงที่ 2 ตอนนี้ก็กำลังคุยกันอยู่ แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นเพลงแนวไหนสไตล์ไหน แต่แต่คริสก็แอบบอกพี่ถา (สถาพร ผู้บริหาร GMM TV) ไปว่าอยากให้เพลงเป็นจังหวะเร็วนิดหนึ่ง เพราะตัวเราเอง เราอยากที่จะเป็นศิลปิ นอยากเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วคือตอนเด็กๆ เราอยากเป็นนักดนตรีไม่ได้อยากเป็นนักร้องแต่เพราะว่าเราชอบอะไรที่อยู่กับดนตรีพอเวลาได้มาร้องมันก็สนุกดี"
ตอนนี้งานค่อนข้างเยอะทั้งเพลงทั้งซีรีย์มีเวลาให้กับอย่างอื่นไหม
"จริงๆ ก็มีขายเสื้อนะเสื้อแบรนด์ของเราเอง ซึ่งเป็นธุรกิจข้างนอก แต่ว่าปีหนึ่งเราก็จะทำเสื้อออกมาแค่ 4-5 ครั้ง คือไม่ได้ทำขายตลอด คือเราทำกับเพื่อนเพราะเพื่อนคริสเรียนสถาปัตย์ เป็นเพื่อนที่รู้จักการตั้งแต่ตอนมัธยมแล้ว เพื่อนก็จะคอยออกแบบ คอยไปเอาของให้ เป็นแอดมินตอบไลน์ ในส่วนคริสก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายขายทำงานด้านการตลาด PR ไปแต่ที่ผ่านมาคริสจะคอยสอนเพื่อน เพราะคริสเองเคยทำขายตรงมาก่อน เราก็จะรู้วิธีคุยกับคนเพราะบางทีก็จะเจอคนที่ป่วนๆ เราก็จะคอยบอกเพื่อนว่าเวลาตอบไลน์หรือเวลาต้องพูดคุยกับคนจะต้องทำยังไง"
ทำงานเยอะขนาดนี้มีเวลาให้กับเรื่องความรักไหม
"เชื่อไหมว่าช่วงนี้คริสโดนถามเรื่องความรัก เรื่องว่ามีแฟนเยอะมาก จนคิดว่ามันมีอะไรหรือเปล่า แต่ก็มีคนเข้ามาคุยบ้างหลังจากที่โสดมาช่วงนั้น ก็ได้เจอคนเข้ามาหลายคน มีทั้งแบบที่โอเคและไม่โอเค แต่ของแบบนี้มันคงต้องรอดูกันต่อไป แต่เรื่องที่ว่าจะลงหลักปักฐานกับใครคงยังไม่มีแน่ๆ คือตัวคริสเองเป็นคนที่ซีเรียสกับเรื่องของความรักมากๆ เวลาคนที่เข้ามาคุย คริสจะมองเขาติดลบไว้ก่อนเลย เราจะมีความคิดว่าเขาเข้ามาชอบเราที่อะไร ชอบเราที่กระแสของเราหรือชอบเราที่ตัวเราจริงๆ คือเราชอบคิดลบไปก่อนมันก็เลยต้องใช้เวลาถ้าจะมีใครเข้ามา เราเป็นคนขี้ระแวงเพราะด้วยความที่ด้านลบความรักเราเยอะมันเลยเป็นเรื่องที่ยากมากเวลาเราอยากจะเริ่มต้นกับใครจริงๆ"
กลัวการเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนหรอ
"ใช่ คริสกลัวการเริ่มต้นใหม่มากๆ เพราะเราเป็นคนมีนิสัยเปรียบเทียบด้วยมั้ง พอมีใครเข้ามาเราก็เปรียบเทียบกับคนก่อนหน้านี้ด้วยคือถ้าเราเจอแล้วยังกลับไปคิดถึงคนเก่าเราเลยอยากไม่อยากที่จะไปต่อ"
ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นคู่จิ้นกับ "สิงโต" ปราชญา ด้วยหรือเปล่า เพราะเหมือนถ้าไม่ใช่คนนี้แฟนๆ ก็ดูจะไม่โอเค
"จะหมายถึงว่าเพราะว่าพี่สิงทำให้คริสเริ่มต้นใหม่ไม่ได้หรอ (หัวเราะ) จะยังไงดีล่ะ คือคริสคุยกับพี่สิงทุกเรื่องนะ ทั้งเรื่องความรัก เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวอื่นๆ เราสองคนเวลาเฮิร์ทก็เฮิร์ทพอๆ กัน อย่างเวลาเซ็งๆ เรื่องของความรักแล้วมาบ่นๆ กันมันเหมือนเอาน้ำมันมาราดใส่กัน ก็จะมีอารมณ์กันขึ้นเรื่อยๆ ก็จะบิ้วกันไปบิ้วกันมา อยู่กันสองคน (หัวเราะ) คือเป็นการช่วยกันให้มันดีขึ้น แต่ไม่ใช่ในทางปลอบ แต่เป็นอีกทางหนึ่งมากกว่า (หัวเราะ)"
แอบเหงาบ้างไหม
"เอาจริงๆ นะ คริสเป็นคนขี้เหงา ต้องอยู่กับเพื่อนตลอด ช่วงที่มีแฟนก็จะติดแฟนมากๆ ช่วงนี้ไม่มีแฟนก็จะติดกับเพื่อนมากๆ พอทำงานเสร็จก็ต้องเจอเพื่อน เพราะเราเป็นคนขี้เหงามาก ถ้าสมมุติเรามีใครเข้ามาคุยเราก็อยากที่จะลองทำความรู้จักเขา คือถ้ามันโอเคมันก็จะได้ดีไปเลย เพราะสำหรับคริสเป็นคนที่มีความคิดว่ายิ่งคบนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีถ้าสมมุติว่าเราคบตั้งแต่วันนี้เพราะอายุ 30 ปีขึ้นไปเรายังคบเขาอยู่ เราก็จะรู้จักเขาในทุกๆ อย่าง"
เคยมองเรื่องของอนาคตว่าอยากแต่งงานไหม
"อยากมาก อยากมีลูก สำหรับคริส ลูกคือทุกอย่าง อยากมีลูกสาว อยากมีลูกชาย อยากมีลูกแฝด อันนี้คือความฝันของเราเลย แต่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า คืออยากมีลูกอยากมีชีวิตครอบครัว คือคริสจะเริ่มแพลนไว้มาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อน ก่อนเข้าวงการคริสวางแผนไว้ว่าอายุ 30-31 ปีจะแต่งงาน แต่พอมาอยู่ตรงนี้ คริสไม่รู้แล้วไง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะการมาอยู่ตรงนี้เราเองก็ต้องแคร์ใครหลายๆ คนด้วย แต่ใจเราไม่อยากมีลูกตอนแก่อยากมีลูกในวัยที่เราสามารถเล่นไปไหนมาไหน คุยกันเข้าใจไม่อยากที่จะเราอายุมากๆ แล้วลูกอายุน้อย คือเราอยากที่เราอายุสัก 40 กว่าๆ แล้วลูกเริ่มเข้าวัยรุ่น เพราะเราสามารถทำกิจกรรมอะไรกับเขาได้ด้วยความเข้าใจ อันนี้คือความฝันที่คิดไว้"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง