บันเทิง

'แคลช' ประกาศศักดา การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี

'แคลช' ประกาศศักดา การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี

12 ก.ค. 2561

7 ปีที่หายไป แต่ความเป็นวง "แคลช" ก็ไม่เคยเปลี่ยน ตอนนี้พวกเขากลับมาแล้ว 


    ประกาศแยกไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เพื่อไปทำตามความฝันของแต่ละคน แต่ล่าสุดแฟนๆ วง "แคลช" ก็ได้เฮลั่น เมื่อสมาชิกทั้ง 5 คน ได้แก่ "แบงค์" ปรีติ บารมีอนันต์ (ร้องนำ) "พล" คชภัค ผลธนโชติ (กีตาร์) "แฮ็ค" ฐาปนา ณ บางช้าง (กีตาร์) "สุ่ม" สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ (เบส) และ "ยักษ์" อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (กลอง) ตัดสินใจกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยประกาศว่าจะมีคอนเสิร์ต “ลีโอ พรีเซนต์ส แคลช อะเวค คอนเสิร์ต” วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2561ที่ ไบเทค บางนา HALL 98 ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบ 7 ปีของพวกเขา
 

   “บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่มๆ ทั้ง 5 คนถึงการกลับมาในครั้งนี้
    สุ่ม : “โปรเจ็คนี้เกิดจากการที่เราอยากที่จะมาเล่นดนตรีด้วยกัน มันเหมือนกับว่าเรา 5 คนแยกย้ายกันไป โอเคมันไม่ได้ห่างไปแบบไม่เจอเลย มันยังมีการมาช่วยกันบ้าง แต่มันไม่ได้มาเล่น เอาง่ายๆ คือเราไม่ได้มาเล่นเพลงวงแคลชกันอย่างจริงจัง คือตอนแรกก็มาซ้อมกันเล่นๆ แล้วก็อยากที่จะต่อยอดมาถึงคอนเสิร์ต มาถึงเพลงใหม่ แต่จุดประสงค์แรกคืออยากกลับมาเล่นดนตรีด้วยกัน”
    แฮ็ค : “จริงๆ เรามีการคุยกันมาก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ด้วยความที่อะไรหลายๆ อย่างยังไม่ลงตัวซะทีเดียว เพราะทุกคนมีหน้าที่ทำของตัวเองอยู่ จนได้มาคุยกันเมื่อปลายปีที่แล้วว่าถ้าเรากลับมาช่วงนี้โอเคไหม ที่จะสละเวลาของแต่ละคนในหน้าที่ของตัวเองมาได้ไหม เราต้องทำงานกันหนักขึ้น ก็ต้องแบ่งเวลาในส่วนที่ต้องทำ ถามว่าเรื่องของค่ายมีผลไหม ต่างคนอยู่กันคนละค่าย เรื่องนี้มันก็อยู่ที่พูดคุยด้วย แต่ทุกอย่างมันเริ่มจากตัวเราก่อนว่า เราพร้อมที่จะทำและอยากที่จะทำไหม ที่เหลือก็คือต่างคนต่างไปคุยกับต้นสังกัด   

 

 

 

