
ความผูกพัน 15 ปีของเพื่อนในแบบฉบับ 'B5'
มิตรภาพ 15 ปีของเพื่อน 5 คน "เบน" ชลาทิศ "โต๋"ศักดิ์สิทธิ์ "มาเรียม เกรย์ อัลคาลาลี่" "เค้ก" อุทัย และ "คิว" สุวีระ
เรียกว่าเป็นการกลับมาที่แฟนๆ รอคอย สำหรับกลุ่มศิลปินเพื่อนซี้ในนาม “บีไฟว์ (B5)” ที่มีสมาชิกประกอบด้วย “เบน” ชลาทิศ ตันติวุฒิ “โต๋”ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร “มาเรียม เกรย์ อัลคาลาลี่” “เค้ก” อุทัย ปุญญมันต์ และ “คิว” สุวีระ บุญรอด หรือ “คิว นักร้องนำวง ฟลัวร์” ที่กว่า 15 ปี ที่พวกเขาเดินแยกทำตามทางของตัวเอง จนล่าสุด “บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นต์” นำพวกเขากลับมารวมกันอีกครั้ง ในคอนเสิร์ต “B5 NOW 15 (บีไฟว์ นาว ฟิฟท์ทีน)" ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 กันยายนนี้ ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยพวกเขาได้เล่าถึงการกลับมาในครั้งนี้
มาเรียม : “จริงๆ พวกเรา 5 คนได้เจอกันตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่เบนกับโต๋จะมีโอกาสได้เจอผู้ใหญ่ๆ กันบ่อย แล้วก็มีการไปแย็บๆ ว่าสนใจ บี 5 กลับมาไหม แล้วจนมาวันหนึ่งผู้ใหญ่ทางบีอีซีเทโรฯ ก็มองว่ามันได้เวลาแล้วที่พวกเรากลับมารวมกัน ในตอนแรกพวกเรามองที่เพลงก่อน จริงๆ ก็มองไปที่คอนเสิร์ตด้วย แต่ก่อนจะมีคอนเสิร์ตก็ต้องมีเพลงออกมาเป็นการปูทางไปยังจุดหมายปลายทางของเราจำได้ว่าตอนนั้นเราตื่นเต้นกันมากเลย นัดมาเลือกเพลงอะไรกันดี ซึ่งวันนั้นลิสต์เพลงกันได้ประมาณ 40 เพลง”
เค้ก : “โดยในช่วงเวลาตลอด 15 ปี พวกเรามีการพูดคุยเรื่องของการกลับมาทำงานด้วยกันมาตลอดเลย แต่ครั้งนี้คือเส้นชัยคือคอนเสิร์ต เราพยายามเลือกเพลงเก่าๆ มีเพลงตั้งแต่สมัยเบเกอรี่ มิวสิค จนไปถึงเพลงต่างประเทศ เพลงจีน เลยเถิด มันสนุกได้ระดมความคิด ไม่ได้มีกรอบอะไร มันเป็นรูปเป็นร่างจริงๆ ตอนเราไปอยู่ที่คาร์ม่าสตูดิโฮ แถวบางเสร่ จ.ชลบุรี เราไปกินนอนอยู่นั่น 3-4 วัน ก็มีพี่ไก่-สุธี แสงเสรีชน ด้วย คิดอะไรได้ก็อัดไว้ เหมือนเราไปทำเดโม ครั้งแรกกันที่นั่น วิธีการทำเพลงมันก็ย้อนกลับไปไม่เหมือนสมัยนี้”
โต๋ : “ตอนแรกที่กลับมารวมกัน เพราะว่าครบรอบ 15 ปี จริงๆ ทุกคนจ้องจะทำกันตั้งแต่ครบรอบ 5 ปี และเลยมาครบรอบ 10 ปี จนมาอ่ะ!! ครบรอบ 12 ปีก็ได้ คือหาเรื่องกันมาตลอด แต่จังหวะมันไม่ลง จนมา 15 ปี โปรเจ็กต์นี้มีคอนเสิร์ตเป็นเส้นชัยก็จริง แต่วันคอนเสิร์ตนอกจากซื้อบัตรดูคอนเสิร์ตแล้ว คุณจะได้อัลบั้มใหม่ด้วย ซึ่งตอนนี้เรื่องอัลบั้มใหม่ไม่รู้จะมีวางขายหรือเปล่า แต่คือมีให้ที่คอนเสิร์ตแน่ๆ ซึ่งกว่าจะได้ทำอัลบั้มนี้ต้องล็อกคิวกัน 3-4 เดือนเลย แต่มันไม่เหมือนการทำงาน เหมือนการไปเอ้าท์ติ้งกันมากกว่า”
การเลือกเพลงสำหรับทำเป็นอัลบั้มและโชว์ในคอนเสิร์ต
โต๋ : “ในอัลบั้มเลือกมา 8 เพลง จะมีเพลงที่มันเว่อร์วังกันมาก มันยากมากเพราะเพลงเดี่ยวของแต่ละคนก็มีหลายเพลงที่เราอยาก จะร้อง ด้วยจำนวนเพลงที่มีจำกัด สุดท้ายแล้วก็เอาไว้ก่อนก็ได้ เพราะเวลาเราเลือกเพลงที่อยากจะร้อง ก็ต้องมาดูว่าพอมารวมกันแล้วในอัลบั้มมันมีสีสันครบมั้ย ถ้ามีแล้วก็อย่าเอามาซ้ำเลย”
เบน : “เพลงสำหรับคอนเสิร์ตก็เหมือนที่โต๋บอกเลย เราเลือกมา 20 เพลง เพลงละ 4 นาที และยังไม่รวมเพลงเดี่ยวของตัวเอง อย่างต่ำคนละ 2-3 เพลง พอเรากลับมาเล่นด้วยกัน เราก็อยากเล่นเพลงออริจินัลของบีไฟว์ เพราะมันมีท่อนที่ได้ยินเสียงทุกคน มันคือคอนเสิร์ตของบีไฟว์”
