'เจมส์ มาร์' ทุ่มเงินหลักแสน!! ให้ของขวัญวันเกิดตัวเอง

        จากข่าวที่ว่าพระเอกหนุ่ม "เจมส์ มาร์" ออกมาเผยเรื่องครอบครัวว่าเป็นทายาทของนิคมอุตสาหกรรมอัญธานี หรือ เจมโมโปลิส จนมีคนขนานนามหนุ่มเจมส์ว่าเป็นทายาทพันล้าน ล่าสุดวันเกิดของหนุ่มเจมส์ เมื่อ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา แฟนคลับทำเซอร์ไพรส์ แถมงานนี้พระเอกหนุ่มยังได้เค้กวันเกิดมากมาย พอมีโอกาสเจอหนุ่มเจมเลยถามถึงเรื่องนี้

         แฟนๆ เซอร์ไพรส์วันเกิด
        "เป็นการเซอร์ไพรส์วันเกิดย้อนหลังผมเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ก็ขอบคุณทุกคนมากที่มาวันนี้ดีใจที่ได้รับความรัก และคำอวยพร เพราะส่วนตัวเราก็ชอบอยู่แล้ว (ยิ้ม)"
           เมื่อวันเกิดได้เค้กหลายก้อนมาก
           "ในทุกๆปีผมก็จะได้เค้กหลายก้อน อยู่เกือบทุกปีอยู่แล้ว แต่พอดีปีนี้มีไอจีทำให้คนก็เห็นเยอะขึ้น คนก็อาจจะไม่รู้ว่าทุกๆวันเกิดผมจะได้เค้ก 20-30 ก้อน แต่มาเที่ยวนี้เราก็ให้ทุกคนได้เห็นในไอจีของเรา ทุกคนชอบถามว่าคิดไปไหน วันนั้นก็ตัดให้แฟนคลับทุกคนกิน ก็คือทุกคนที่มาในงานผม ที่ไปเจอกันที่ตำแหลก็ให้ทุกคนกินให้หมดเลย ซื้อกันมาก็มากินด้วยกัน"
           ปีนี้แฟนคลับทำเซอร์ไพรส์ให้ยังไงบ้าง
            "ก็ทำเค้กและบางคนก็มีเซอร์ไพรส์ย้อนหลังบ้าง บางคนก็บอกว่าวันนี้ยังไม่พร้อมขอมาเซอร์ไพรส์วันอื่น ไม่เป็นไรครับผมชอบเซอร์ไพรส์บ่อยๆ แล้วก็คำอวยพรปีนี้จะได้คำอวยพรซะส่วนใหญ่ก็ขอให้มีความสุข โชคดีปีนี้ได้พระมาเยอะมาก"

          ที่แฟนๆ ให้พระมาเพราะว่าเป็นปีเบญจเพสหรือเปล่า
         "ก็อาจจะมีส่วน ไม่ว่าจะเป็นปีไหนก็ตามการดูแลตัวเอง ให้มีสติตลอดเวลา เป็นสิ่งที่ดีที่สุดไม่ว่าจะ 24-26-27 ยังไงก็ต้องระวังตัวเองอยู่ดี ส่วนตัวผมเองก็เชื่อเรื่องเบญจเพสและผมเชื่อว่ามันมีทั้งดีและไม่ดีเพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงก็ตามก็คงใช้ชีวิตให้ปลอดภัยที่สุด ถ้าเกิดมีท่านผู้ใหญ่ท่านไหนทางให้เราไปทำอย่างนั้นอย่างนี้เราก็คงไปทำ ถ้ามันไม่มีอะไรเสียหาย เราก็ยินดีที่จะทำตาม เพราะโดยปกติผมเองก็ทำบุญเรื่อยๆอยู่แล้วปีนี้ก็มีไอเดียใหม่ๆ จากทางผู้ใหญ่บางท่านที่แนะนำมา ให้ไปวัดนั้นวัดนี้ไปหาหลวงพ่อท่านนั้นท่านนี้ เราก็ยินดีที่จะลองไปทำ"
มีของขวัญพิเศษให้ตัวเองในปีนี้ไหม
"ปีนี้มีทำห้องกอล์ฟ ให้ตัวเองที่บ้าน เพราะว่าเราไม่ค่อยมีเวลาตี ก็เลยทำห้องซ้อมไว้ในบ้านเลย ถามว่างบเท่าไหร่ก็ไม่เยอะไม่เยอะจริงๆไม่ถึงล้าน (แต่ก็หลายแสนใช่ไหม) ก็ประมาณนั้นครับ เพราะเราต้องเอาอุปกรณ์ที่เซฟเข้ามาเพราะเดี๋ยวจะดังไปถึงข้างบ้าน หญ้าที่นำมาก็อยากให้เป็นญาติที่ทุกคนเขาใช้กัน มันเหมือนสนามซ้อมที่เราเคยไปเห็นในเกาหลี ที่เขาตีกันในห้อง ก็จะประมาณนั้นเลย"
         เจมส์ชอบตีกอล์ฟมากเลยใช่ไหม
          "มันเหมือนเป็นงานอดิเรกของผมเลย ก็จะมีตีกับเพื่อนทั้งในวงการและนอกวงการ เพราะเราคิดว่าจะทำอะไรให้ตัวเองดีก็เลยคิดที่จะทำห้องกอล์ฟ เพราะคิดว่าสิ่งที่ขาดไปก็คือเวลาที่จะซ้อมกอล์ฟ หลังจากนี้ที่บ้านก็จะดังตุบตับตุบตับตุบตับ ทั้งวันเลย ไม่ต้องนอนเลย ตีกอล์ฟทั้งวันเลย เมื่อตอนเด็กๆผมจริงจังเรื่องการตีกอล์ฟเพราะเล่นให้กับโรงเรียนที่ฮ่องกง แต่เป็นการจริงจังแบบที่ว่าเราอยากเล่นให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่ผมว่าผมคงยังไม่พร้อมที่จะไปแข่งเพราะผมคิดว่าถ้าผมไปแข่งก็คงจบที่สุดท้าย เพราะเรายังไม่เก่งพอที่จะไปแข่งได้แต่ถามว่าเราอยากเก่งไหมเราอยากเก่งครับ"
        ครอบครัวให้ของขวัญอะไรเป็นพิเศษไหม
          "ครอบครัวไม่ได้มีอะไรให้เป็นพิเศษมีแค่คำอวยพร และก็พาไปเลี้ยงข้าว แค่นี้เราก็พอใจแล้ว เพราะทุกปีก็เป็นแค่นี้ก็พอแล้ว เพราะแม่อากงอาม่าทุกคนก็ให้ความรัก สอนเรามาตั้งแต่เราเกิด จะมาถึงตอนนี้ที่เราอายุ 25 ปีแล้ว ผมคิดว่าแค่นี้เราก็พอใจแล้ว"
         จะมีไปเที่ยวที่ไหนอีกไหม
         "อยากให้ทุกคนรอติดตามว่าผมจะไปโผล่ที่ไหนอีก ตอนนี้ยังไม่ได้มีแพลนมาก คือโดยส่วนตัวผมชอบไปเที่ยว และด้วยความที่เรียนป.โทด้วย เรียนเรื่องของการท่องเที่ยวเลยออกไปเปิดหูเปิดตาจะได้นำมาพรีเซนต์ได้"

