บันเทิง

เปิดมุมมองของ 'วิว'  กับ 9 ปีในวงการมายา

เปิดมุมมองของ 'วิว' กับ 9 ปีในวงการมายา

30 ก.ค. 2561

"วิว"วรรณรท สนธิไชย นางเอกเจ้าน้ำตา แห่งบ้านเอ็กแซกท์

         ผ่านร้อนผ่านหนาวในฐานะของนางเอกลูกหม้อแห่งเอ็กแซ็กท์มาหลายปี สำหรับสาว “วิว”วรรณรท สนธิไชย ตอนนี่้กำลังมีผลงานละครแนวลึกลับอย่างเรื่อง “บางกอกนฤมิต” ซึ่งตอนนี้เนื้อหากำลังเข้มข้นชวนติดตามมากๆ ล่าสุด “บันเทิง คมชัดลึก”ได้ชักชวนสาววิวมาเปลี่ยนบรรยายกาศพูดคุยกันสบายๆ  นั่่งจิบกาแฟกันที่ร้าน Beginscoffe ปากซอยพหลโยธิน 49/1  ตามประสาคนคุ้นเคย  

 

 

เปิดมุมมองของ \'วิว\'  กับ 9 ปีในวงการมายา

        @@ กระแสละคร“บางกอกนฤมิต” หน่อยเป็นอย่างไรบ้าง 

    กระแสก็ดี ดีที่แบบว่ามันก็มีผีซีจีอภินิหารอะไรต่างๆเยอะ คงเป็นการร่วมงานกันของคนที่ไม่เคยเจอเลยอย่าง พี่เป้(อารักษ์   อมรศุภศิริ ) ปู (ไปรยา ลุนดฺ์เบิร์ก) นัททิว ไผ่งาม เพลง (ชนม์ทิดา อัศวเหม ) มันก็เลยเป็นการรวมตัวของคนที่แบบยังไม่เคยเจอกัน กว่าคนทั้ง 4-5คนมารวมตัวกัน ใช้เวลาเข้าขากันนานไหมคือ การเข้าขาเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์กลายเป็นเข้ากันได้ดี เพราะว่าอาจจะด้วยทุกคนอารมณ์ชิวล์ๆ พี่เป้เขาก็ติสท์ คือความติสท์ของเขาไม่ใช่ว่าไม่คุยกับคนอื่น เรียกว่าศิลปินดีกว่า ฉะนั้นเขาจะไม่เครียดเขาก็จะแบบชิวล์ของเขา ร้องเพลง ส่วนมากคือคุยอะไรกันก็จะเป็นแบบเรื่องข้างนอก เพลงที่พี่เป้แต่ง คือจริงๆหนูมารวมตัวอยู่ในกลุ่มนักร้องได้อย่างไร ก็ไม่รู้ มันคนละทางกับเขาเลย นัททิว พี่เป้ น้องเพลง จะคุยเรื่องเพลงเรื่องดนตรีกันอะไรแบบนี้ แต่เราไม่ใช่นักร้อง แต่เราก็เล่นดนตรีวะ หนูก็เล่นเปียโนอะไรแบบนี้ ก็พอจะชอบฟังเพลงก็นั่งเม้าส์ๆได้ กลายเป็นว่าทุกคนเข้ากันได้ แต่ปูด้วยคิวมันอาจจะมีอะไรที่ไม่ได้ถ่ายด้วยกันบ้าง เจอบ้างไม่เจอบ้าง