การกลับมารวมกันเมื่อผ่านไป 15 ปี เป็นยังไงบ้าง
คิว : เราว่าต่างคนต่างโตขึ้น ถ้าไม่นับเรื่องของสังขารนะ (หัวเราะ) เหมือนการเล่าเรื่องอะไรต่างๆ เราฟังแล้วเราโห้ววว หรือเพราะเราไม่ได้ฟังเขาร้องกันมานาน กับการร้องกันครบ 5 คน พออยู่ด้วยกันเรามีความสุขมาก แล้วรู้สึกว่าเนี่ยมันใช่ เราไม่รู้ว่าคนฟังจะชอบไหม หรือรู้สึกเหมือนตัวเราหรือเปล่า แต่สำหรับเรามันเป็นพลังงานที่ดี
โต๋ : “บีไฟว์เป็นศิลปิน 5 คน มันจะมีโลก 5 โลก แล้วจะมีโลกที่ 6 เป็นโลกที่ทุกคนมารวมกัน มันมีอินฟินีตี้วอล ที่เป็นโลกที่คนมาอยู่ร่วมกันโดยการหาความบาลานซ์ ทุกคนจะหาตรงกลางมาเจอกันพอดี แต่พอแยกเดี่ยวทุกคนจะเป็นอีกแบบนึง ถึงแม้สไตล์แต่ละคนจะต่างกันยังไง มันเป็นธรรมชาติของทุกคนที่จะมีบางอย่างร่วมกัน เรามีอารมณ์ทุกๆ อย่างร่วมกัน”
เบน : “มันเป็นอีกโลกหนึ่งที่ทุกคนมารวมกัน มันไม่ได้เสียสละอะไรด้วยนะ มันเป็นความรู้สึกออโต้ พอมาอยู่กับเพื่อนปุ๊บมันจะอัตโนมัติเอง”
มาเรียม : “มันเป็นความสัมพันธ์ ที่พอเราเข้ามาอยู่กับใครสักคนหนึ่งแล้ว เออ เราเป็นแบบนี้ มันอยู่ด้วยกันได้ โดยที่เราไม่ได้เสียอะไร"
ความผูกพันของ “B5” ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา
คิว : “เชื่อไหมว่าผมไม่ได้คิดว่าอยากให้คนพวกนี้มาอยู่ในชีวิตด้วยซ้ำ (อีก 4 คนหัวเราะ) 15 ปีที่แล้วผมเป็นคนที่ไม่รู้จะดาร์ก อะไรนักหนา ตอนนั้นผมรู้จักเบนคนเดียว วงฟลัวร์ กับ เบน เข้ามาใกล้ๆ กันมาก เรายังไม่รู้จักคนอื่น จนกระทั่งมาเจอ โต๋ มาเรียม และเค้ก ในวันที่เราอินดี้มาก ผมไม่คุยกับใครเลย สุดท้าย 15 ปีผ่านไป มันกลายเป็นว่าคนพวกนี้มาอยู่ในชีวิตเรา อย่างมาเรียมผมไม่คิดจะคุยอะไรกับเขาเลยนะ แต่พออยู่ไปสักพักกลายเป็นเพื่อนที่ผมเจอบ่อยที่สุด ช่วงที่อินดี้เราก็มีการปรับตัว แต่มันเป็นวัยเรามากกว่า อายุ 20 ปี กบฏสุดๆ พอเราอยู่กันไปสักพักหนึ่งมันก็อยู่กันได้ คนเราต่อให้มีรสนิยมใกล้เคียงกัน แต่มันอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่เราอยู่กับคนพวกนี้ได้ สมัยก่อนเราไม่พอใจอะไรก็เขียนด่า แต่งเพลงว่าโน่นนี่ พอเวลาผ่านไปเราก็รู้สึกว่าไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยที่เราทำอย่างนั้น พออยู่กันมาสักพักกลายเป็นโต๋ดาร์กกว่าผมอีก (หัวเราะ)”
โต๋ : “การได้ทำงานแบบเพื่อน ผมชอบบรรยากาศเราอยู่ด้วยกัน 5 คน เวลาผมอยู่คนเดียวก็ไม่สนุก เราจะเห็นมุมหลายๆ มุมเวลาอยู่กับเพื่อน ผมว่าเนื้อหาสำคัญของบีไฟว์มันคือการร้องเพลงให้ดี ให้มันตราตรึงใจคน ผมว่าจุดแข็งของบีไฟว์คือความเป็นเพื่อน เราทำงานด้วยกัน เราพูดกันตรงไปตรงมา เราเป็นเพื่อนแบบที่ด่ากันได้ ด่ากันแบบที่รู้ว่ามันคืออะไร คือเราเป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกัน”
เบน : “B5 NOW 15 ครับ พวกเราก็มีความภูมิใจที่จะได้มารวมตัวกัน เพื่อร้องเพลงให้ทุกคนได้ฟัง เราไม่มีสัญญาอะไรให้นอกจากคอนเสิร์ตครั้งนี้เพลงเพราะแน่นอน ส่วนอัลบั้มไม่มีวางขายที่ไหนแน่นอน คนที่มาดูคอนเสิร์ตทุกที่นั่งจะได้รับซีดีอัลบั้มชุดใหม่ของเรา เป็นอัลบั้มที่เราตั้งใจทำกันจริงๆ ถือเป็นคำขอบคุณจากพวกเรา”
เรื่อง : ณัฏฐิรา หลอดแก้ว
ภาพ : ศุภกฤต คุ้มกัน