          หลังจากที่มีข่าวออกไปแล้วว่าเราเป็น ลูกใครกระแสที่กลับมาเป็นยังไงบ้าง
          "ก่อนอื่นผมต้องขอบอกเรื่องนี้ก่อนเรื่องที่คนบอกว่าผมรวยมากๆ ที่บอกว่าที่บ้านผมรวยมากๆคืออย่างนี้นะคับ ที่บ้านผมเป็นครอบครัวใหญ่มาก อากงอาม่าทำธุรกิจจริง ผมก็จึงมีพี่ป้าน้าอาเยอะ ส่วนญาติท่านไหนที่ทำงานกับอากงก็จะได้รับส่วนแบ่งในธุรกิจนั้นไป ซึ่งก็อย่างที่ทุกคนก็รู้รู้กันอยู่ แต่พ่อแม่ของผมเองมาทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งคุณพ่อก็ทำธุรกิจเล็กๆ คุณแม่ก็เป็นพนักงานออฟฟิศที่ฮ่องกง ซึ่งก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจของอากง ผมเองก็ได้ชื่อแค่เป็นหลานของอากงเท่านั้นเอง"
          ครอบครัวว่ายังไงหลังจากที่มีข่าวออกมา เพราะเหมือนเจมส์เองก็ไม่ได้อยากที่จะเปิดในเรื่องนี้
         "ผมเองไม่ได้ปิดแต่แค่ว่าไม่มีใครถาม (หัวเราะ) เพราะว่าเวลาผ่อนผันทหารในทุกๆปีก็จะลงชื่อเต็มผม หรือ ในบัตรประชาชนอะไรก็ตามก็จะเป็นชื่อเต็มผม ก็อย่างที่บอกว่าชื่อเจมส์มามันมาจากชื่อจริงของผมที่ชื่อว่าเจมส์ และนามสกุลก็ค่อนข้างยาว มันก็จะไม่เหมือนพี่ๆ คนอื่น อย่างพี่เกรท-วรินทรที่มีชื่อเล่นแล้วก็ชื่อจริง ก็เลยเอานามสกุล ที่เป็นนามสกุลจีนของเรา ก็คือแซ่มาร์ มาใช้ในวงการบันเทิง"

       พอมีคนรู้ว่าเราลูกใครมีคนเข้ามาหาเยอะไหม
        "เข้ามาบ้างไหมก็ไม่มีนะเจอแต่หน้าเดิมๆทุกวันเลย ทำงานทุกวัน อย่างบางคนที่ไม่รู้พอมารู้จักข่าวก็แค่ถามเท่านั้นเอง บางคนก็อาจจะถามว่ารวยจริงหรือเปล่า ก็บอกเขาไปว่าไม่ได้รวยก็เป็นเรานี่แหละ ที่หาเลี้ยงตัวเองมาตลอด เพราะฉะนั้นขอยืนยัน ผมไม่ได้รวย ไม่ได้เป็นทายาทหมื่นล้าน คนที่จะเป็นตรงนั้นก็คือส่วนพี่ป้าน้าอา ที่ทำร่วมกับอากงจริงๆ เราเป็นแค่ส่วนเล็กๆส่วนหนึ่ง เพราะว่าพ่อมาทำธุรกิจของตัวเอง หมื่นล้านเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากไม่ถึงแน่นอน ยิ่งตัวผมเองยิ่งไม่ถึงใหญ่เลยเพราะว่าเราทำของเราเองมาตลอดทุกวันนี้ทำงานเองหาใช้ด้วยตัวเอง แล้วก็รู้สึกดีใจที่ เราได้ทำงาน และเลี้ยงตัวเองได้"
         มีข่าวออกไปมีสาวๆเข้ามาเยอะไหม
         "ศูนย์คนครับยังไม่มีเลยทุกอย่างยังเหมือนเดิมมีแต่แมวกับกอล์ฟ เล่นเกมทำงานแล้วก็เที่ยว ก็มีเรื่องเรียน แต่ยังไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งใหม่ๆเข้ามา"