        @@ บทบาทการแสดงในละครเรื่องนี้หน่อยรับเล่น 2 ตัวในเรื่องเดียวกัน

        จริงๆ เป็นหนังสือ มันเลยดูไม่ค่อยหลายปมเท่าไหร่ แต่พอมาเป็นละครมันจะรู้สึกว่ามันหยิบยกปมเยอะถ้าเราเคยดูส่วนมากที่เราเกิดในยุคพีเรียดเนี่ย ส่วนมากก็จะตายแล้วก็มาเกิดใหม่อย่างนี้ แต่ในเรื่องนี้มันดันไม่ตาย วาด ที่เล่น ก็คือเล่นเป็น แม่แอ๊ด ( โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ตอนสาวแล้วกัน เติบโตมาก็เลยกลายเป็นแม่แอ๊ด คือ วาด เนี่ยไม่ได้ตายไป ยังอยู่ส่วน แพงมาศ ก็เป็นหลานของแม่แอ๊ด คือจริงๆ เรื่องมันทำให้งงไปเอง คือเอามาเล่นอ่ะ แพงมาศ ก็แค่ว่าเป็นหลานที่หน้าเหมือนย่ามาก ซึ่งมันมากขนาดนั้นคนก็เลยงงไง คือตอนแรกหนูก็จะคิดว่าเขาจะให้ผีเข้าใจผิด ว่าเนี่ยเป็นย่าใช่ไหม หน้าเหมือนกันก็เลยจะมาแก้แค้นอะไรต่างๆ แต่ เรื่องมันก็เปิดว่าผีมันก็เข้าใจถูกตั้งแต่วันแรก ผีฉลาดเอ้านี่มันหลานนี่ แต่เพื่อจุดนี้ก็เหมือนว่าจะเพิ่มความแค้นให้กับผีแหละว่าเออหน้าเหมือนกันย้ำปมฉันในอดีตยังไม่พอ แย้งพระเอกอีก พระเอกเนี่ย คุณพจน์ น่าจะตายไปเลย แต่เรื่องนี้มันจะไม่ใช่กลับชาติมาเกิด แค่ว่าแต่ละคนหน้าเหมือนกัน ทุกคนคะไม่เป็นไรนะ วิวก็งง เพราะพี่เป้ (อารักษ์ อมรณ์ศุภศิริ) เองเล่นเป็น คุณพจน์ ในอดีต กับเล่นเป็น คุณการันต์ ในปัจจุบัน คือเรื่องนี้มันสร้างแค่ว่าให้ทุกคนหน้าเหมือนกัน เพื่อ ความแบบเหมือนปมในใจจะมี อย่างย่าเราก็จะตกใจ ว่า คุณการันต์ หน้าเหมือน คุณพจน์ ก็จะเรียกคุณพจน์ ให้ทุกคนดูมีปม คือจริงๆเรื่องเขาก็ไม่ได้เล่าอดีตก็ไม่ได้เล่าว่าคุณพจน์เป็นอย่างไร  

        @@ บทบาทของ วาด กับ แพงมาศ ต่างกันอย่างไร 

พอโตมาเป็นแม่แอ๊ด แม่แอ๊ดก็เป็นผู้หญิงที่เก่ง เหมือนแบบทำอะไรเองดูเป็นคนที่ไม่ได้ยอมคน ซึ่งมันก็คือบทบาทของ วาด ที่เล่นว่าฉันก็ดุฉันก็คือหมายถึงว่าความถูกต้องความยุติธรรมแต่ วาด ในสมัยสาวๆอาจจะเป็นคนหัวอ่อน กาลเวลามันก็เปลี่ยนไปคือ วาด เนี่ยไม่ใช่ผู้ถูกกระทำหรอก ก็เลยกลายเป็นว่า มาลัยวรรณ มันร้ายมาขนาดนั้น มันก็ไม่ได้จะสู้ไง ยอมรับสภาพแต่หนูจะไม่วางให้คาแรคเตอร์มันอ่อนแอ คนที่หนีครอบครัวมาได้เพื่อมาเผชิญกับชีวิตตัวเองมันก็ต้องสู้ประมาณนึง อะไรแบบนี้  

เปิดมุมมองของ \'วิว\'  กับ 9 ปีในวงการมายา

 

