
'ไก่' วรายุฑ เคลียร์ผูกขาด 'สน' เล่นละครตัวเอง
"ไก่" วรายุฑ มิลินทจินดา เผยอยากเปลียนลุค "สน" ยุกต์ จับคุณชายมาเป็นทาสใน "สัตยาธิษฐาน"
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - เรียกว่าเป็นพระเอกคู่บุญของ "ไก่" วรายุฑ สำหรับหนุ่ม "สน" ยุกต์ ส่งไพศาล เพราะละครเรื่องล่าสุดอย่าง สัตยาธิษฐาน ก็ยังได้หนุ่มสนมาเป็นพระเอก ได้สอบถามเรื่องนี้ในงานบวงสรวงละครที่หนองแขมได้ความว่า
“เขาน่ารักมากนะ เขาไปอบตัวให้พี่เลยนะ ไปย้อมสีผิวให้เราเองเลย เราไม่ได้รีเควส เขาบอกว่าเขาอยากจะดำให้มัรฝนเหมือนจริง แล้วเราก็ติดต่อบริษัทที่มีการอบตัว บังเอิญเป็นบริษัทญาติพี่เอง ก็เลยบอกเขาว่าจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ ก็อบเป็นสีแทน จริงๆเขาเป็นคนผิวขาวมาก และอบสีผิวยากมาก ส่วนที่ให้สนมาแสดงเพราะเขาไม่เคยเล่นบทแบบนี้ เขาเล่นเป็นเศรษฐี เป็นคุณชายตลอด เราก็อยากเปลี่ยนลุคเขา เรื่องนี้จนเป็นทาสมันเป็นอะไรที่ท้าทายเขา ถามว่าเห็นบทแล้วนึกถึงสนหรือเปล่า คือตอนแรกยังไม่คิดถึงใคร แต่ได้คุยกับคนเขียนบทพี่แดงว่าจะเอาใครดี คือใจเรามีสนอยู่แล้ว ซึ่งพี่แดงบอกเราว่า "ไก่...สนไง ปัจจุบันเขารวยจริงๆ แล้วเธอทำให้เขาเป็นทาสได้ไหม แหม...พี่แดงพูดขนาดนี้ เราก็เลยบอกว่าได้ค่ะ”
@ สนตกลงเลยไหม
“เขาบอกโอเคครับ คือเขาเชื่อใจเราอยู่แล้ว ซึ่งพี่บอยก็โอเค โดยเรื่องนี้เราจะปรับให้เขาน่าสงสาร เขาชื่อทด คือชีวิตเขารันทด เกิดมาก็บวชเรียนพอสึกออกมา พ่อก็เอาไปขายตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยเคยบวชเรียนมาก็เลยรู้หนังสือทาสด้วยกันก็อิจฉา ส่วนตัวร้ายก็ร้ายมาก รักมาก หวงจนต้องฆ่า ประมาณฉันไม่ได้ใครก็ต้องไม่ได้ ถามว่าเรื่องราวในอดีตจะมากกว่าปัจจุบันไหม น่าจะใกล้เคียงกัน 50/50 คืออดีตก็สนุกแบบหนึ่งชีวิตก็รันทด ปัจจุบันก็อีกแบบแล้วมันเอาทมาบวกกันได้ ถามว่าปรับเปลี่ยนไหม ไม่มีปรับเปลี่ยน ไม่มีเพิ่มตัวละคร เอาตามละครและอยู่ที่พี่แดงเขียนอะไรมาให้เรา”
@ พี่ไก่เลือกทั้งสนและเดียน่าใช่ไหม
“พี่เลือกเดียร์น่าเพราะเราอยากได้นางเอกที่ลุคดูลูกครึ่ง ส่วนพาร์ตอดีตเราก็มากดเขาเท่านั้นเอง เขาจะได้ไม่ต้องยากทั้ง 2 อัน ให้ยากไปด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนสนก็ต้องต้องคอยบอกเขาตลอดเพราะเขาเคยเล่นแต่บทคนรวย สูงศักดิ์ ทุกคนในกองต้องคอยบอกเขาตลอด คือบทนี้มันเป็นอะไรที่ท้าทายเขาด้วยท้าทายเราด้วย ถ้าเราทำแล้วคนดูไม่เชื่อว่าสนเป็นทาส ใครโดนด่า วรายุทธต้องโดนว่ามีดาราตั้งเยอะตั้งแยะทำไมถึงต้องเลือกสนลูกรัก คือมันจะโดนมากกว่าคนอื่น"
@ หลายคนก็จะมองว่าละครพี่ไก่อะไรๆก็สน
“แต่มันใช่ไง สมัยก่อนก็จะเป็นพี่นก (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ใครๆ ก็ถามว่าทำไมต้องเป็นพี่นกตลอด อ้าวก็อ่านแล้วมันใช่ไง มันโดดมาจากหนังสือ คือพี่เป็นโรคจิตอย่างหนึ่งคือถ้าจะทำละคร จะเอาคาแรกเตอร์จากหนังสือจากนวนิยายเป็นที่ตั้ง ไม่ได้เอาความดังของตัวละครหรือตัวดาราเป็นที่ตั้ง จะเห็นได้ว่าตัวท็อปไม่เคยเล่นละครพี่เลยมาเป็น 10 ปีแล้วนะ เพราะเราไม่ได้เลือกเอง อย่างหมาก (ปริญ สุภารัตนฺ์) เราก็ชอบการแสดงของเขานะ แต่มันยังไม่มีบทที่เหมาะกับเขา อย่าโป๊ป (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) ตัวนี้ก็เล่นได้ แต่เขาก็ติดโน่นติดนี่ตอนนั้น ก็เล่นไม่ได้ เราก็เอาตามบทบาท”
