จาก "กล่อมขวัญ" ถึง "แฟนเก็บ" ทางเพลงคนชื่อ วสุ ห้าวหาญ | คมชัดลึก

   จำได้ไหมเพลงแรกที่เขียนคือเพลงอะไร
  ชื่อเพลง ”กล่อม” ชื่อเต็มๆ ว่า ”กล่อมขวัญ” เป็นเพลงที่เล่นกีตาร์ง่ายๆ เพลงนี้ปัจจุบันใช้กล่อมลูกอยู่ ความรู้สึกวันที่เขียนเพลงนี้อยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกมามันดึกแล้วประมาณ 3 ทุ่มกว่า ดาวบนฟ้ามันสวยมาก เลยคิดว่าเวลาแบบนี้ ถ้าเราอยู่กับคนที่เรารักจริงๆ จะเป็นแฟนหรือเรามีลูกจะเขียนเพลงสักเพลง ที่ให้เขานอนหนุนตักเราแล้วหลับสบาย

เริ่มเส้นทางการเป็นนักเขียนอย่างไร
  เริ่มมาจากผมชอบการเขียนก่อน ตอนที่อยากเป็นนักแต่งเพลงเริ่มมาจากตรงนั้น เคยส่งเรื่องไปลงในหนังสือ ”ไปยาลใหญ่” บ้าง เขียนบทกวี เขียนเรื่องสั้น ความเรียง ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยไปพักหนึ่ง ไม่จบตามเกณฑ์ ผมเรียน 8 ปี พอผ่าน 6 ปีมาเพื่อนรุ่นน้องชวนไปเล่นดนตรีเริ่มคลุกคลีตรงนั้น เขาก็ยุว่ามีพื้นฐานแล้วทำไมไม่ลองแต่งเพลง เลยเชื่อและก็ทำมาถึงวันนี้ เพลงแรกที่เขียนจบเพลงก็คือเพลง ”กล่อม”

เห็นบอกว่าเคยมีวงดนตรีด้วย
 ครับ ชื่อวง ”กันยา” พอวงแตกก็แยกย้ายกันไป มือเบส ชื่อ โชค ก็ไปเป็นหมอที่ขอนแก่น ตุ๋ย กีตาร์โซโล ก็ไปออกเทปกับรถไฟดนตรี ใช้ชื่อว่า ตุ๋ย ดะดาษ ตอนนี้ทำธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาอยู่ที่ด่านเกวียน พี่ปุก ก็เป็นเจ้าของผับที่ชัยภูมิ ผมก็แต่งเพลงเก็บไว้ น้องแนท วงวาสนาเขาบอกว่าเพลงที่พี่แต่งไว้มันดีหลายเพลงทำไมไม่ลองเสนอค่ายเทปบ้าง เลยทำเดโมแนวเพื่อชีวิตไปเสนอที่รถไฟดนตรี ก็ทำอัลบั้มออกมา 2 เพลง และทำงานที่นั่น

เพลงแรกที่แต่งแล้วดังคือเพลงอะไร
  เพลง “นึกเสียว่าสงสาร” ให้พี่อ้อย กะท้อนร้อง เพลงนี้ช่วงนั้นผมกลับไปทำปั๊มน้ำมันให้แม่ อยู่บ้านแล้วไม่คิดว่าจะกลับเข้ามาทำงานเพลงในวงการ แล้วพอดีเพลงนี้ดัง ทางพี่กริช ทอมมัส สอบถามไปทางครูสลา คุณวุฒิ ว่าใครแต่งเพลงนี้ ครูก็ถามไปทางพี่แพงคำ ป้องจันลา ตอนนั้นผมบวชอยู่พอสึกก็มาอยู่ที่แกรมมี่เลย

ส่วนตัวคิดไหมว่า วันนี้เราคือมือหนึ่งในแวดวงการแต่งเพลง
  ไม่ได้โฟกัสตรงนั้น ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ผมทำให้ตัวเองฟู่ไม่เป็น ไม่เคยอินกับตรงนั้นคิดว่าเรายังเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งเดินตามตลาดนัด สามารถเขียนเพลงออกมาฟังแล้วมีความสุขได้