        @@ แปลว่าทุกเรื่อง วิว ก็มีสิทธิ์ในการวางคาแรคเตอร์ คร่าวๆของตัวละคร

        ก็ใช่ คือหนูอ่านบทก่อน แล้วเสร็จแล้วจริงๆหน้าที่ของนักแสดงคือเหมือนทำการบ้านว่า เราอยากให้ตัวละครที่เขาวางไว้ มันเล่นได้หลายแบบ คิดมาก่อนแล้วก็ค่อยมาคุยกับผู้กำกับว่ามันตรงกัน ว่ามันแบบอยากได้แบบเดียวกันไหม หนูว่าคนเรียบร้อย เรียบร้อยมันก็มีเรียบร้อยหลายแบบ หรือว่า มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่เรียบร้อยแล้วจะเรียบร้อยในทุกสถานการณ์ คือมันก็คงมีแรงขับเคลื่อนต่างๆ แบบว่า นี่เรียบร้อยนะ เรียบร้อยกับใคร กับผู้ใหญ่ กับคนดีกับคนที่ดีกับเรา แต่ถ้าคนไม่ดีเราก็สู้ หนูก็จะวางไว้ แล้วก็ค่อยไปคุยกับ พี่ถา (สถาพร  นาควิไลโรจน์) ซึ่งถ้าเขาไม่มีอะไรที่แบบติดขัดเขาก็ให้เราแบบเต็มที่ เขาเนียบเหมือนกัน พี่ถาเนี่ยคือเขาโอเคมากเขาบอกอยากให้วิวเล่นเลย คือจริงๆพี่ถาคุยกันมาหลายเรื่องว่า อยากให้มาร่วมงานกัน แล้วหนูก็ยังติดเรื่องนู้นเรื่องนี้เวลาคือไม่ตรงกัน เรื่อง บางกอกนฤมิต เป็นเรื่องที่พี่ถาโทรมาหาหนูกับคุณแม่เองว่าอยากมาให้ร่วมงานกัน เขาก็เลยรู้สึกว่าคนที่อยากร่วมงานกันอยู่แล้วก็จะให้เราเล่นเต็มที่

        @@ ช่วงแรกที่ฮือฮาว่า“ปู”ไปรยา มาประเดิมเรื่องนี้กับช่องวัน ลึกๆแอบคิดไหมว่าสุดท้ายเราจะกลายเป็นไม้ประดับ 

           ไม่นะ คือมันเป็นกระแส มันเป็นอะไรแบบนี้หนูว่าสุดท้ายมันจะกลับมาอยู่ที่เนื้อเรื่อง สุดท้ายมันก็ต้องมาตัวละคร เราดูแล้วว่าบทมันใหญ่บทมันอะไร บทมันเป็นอย่างไรเราก็ดูก่อนอยู่แล้ว หนูว่าจริงๆทุกคนมันใหญ่เท่ากันหมด แต่อันนี้มันอยู่ที่ตัวกันแล้วว่าใครมันจะเป็นฝีมือจะมีลูกเล่นให้มันเฉิดฉายขึ้นมา

         @@ การทำงานกับ “ปู” ไปรยาเป็นอย่างไรบ้าง 

         ได้เจอ ปูเนี่ยคือเข้าวงการมาประมาณเกือบไล่ๆกัน แล้วอายุรุ่นเดียวกันเลย ก็โอเค แต่ไม่ค่อยได้เจอเขาเลย ก็เคยเจอตอนเข้านั้นแหละ แล้วก็เขาก็ทำงานต่างประเทศอะไรต่างๆ แต่ว่าก็ได้เจอ ปูเขาก็เป็นคนนิสัยแบบฝรั่งๆ แมนๆเหมือนกัน เวลาที่เจอ ก็มีเรื่องนู้นเรื่องนี้มาเม้าส์ เรื่องที่เขาทำงานที่อื่นมากกว่า แต่พอเวลาถ่ายละครมันไม่ค่อยได้คุยกันเพราะบทเยอะยาก 

 

 

         @@ วิวอยู่วงการมากี่ปีแล้ว

        9 ปีแล้ว ก็ต้องเรียกว่าเริ่มแรกปีแรกๆ ไม่ได้ตั้งใจเป็นนักแสดงจริงจัง เพราะว่าแบบเราอยากจะลองว่ามันสนุกหรือเปล่า เท่านั้นเอง แล้วเรื่องแรกๆมันก็เครียด เรื่องแก้วล้อมเพรช กับ สน ยุกต์ อะไรจะดราม่า นึกในใจทำไมชีวิตต้องโหดร้าย แล้วหนูกับครอบครัวกับที่บ้านมันสนุกแล้วมีความสุขคือบ้านครอบครัวใหญ่ คือไม่เศร้าดีกว่า ชีวิตข้างนอกไม่ได้ดราม่าเลย 

