รู้ทันกฏหมาย - พ่อนอกกฎหมาย | คมชัดลึก

 พร้อมๆ กันนั้นก็ทำให้นึกไปถึงบรรดาเด็กๆ อีกมากมายที่ไม่มีโอกาสอย่างเคโงะ ต้องกำพร้าพ่อเพราะไม่รู้ว่าพ่ออยู่ไหน  แม้จะเป็นคนไทยด้วยกันก็ตามที

 กระบวนการตามล่าหาพ่อนั้น หากไม่มีช่องทางสื่อจัดให้ ก็คงต้องอาศัยคนเป็นแม่ เพราะรู้แน่ๆ ว่าใครคือพ่อของลูก แต่การตามหาราคาไม่ถูก ต้องมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลา โดยเฉพาะถ้าพ่อเป็นต่างชาติ โอกาสยิ่งน้อยใหญ่

 รู้ว่าพ่อเป็นใครก็ต้องทำใจว่าพ่อจะรับหรือไม่ว่าใช่ลูกตัวเอง สมัยนี้ใช้วิธีพิสูจน์ดีเอ็นเอก็ใช้ได้ แต่ก็ใช่จะไปบังคับให้เขาเจาะเลือดได้เสียที่ไหน หากคนที่น่าจะเป็นพ่อไม่ยอมให้ดำเนินการ

 การพิสูจน์ความเป็นพ่อจึงต้องดูพฤติการณ์ประกอบด้วย เป็นต้นว่าเป็นคนแจ้งเกิดให้ลูกระบุว่าตนเป็นพ่อ หรือว่าเลี้ยงดูเยี่ยงลูกแท้ๆ  พาไปเข้าโรงเรียนก็แจ้งว่าเป็นลูกให้ใช้นามสกุล อย่างนี้ก็น่าสงสัยไว้ก่อนว่าคงจะใช่

 ต่อให้ใช่ก็ยังไม่ใช่พ่อลูกตามกฎหมาย ต้องให้มีการรับรองบุตรกันเป็นทางการเสียก่อน การรับรองที่ว่าคือต้องจดทะเบียนรับว่าเป็นบุตร ไม่ใช่รับปากออกนอกหน้าว่าเป็นลูกเท่านั้น การไม่รับรองทำให้สิทธิของเด็กหายไป สิทธิในการได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อก็ไม่มี 

 นอกจากนี้ตัวพ่อเองก็ไม่มีสิทธิใช้อำนาจปกครองลูกด้วย อยากจะพาลูกไปอยู่ที่ไหน เรียนที่ไหนก็ไม่อาจขัดใจคนเป็นแม่ของลูกได้เพราะพ่อไม่มีอำนาจปกครอง

 ในกรณีที่แม่ตาย เด็กอยู่กับยายมาตลอด พ่อมาจดทะเบียนรับว่าเป็นลูกเมื่อไหร่ อำนาจปกครองก็จะตกได้แก่คนเป็นพ่อ ส่วนยายก็หมดสิทธิไป จะมาอ้างโน่นนี่ไม่ได้ ต่อให้เลี้ยงมาแทบตายก็ตาม

 คงทราบกันอยู่บ้างว่าแม้จะไม่มีการจดทะเบียนรับกันไว้ พ่อตายไปเด็กก็ยังได้มรดกนั้น เป็นการให้สิทธิที่ต้องมีการพิสูจน์โดยอาศัยพฤติการณ์ แต่ถ้าลูกตายก่อนพ่อเมื่อไหร่ พ่อไม่มีสิทธิได้มรดกของลูกเลยเพราะไม่ได้เป็นพ่อลูกกันตามกฎหมาย

 ลูกเป็นฝ่ายที่มีโอกาสได้เป็นหลัก นอกจากเรื่องมรดกแล้ว ลูกครึ่งที่แต่งกับแม่ฝรั่งต่างชาติก็อาจได้สัญชาติไทยตามพ่อได้หากปรากฏว่าพ่อรับรองว่าเป็นลูก แม้จะไม่ได้จดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรก็ตามที แต่ต้องพิสูจน์ตามวิธีการของกฎหมาย

 แม้จะมีสิทธิที่ลูกได้โดยไม่ต้องให้พ่อรับรองอย่างเป็นทางการ ก็ควรจัดการให้เรียบร้อยเอาไว้สบายใจกว่าที่ต้องมาลุ้นกันว่า จะสามารถผูกพันฉันพ่อลูกได้ตามกฎหมายหรือไม่  อย่าเสี่ยงวัดใจกันดีกว่า

"ศรัณยา ไชยสุต"