@ ลงทุนเยอะไหม
“เรื่องเสื้อผ้าไม่เท่าไหร่ แต่ฉากเรือนไทยเราทำใหม่หมดเลย คือเรือนไทยเรือนนี้คนถ่ายเยอะมาก เราก็กลัวคนดูยี้ดังนั้นเรือนไทยเรือนนี้จะไม่ใช่ช่อง 3 จะเป็นเรือนไทยที่เราสร้างขึ้นมา ส่วนเรือนทาสทั้งแถบตรงโน้นก็สร้างใหม่ ขุดคลองใหม่หมด (ทุนสักกี่หลักดี) ไม่รู้ อยากได้อะไรก็ทำไปเรื่อยๆ ตอนนี้เราทำ 2 เรื่อง มี “ดั่งดวงหฤทัย” และเรื่องนี้เราก็ต้องให้ความสำคัญเท่ากันไม่ใช่เรื่องโน้นทุนเยอะกว่า ไม่ได้ ส่วนตอนรวยบ้านก็สวยรวย ถามว่าโลเคชั่นซ้ำไหม บางที่ไม่ซ้ำเลย ส่วนงานในตอนนี้ ที่ดูแลเองมี 2 เรื่องคือดังดวงหฤทัย และสัตยาธิษฐาน ส่วนที่พี่อี๊ด (สินีนาฏ โพธิเวส) ดูมี ตราบาปสีชมพู เรื่องนี้ตัดต่อเรียบร้อยแล้วรอออกอากาศ ส่วนอีกเรื่องที่ถ่ายอยู่คือ หนี้รักในกรงไฟ เรื่องนี้ได้ “อาเล็ก” ธีรเดช และ แพททริเซีย กู๊ด เล่น ส่วนละครช่อง 28 นั้น เขาไม่ให้ทำละ เราก็ทำช่องนี้ปกติ ส่วนดาราที่สร้างมาก็เอามาลงช่อง 3 บางคนก็ไปเซ็นต์กับช่องอื่น เราก็ปล่อยไป
@ ละคร “ดั่งดวงหฤทัย” ถ่ายนานมาก
“ไม่ได้ถ่ายนาน อย่าใช้คำว่าถ่ายนาน เราบินไปเวียนนา แค่ถ่ายหิมะอย่างเดียวเลย เพราะที่เวียนนาเป็นที่ที่หิมะสวยที่สุดในโลก จะเปิดกล้องจริงๆ ก็หลังเรื่องสัตยาธิษฐาน แต่เดี๋ยวเดือนตุลาคมเราต้องเดินทางไปญี่ปุ่นอีก เพื่อไปถ่ายใบไม้เปลี่ยนสี เพราะญี่ปุ่นเป็นที่ที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดในโลก เรียกว่าถ่ายทำตามฤดูกาล ส่วนคิวนักแสดง เราก็ต้องขอคิวกันไว้เป็นฤดู ถ้าเขาว่างก็ให้เขาถ่ายเรื่องอื่นไปก่อน”
@ เรื่องนี้ทุ่มงบไม่อั้น
“เราก็อาจหาญเหมือนกัน เพราะช่อง 7 ทำไว้ตั้ง 2 เวอร์ชั่น แล้วเราไม่เคยทำละครรีเมคใครด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่รีเมคคนอื่น จะให้น้อยกว่าเขาก็ไม่ได้ (หัวเราะ) ที่ทำเรื่องนี้เพราะเราเคยอ่านนิยายแล้วชอบมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ แล้วบังเอิญว่าพี่ติ๊ก (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ก็อ่าน ก็ได้พระเอกเป็นพี่ติ๊ก ส่วนนางเอกเป็นน้องคิมเบอร์ลี่ ที่เลือกคิมเพราะเขาไม่เคยเล่นละครกับเราเลย เพราะฉะนั้นอยากได้คิมมาลองเป็นเจ้าหญิง การร่วมงานกับคิม ก็สบายมาก คิมน่ารัก อะไรก็ได้ แต่งตัวง่าย เพราะเขาสวยอยู่แล้ว”
(ติ๊ก-คิม พระนางละครเรื่อง ดั่งดวงหฤทัย)
@เรื่องเสื้อผ้าก็อลังการ
“เรื่องนี้ ขอบอกเลยว่าในชีวิตการทำงานมาเรื่องนี้หนักที่สุด เหนื่อยที่สุด เราตัดใหม่หมดทุกชุด เพราะว่าเราไม่สามารถไปหยิบยืมใครได้เลย เขาเป็นเจ้าหญิงและเป็นเจ้าชาย เราต้องดีไซน์เสื้อผ้า ซึ่งไม่เหมือนกับ 2 เวอร์ชั่นที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ เพราะตอนที่อ่าน เรานึกถึงภาพพระเอกเป็นฝรั่งโพกหัว แต่ต้นฉบับก็คือ ดั่งดวงหฤทัย”
@ พอเริ่มมีภาพฟิตติ้งออกมาคนก็ให้ความสนใจเหมือนกัน
“ใช่ คนเตรียมเปรียบเทียบ(ยิ้ม) แต่ก็ไม่กลัว เพราะเราไม่ได้เลียนแบบเขาเลย ถามว่าจะได้ดูเมื่อไหร่คงอีกนาน น่าจะเป็นปีหน้า”