'แอม' คบได้ทั้งชายและหญิง | คมชัดลึก

         ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ทำเอาฮือฮาไม่น้อยเมื่อ “แอม" เสาวลักษณ์ ลีละบุตร ไปให้สัมภาษณ์เปิดเผยเรื่องความรักในรายการคลับฟลายเดย์ ว่าเป็นไบเซ็กชวล ทั้งที่ในปัจจุบันก็มี "จิ๊บ" อรรถพล แฟนหนุ่มรุ่นน้องที่คบหามานานกว่า 10 ปี เป็นสามี ได้สอบถามนักร้องสาวในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “สาว สาว สาว” ณ บริเวณล็อบบี้ อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลสได้ความว่า

         “ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่ว่าพี่ไม่ได้เป็นคนเดียวด้วยนะ พี่ว่าจริงๆแล้วเราไปรู้สึก โฟกัสและไปหวาดกลัวกับคำมากเกินไป มันไม่ใช่หรอก มันเป็นแค่ศัพท์ทางการแพทย์มันไม่มีอะไร พี่เชื่อว่าเราทุกคนต่างมีนิสัยหนืบุคลิกอะไรบางอย่างที่ปนกันอยู่แล้วระหว่างเพศชายและเพศหญิง ไบเซ็กชวลไม่ใช่การไปนอนกับผู้ชายหรือนอนกับผู้หญิงได้ แต่มันหมายถึงนิสัยใจคอบางอย่าง ความแมน และเราก็โตมากับโรงเรียนหญิงล้วน ซึ่งวัยรุ่นสมัยก่อนไม่ได้มีเรื่องเซ็ก ที่บอกว่าเป็นแฟนกันตอนเด็กๆ ก็เป็นรุ่นพี่จีบรุ่นน้อง มีเขียนจดหมายใส่กระดาษหอมๆ ให้ดอกไม้กันวันวาเลนไทน์ หรือติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจให้กัน คือเราโตมาแบบนั้น และพี่ว่าพี่เป็นคนเปิดกว้าง เพื่อนๆ น้องๆ ของเรามีทุกเพศจริงๆ ซึ่งตัวพี่เองก็เป็นหนึ่งในนั้นจริงๆ พี่เชื่อว่าถ้าคนเรามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน จะเป็นเพศไหนมันไม่สำคัญ อย่างตัวพี่เองก็เคยมีแฟนผู้หญิงสมัยอยู่โรงเรียนเรียกว่าตามแฟชั่นของเด็กยุคนั้น ทุกวันนี้มันไม่ใช่ผู้หญิง50 ผู้ชาย50 บางทีมันเหมือนเราเป็นผู้หญิงอยู่ 70 เปอร์เซ็นต์ อีก 30 เปอร์เซ็นในบางมุม ก็จะสนใจผู้หญิงในบางส่วนเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราลุกไปไล่ปล้ำเขา ยังยืนยันตรงนี้ว่ามีแฟนผู้หญิงได้ มีแฟนผู้ชายได ซึ่งมันขึ้นกับว่าคนนั้น เราชอบเขาตรงไหน มันใช่ไหม คือเราไม่ได้ดูว่าสภาพเพศคืออะไร ถ้าชอบกันก็ไม่แปลก”

ความรู้สึกจะต่างกันไหม เวลาคบกับผู้หญิงหรือผู้ชาย

         “จริงๆ พี่ว่าบางทีเรายังรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้นิสัยหยุมหยิมเหมือนผู้หญิง ส่วนผู้หญิงบางคนเราก็อาจจะรู้สึกว่าโคตรแมนเลย มันอยู่ที่ว่าความรู้สึกในแต่ละวัน เพราะทุกคนมีมิติหลายๆ มิติในตัวเอง มันขึ้นกับว่าวันไหน มิติไหนจะเด่นขึ้นมา พี่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติมากๆ ซึ่งแฟนพี่ก็รู้ เพราะตอนอยู่โรงเรียนพี่ก็มีแฟนผู้หญิง”

ที่ผ่านมาทำไมไม่เปิดให้ชัดเจน

         “มันไม่มีความจำเป็นอะไร เพราะว่าพี่แยกแยะว่า การที่เราจะร้องเพลง หรือการที่เรามีชื่อเสียงนั้นคืองาน คืออาชีพที่เราทำเพื่อให้เรามีกิน แต่ชีวิตปกติพี่ก็เหมือนน้องๆ ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งธรรมดา มีปวดอึปวดฉี่เหมือนทุกคน แต่มันเป็นเพราะอาชีพแค่นั้นเองที่ทำให้คนดูเหมือนเป็นเรื่องแปลก”

มีคนมาถามไหม

         “ตามหลักการ ถ้าคนไม่รู้จักกันเขาคงไม่ถาม นอกจากเป็นสื่อมวลชน ซึ่งพี่ก็ยอนดีตอบ พี่ไม่ได้มีความลับอะไร เพียงแต่เราไม่ได้ประกาศว่ามีแฟนแล้วแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ คือรู้สึกติงต็อง ไม่เห็นต้องทำเลย”

คนที่คบอยู่นานแค่ไหน

          “10 กว่าปีแล้ว ก็เป็นพ่อบ้านแม่บ้านที่ตลกด้วย เพราะพ่อบ้านผมยาว แม่บ้านผมสั้นกุด สร้างความสับสนให้ลูก ”

พอมีโบข้อความนี้ออกมามีคนมาถามไหม

        "จริงๆ ไม่ต้องมีใครมาถามเพราะเขารู้อยู่แล้ว เขารู้กันตั้งนานแล้ว เอางี้อย่างที่บอกว่าพี่อยู่โรงเรียนหญิงล้วน เพื่อนๆ ก็จะรู้อยู่แล้ว เขาก็เห็นเป็นเรื่องปกติ จนถึงทุกวันนี้บางคนก็ยังมีแฟนทอมอยู่ อะไรก็ได้ พี่มีเพื่อนทุกเพศ ฉะนั้นตัวพี่จะเป็นอย่างไรเพื่อนๆก็ไม่ได้แปลกใจอะไร มันก็เป็นแบบนี้ เดี๋ยววันนี้เป็นแม่บ้าน ลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ผัวกิน เดี๋ยววันนี้มันก็แมนมากเลย แล้วแต่จะได้รับบทบาทไหน วันนั้นเราต้องทำโจทย์อะไร"