       @@ ถือว่าเป็นนางเอกสายดราม่าของเอ็กแซกท์

        จริงๆ เล่นไปเรื่อยนะ (ยิ้ม) แต่เป็นแนวเล่นดราม่าหมดเลย คือทางเอ็กแซ็กท์กำลังหานางเอกที่เจ้าน้ำตาก็เขาบอกว่า คนที่เล่นแอคชั่นมันง่าย คอมเมดี้ มันง่ายแต่คนที่เล่นดราม่าแล้วคนดูให้ใจสงสารเราหลังๆมันไม่ค่อยมี อย่างเมื่อก่อน ช่องไหนจะมี พี่กบ (สุวนันท์ คงยิ่่ง) พี่นุ่น ( วรนุช ภิรมย์ภักดิ์)  เป็นอะไรที่ร้องไห้ทีแล้วคนแบบแล้วก่อนหน้าก็จะมี พี่อ้อม ( พิยดา   จุฑารัตนกุล) แล้วพอเป็นรุ่นใหม่ก็อยากหาใหม่ๆที่แบบจะมาดำเนินรอยตรงนี้ต่อ(ขำ) พอแบบมาเล่นเรื่องแรก แก้วล้อมเพรช ตรากตรำชีวิตทุกครั้งส่งบทอ่านแบบเดาว่าวันนี้ ร้องไห้ๆ ก็จะเครียดนั่งรถไปแบบกินข้าวไม่ลง แม่เห็นแล้วแบบสงสารตัวเราก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้แล้วทิ้ง แต่เราจะเป็นคนที่ทำไม่ได้แล้วเครียด แล้วจะทำให้ดี เป็นคนทำงานแล้วเครียดมากแล้วมาคิดว่าคงไม่ใช่แล้วแหละ กลับไปเรียนหนังสือดีกว่า ตอนนั้นก็เรียนอยู่ปี1-2 คิดว่าไม่หน้าจะใช่ทางแบบเล่นไม่ดีแบบคนดูมาว่าด้วย เล่นอะไรห่วยแตก

เปิดมุมมองของ \'วิว\'  กับ 9 ปีในวงการมายา

         @@ โดนว่าขนาดนั้นท้อไหม 

       ถามว่าเรื่องแรกมันก็ไม่ได้มีใครด่าขนาดนั้น คือรู้ว่าเป็นเด็กใหม่กันหมด เขาเลยให้โอกาส แต่เราก็คิดว่าถ้าเรื่องอื่นๆแย่อีกล่ะ อาจจะไม่ใช่อะไรแบบนี้ ซึ่งถามว่า แก้วล้อมเพรช ตอนนั้นเรทติิ้งมันเยอะมาก แบบถล่มถลาย ยังจำได้เลยว่าได้ เลี้ยงฉลองบ้านพี่บอย ว่าเรทติ้งเยอะ ด้วยความรวมตัว แก้ว เกล้า แอริน มันก็เลยได้กันไปหมด ส่วนเรื่องที่ 2เราเริ่มเรียน หม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) แล้ว ก็เลยไปนั่งปรึกษาคุยกับแม่คุยกับหม่อมมันไม่ใช่มั้ง แต่หม่อมบอกว่า เราเห็นในตัววิว แต่ว่ามันอาจจะต้อง ฝึกประสบการณ์ไป เดี๋ยววิวหน้าจะเล่นได้แบบทำเต็มที่หรือยังอะไรต่างๆ 

        @@  มองเส้นทางในวงการว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบไหม 

        คงมาพร้อมหนามมั้ง กุหลาบและหนาม ไม่เพราะมันไม่ได้สวยหรูมันไม่ได้ มันคนละแบบกันเราไม่ได้มาแบบประกวด เราทำมาด้วยใจรักจริงเราทำมาด้วยความชอบ แต่ละเรื่องหรืออะไรงานอะไรแบบนี้ จะไม่เคยถามก่อนเลยว่าเงินเท่าไหร่ ไม่เคยถามว่าอะไรยังไงแต่มันต้องดูว่าเราอยากทำเปล่า หมายความว่าชอบเลือกงานจากสิ่งที่เราอยากทำ เพราะว่ารู้สึกว่า บางทีบางคนดูเงินดูอะไรอย่างเดียวสุดท้ายคุณก็ไม่ได้มาจากใจ คุณจะทำไม่ได้เต็มที่เวลามีปัญหาจะท้อแต่ถ้าเราชอบเวลามีปัญหามันเป็นสิ่งที่เรารัก