\'แคลช\' ประกาศศักดา การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี


    พล : “พวกผมเวลาคุยงานกันก็จะค่อยข้างวางแผนกันไกลๆ เราไม่อยากต้องมาเร่งสปีดหรือแต่ละคนต้องมานั่งเร่งชิ้นงานของตัวเอง คือเราวางแผนไม่ให้ไปกระทบสิ่งที่ทุกคนสร้างมา มันจะได้สบายใจ ถ้าเราคุยกันแล้วเอาเลย โดยไม่ได้มีการวางแผนอันนั้นจะลำบาก ก็จะจัดสรรยาก ในวันนี้เราคุยกันแบบคนที่โตแล้ว ไม่เหมือนเด็กที่ว่าคุณต้องทิ้งทุกอย่างมันไม่ใช่ เราก็มีการคุยกันอย่างพี่แฮ็ค วงเอสดีเอฟเป็นยังไง คิวพี่แบงค์เป็นยังไง พอเราโยนคิวกันมาทำงาน เราเอาคิวที่มันว่าง ก็ตกลงกันว่าช่วงเราฟอร์มกันมาทำงาน หรือมาซ้อม ขอสัปดาห์หนึ่งสัก 2-3 วันได้ไหม เราก็โยนคิวว่างกันลงมา เอาตรงนั้นมารวมกัน ที่เหลือก็เอาไปทำงานของแต่ละคน      
    แบงค์ : “การกลับมารวมตัวของเรา มันเป็นกรณีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะอย่างที่รู้ว่าเราต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง คือแต่ละคนก็ไปกันคนละทิศคนละทาง แต่ความสัมพันธ์ของเรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม มาเจอกัน เป็นเพื่อนกัน ถามว่าคิดถึงการกลับมาถาวรไหม อันนี้มันก็กึ่งถาวรแล้วนะ ”

 

 

\'แคลช\' ประกาศศักดา การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี

 

 

    แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่รวมกันแค่คอนเสิร์ตเห็นว่าจะกลับมาทำเพลงด้วยกัน
    พล : “เรามองไว้ยาวพอสมควร อาจจะไม่ใช่แบบ 10 ปี แต่อาจจะประมาณ 5 ปีก่อน 5 ปียาวไปไหม เอาสัก 2 ปีก่อน (ยิ้ม) คือเรากลับมาเป็นวงแคลชเลย ”
    แฮ็ค : “เอาเป็นว่าพอคอนเสิร์ตเสร็จก็จะมีเพลง มีอีพีอัลบั้ม หรือมัวร์คอนเสิร์ต คือมันเป็นการกลับมารวมกันเลย ไม่ใช่แค่มารวมกันทำคอนเสิร์ตเท่านั้น อย่างสำหรับผมก็แพลนทำควบคู่ระหว่างวงแคลชกับเอสดีเอฟ โดยเอาแคลชเป็นหลัก ซึ่งก็จะหามือกีตาร์มาเล่นแทนในวงเอสดีเอฟ”

    เริ่มทำเพลงกันแล้วหรือยัง
    พล : “เพลงเสร็จแล้ว 2 เพลง จริงๆ เพลงเราทำตั้งแต่เมื่อ 3-4 เดือนที่แล้วแล้ว อย่างที่บอกว่าเรามีการวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว ก่อนที่จะตัดสินกลับมา อย่างการกลับมาครั้งนี้ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือแฟชั่น มันเป็นไปตามแฟชั่นโลก แคลชเป็นวงที่เอกลักษณ์ชัดเจนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ห่อหุ้มเราภายนอกมันเป็นไปตามรสนิยม กระแสนิยมของเรา และของผู้ฟังด้วย โดยเราได้เอาเพลงที่เราทำไปให้คนอื่นฟัง ก็จะได้รับตอบกลับมาว่า นี่มันเป็นแคลช แต่ใหม่ ซึ่งผมรู้สึกว่าอันนี้ตอบโจทย์ที่เราตั้งไว้ตั้งแต่ต้นเลย อยากจะเปิดให้ฟังมาก (หัวเราะ) คือพวกผมตื่นเต้นมาก แรกๆ ที่ทำคือล้มเลยนะ เหมือนคนทำเพลงไม่เป็น เพราะการกลับมาทำเพลงใหม่ที่เป็นแคลชในวันนี้"   
    แฮ็ค : "พอมันมาเป็นเพลงของแคลช เราต้องคิดเยอะ การทำเพลงกับให้คนอื่น เราไม่ได้มากดดันว่าทำแล้วมันเป็นยังไง พอมาเป็นเพลงของตัวเอง เราก็ต้องมาถามว่าใช่หรือยัง มันใช่จริงหรือเปล่า มันโอเคกับปีนี้ พ.ศ.นี้ไหม" 
    แบงค์ : “อย่างแรกของการทำเพลงคือเราไม่ได้จะเอาแบบวงแคลชเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คือเราไม่ได้จะมารียูเนี่ยน แต่มันเป็นวงแคลชในวันนี้ คือเราไม่ได้กดดันว่า เราเป็นแคลชหรืออะไร เราไม่ได้แบ่งแบบนั้น ถ้าย้อนกลับไปเมื่อก่อน คือตอนนั้นรู้สึกกดดัน เครียดจริง อย่างแรกคือเราเด็กด้วย อายุ 20 ต้นๆ เอง แล้วตอนนั้นอัลบั้มก็ล้านตลับ ตอนนั้นเครียด แต่ตอนนี้ไม่เครียด คือเรารู้สึกว่าแบกไปมันก็เหนื่อย เราทำเพลงยิ้มๆ สนุกดีกว่า ผมรู้สึกว่า ถ้าเราสนุกคนดูก็สนุก"