ชอบแต่งเพลงแนวไหนที่สุด
 ตอบยาก ในพื้นฐานการเล่นดนตรีถ้าใครมาจ้างเขียนเพลงผมเขียนได้ทุกแนว พอได้มาเขียนเพลงลูกทุ่ง ผมก็พยายามประยุคเอาเพลงแบบเพื่อชีวิต การวางทางคอร์ดแบบเพลงร็อก ป๊อป เข้ามาใช้ทำให้เป็นสีสัน เพลงลูกทุ่งที่เราเขียนมันมีอะไรมากกว่าที่เคยได้ฟังมา ถ้าชอบจริงๆ จะชอบเพลงร็อกแบบมาลีฮวนน่า ส่วนภาษาชอบแบบคาราวาน

เพลงยุคแรกที่แต่งเป็นเพื่อชีวิตที่เนื้อหาแรง ทำไมออกเป็นแนวความรักไปได้
  คงเหมือนวัยรุ่นที่อยากเขียนเพลง ช่วงแรกมีอะไรก็ใส่กันเต็มที่ อยากเขียนเรื่องการเมือง  แต่พอโตขึ้นคนเรามีเรื่องราวที่มากกว่าที่เราฝันไว้ มันมีความจริงในชีวิตรอบข้าง ความเป็นอยู่ของปากท้องมันเยอะมาก แฟนไปมีคนใหม่ เราสามารถหยิบเรื่องตรงนั้นมาเขียนได้เลย เขียนเพลงรักดูบ้าง เขียนเพลงรักแล้วมันมีความสุข

การทำงานที่ต้องอยู่ในกรอบของค่ายเพลงมันขัดกับความคิดบ้างไหม
  ก็มีบ้างช่วงแรกๆ เวลาที่ค่ายเขาให้เขียนก็มีไม่เห็นด้วย เราก็ต้องแยกมาเลยที่เราแต่งเก็บคือมุมมองของเรา ส่วนเพลงที่ค่ายให้แต่งเราก็แต่งให้ดีที่สุด ทำออกมาตามที่บริษัทต้องการ

แต่งเพลงแนวอะไรบ้างที่เก็บไว้ตอนนี้
 แนวเพื่อชีวิตครับ ที่อยู่บนพื้นฐานดนตรีที่ผมรู้จักมา อยากทำแนวเพลงเพื่อชีวิตออกมา เอาแบบที่พูดถึงแวดล้อมชีวิตเราโดยรวม ตั้งแต่สถานการณ์ของประเทศลงมาถึงสังคมผู้คนจนมาถึงชีวิตส่วนตัวเราเอง มีทำไว้แล้วแต่ยังไม่ออกวางขาย ลงทุนเอง

มองเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิตอย่างไร
 พื้นฐานเพลง 2 แบบนี้มันอยู่ด้วยกัน การเขียนเนื้อหาแบบเพื่อชีวิต แต่ใช้การร้องเป็นแบบลูกทุ่งมีมานานแล้ว แต่เพิ่งมาบูมตอนนี้ มันเป็นกงล้อที่หมุนไปมาตลอด อยู่ที่ยุคไหนใครจะยกแนวอะไรมากกว่า

วันนี้มาถึงจุดสูงสุดของอาชีพแต่งเพลงหรือยัง
 มีหลายอย่างที่ยังบอกเราว่ายังเดินไม่สุดทาง ยังมีอะไรที่เราอยากทดลองอีกเยอะในเรื่องของแนวเพลง คิดว่าเรายังใช้ศักยภาพที่มีในตัวไม่หมด คิดว่ายังอยู่ระหว่างการเดินทาง ความสำเร็จที่ผ่านมามันบอกตัวเองได้อย่างเดียวว่า วิธีที่เรานั่งคิดอยู่ในห้องเล็กๆ กับกีตาร์ปากกาและกระดาษแผ่นหนึ่งมันถูกนะ ประชาชนเขายอมรับมันผ่านการพิสูจน์มาแล้ว วันข้างหน้าก็อยากให้เป็นแบบนี้