         @@ จากวันนี้ถึง 9 ปี ตัวเองเปลี่ยนไปเยอะไหม 

         รู้สึกว่าถ้าในแง่นี้ เป้าหมายดำเนินชีวิตเพราะว่ามันก็เปลี่ยนตอนแรกเราเล่นเพื่อความสนุก เราอยากลอง ทำมาเรื่อยๆรู้สึกว่าอยากสู้เราจะเล่นบทนั้นบทนี้ได้ จริงๆเป้าหมายคือเล่นอะไรก็ได้ให้คนยอมรับ ให้คนชอบมากกว่าคือแบบคนดูต้องรู้สึกอิน นี่คือสิ่งที่หนูอยากเป็น ที่เป็นนักแสดงที่ดูแล้วในเมืองไทย ไม่ว่าจะคนยกย่องพี่หมิว พี่อ้อม เราอยากเป็นแบบนั้นเราก็เป็นคนดูละคร พอเราดูคนที่เล่นดีๆมาก แล้วแบบชื่นชมอยากให้คนดูเป็นแบบนั้น เลยคิดว่าค่อยมาเปลี่ยนความคิดอยากจะเล่นจนกว่าจะได้รางวัลกลายเป็นหลังๆเริ่มมีความว่าเราโตขึ้น เป็นเราที่เริ่มดูแลตัวเองครอบครัวมันก็จะยิ่งแบบไม่ใช่เล่นๆไปเรื่อยๆ ทำงานแบบจริงจัง

เปิดมุมมองของ \'วิว\'  กับ 9 ปีในวงการมายา

         @@ มานึกถึงข่าวคราวที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เห็นเราจะโดนข่าวคราวเรื่องความรักเยอะ

        ใช่ๆ ก็รู้สึกว่าทำไมข่าวสวยขนาดนั้น คาสโนวี่อะ คือต้องเป็นคนมีเสน่ห์ต้องสวยขนาดนั้น คือถ้ามองแบบในแง่ดีคือคุยกับผู้ใหญ่ นี่ต้องบอกก่อนว่าไม่เคยโดนพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เรียกพบเพราะการทำงานเราตัวดีอยู่ในนั้นคนที่รู้กัน ไม่เคยโดนเรียกเพราะตักเตือน มีข่าวแบบเรียกว่า ไม่มีเลย แต่เลี้ยงปิดกล้องหรือ กินข้าว พี่ก็จะมาพูดว่า แกจะคิดมากทำไม คาสโนวี่แปลว่าแกสวยมากนะ หนูเลยบอกจะดีหรอ(ยิ้ม)คือเราไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ข่าวเป็น คาสโนวี่เพราะว่ามันเป็นผู้ชายหลายคนมาก ก็เลยแบบพี่ หนูในเวลาเดียวกันจะมีได้ 13 คนจริงเหรอ มันสวย ผู้ชายมันจะยอมเหรอ จะสวยอะไรขนาดนั้น คือเป็นคนไม่ได้เครียดอะไรเยอะถ้ามันไม่ได้จริง หมายถึงแบบเพราะว่าคุยกับใคร คุยมาคนเดียวตลอด แต่ถามว่าถ้ามันไม่ดีไม่โอเคหรือเขาไม่โอเคกับเรามันก็ต้องเลิกคุยกันไป ใครจะมา1เดียว ถามว่าถ้าเขาดีกับเรา เรารักเขาจริงๆ ทุกคนก็อยากมีคนเดียวแบบอยู่แล้วในชีวิตแต่ถ้าว่าไม่ใช่มันก็มีโอกาสได้เรียนรู้กันไป

         @@ ตอนนี้หัวใจเป็นอย่างไร

         เฉยๆไปเลย พอเราโตแล้วความคิดเปลี่ยน เราค่อนข้างชอบทำงานจนแบบทำงานถ่ายละครกลับบ้านเราอยากจะนอน คือทุกคนอยากเป็นเพื่อนอะไรมากกว่า ไม่ได้คิดถึงขั้นจะคบหาใคร  (แล้วมาพอโสดมีคนคุยไหม)  ไม่มีเลย ทำงาน เพราะไม่ได้เจอใครด้วยอยู่กองถ่ายพอว่างอยู่บ้าน ไม่ได้เจอใครแล้วเราก็ไม่ได้เปิด ไม่ได้ปิดอะไรทั้งนั้น เฉยๆ

เรื่อง : ภัทรวรรณ สุนทรธนานุกูล 

ภาพ : วันชัย    ไกรศรขจิต