 

 

\'แคลช\' ประกาศศักดา การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี

 


    พล : “ผมว่าเราโชคดีที่เราห่างจากกันมา 7 ปี เพราะมันเป็นการรีเฟรชทุกคน ถ้าเรายังทำแบบเดิม ย้ำๆ ซ้ำๆ เหมือนตอนเราทำอัลบั้มสุดท้าย ความตื่นเต้นมันไม่ใช่แบบนี้แล้ว เราทำมา 7 อัลบั้ม ยืนอยู่บนเวที 10 ปี ไฟส่องจนหน้าไหม้แล้ว มันไม่ตื่นเต้นกับสปอร์ตไลท์ แต่พอเราหายไปแล้วกลับมา ผมรู้สึกว่าเราจะกลับไปยืนบนสปอร์ตไลท์อีกครั้ง เราตื่นเต้นที่ยืนแล้วยังไง ยืนในแบบที่เป็นแคลช ยืนกับเด็กรุ่นนี้ได้ คุยกันเล่นๆ กันในวงว่า เอาง่ายๆ ตอนนี้เราปล่อยเพลงมา เราก็ไปสู้กับเดอะทอยอ่ะ ถูกป่ะ มันเห็นอยู่ว่าเวทีที่ต่อยกันอยู่มีใครบ้าง เหมือนเป็นศิลปินใหม่”        
    แบงค์ : “ลองนึกภาพถ้าเรายังฝืนทำเพลงกันอยู่ตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าเกิดไม่แยกกันนะ แล้วทำมาตลอด จนถึงวันนี้ (พลแซวขึ้น ”อาจจะไม่ได้แยก แต่อาจจะแตก“) อาจจะตีกัน (ทั้งวงหัวเราะเสียดังขึ้นมา) คือถ้ายังทำอยู่ ก็นึกไม่ออกว่าจะยังไง”
    คำถามสุดท้ายคิดว่าการตัดสินแยกวงกันในวันนั้นเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว
    แฮ็ค: “สำหรับผมนะ มันก็ไม่เชิงถูกหรือผิด เขาเรียกว่าอะไร เรียกว่าชะตาชีวิตลิขิตมาว่าทุกคนต้องไปแต่ละทิศทาง แล้ววันหนึ่งก็กลับมา มันก็ไปในทางที่ ... คือก็ไม่ใช่ว่าทุกคนไปแล้วจะสวยหรูทุกคน ไปแล้วก็ไปลุยกันในแต่ละทิศทาง เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง พอกลับมาวันนี้ผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันขี้คลายหมด เป็นแบบว่าเอาดิ เจอมาหนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว”
    นี่แหละ!! วง “แคลช” อีกหนึ่งตำนานของวงการเพลงไทย 

            

\'แคลช\' ประกาศศักดา การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี

\'แคลช\' ประกาศศักดา การกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี