'ลำไย ไหทองคำ' เผยลางบอกเหตุหัวหน้านักดนตรีประจำวงดับคารถ | คมชัดลึก

    จากเหตุการณ์รถตู้คณะ "ลำไย ไหทองคำ" ชนเสยท้ายรถหกล้อการไฟฟ้าที่พัทลุง ทำให้ "อาจารย์โน๊ต" ปรเมษฐ์ เหมังค์ หัวหน้านักดนตรีประจำวง เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ทำเอสนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง "ลำไย ไหทองคำ" แทบทรุดที่เสียเสาหลักของวงไป งานนี้มีโอกาสเจอสาวลำไย ในงานสยามดารา สตาร์อวอร์ด จึงถามถึงสภาพจิตใจในตอนนี้
 

    "เรื่องสภาพจิตใจก็มีบ้าง แต่กับแฟนๆ ไม่มีอะไร ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติด้วยกระแสข่าวมันก็ทำให้สภาพจิตใจเรามีผลกระทบนิดหนึ่งแต่เราก็... อย่างพอไปอยู่หน้าเวทีทุกอย่างก็เป็นปกติแฟนๆ ก็ให้การชื่นชม มาต้อนรับ มาจับมือ มาฟังเพลงมาสนุกกัน คือตอนนี้หนูเองก็มีปัญหาอยู่หลายเรื่องมาก อย่างเรื่องของอาจารย์ตอนนี้สภาพจิตใจก็โอเคแล้วทุกคนก็กลับมาทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง"
    เรื่องอุบัติเหตุตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
    "ตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้วทางด้านอาจารย์โน๊ตก็เผาเรียบร้อยแล้ว ก็เหลือแค่เด็กๆ ที่อาจจะต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตตอนนี้ เพราะเมื่อก่อนจะมีอาจารย์โน๊ตทำหน้าที่คล้ายๆ กับหัวหน้านักดนตรี แต่พอตอนนี้ไม่มีอาจารย์แล้วก็ต้องมีวินัยกันมากขึ้นก็ต้องยืนด้วยตัวเองให้มากขึ้น"
    ปลุกขวัญกำลังใจในวงกันยังไง
    "ปกติอาจารย์ก็จะสอนอยู่แล้วว่าก็ต้องทำงานให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คำสอนของอาจารย์ก็ย้อนกลับมาสอนพวกเรากันเองก็ให้กำลังใจกันไม่ทิ้งกัน"
    เหมือนภายในวงขาดเสาหลักไป
    "ใช่ค่ะ ตอนนี้เด็กๆ ก็เหมือนจะไขว่เขวคว้าบ้าง ตอนนี้ก็ต้องเป็นกำลังใจให้กัน ส่วนตัวหนูเองก็มีเคว้งวูบๆ วาบๆ บ้างเพราะเราเองไม่คิดว่าจะเจอกับการสูญเสียที่เร็วขนาดนี้ อุบัติเหตุมันก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา"

 

 

    ตอนที่ทราบข่าวรู้สึกยังไงบ้าง
    "ช็อคมากตอนที่ทางที่เกิดเหตุโทรมาบอกว่าอาจารย์เจ็บหนัก เราเองก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต พอเราไปถึงที่เกิดเหตุเขาคลุมผ้าขาวอาจารย์แล้ว ตอนนั้นในใจก็ถามว่าท่านเสียแล้วจริงหรอ คือมันช็อคมาก ช็อคจริงๆ คือตอนที่เราไปถึงศพของอาจารย์ยังติดอยู่ในรถอยู่ คลุมผ้าขาวแค่หน้า แต่ว่าด้านล่างยังอยู่ในรถ คือมันช็อคมาก แล้วตอนนั้นในหัวก็มีแต่คำถามว่าจริงหรอๆ เพราะเราเองไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"
    ต้องมีการเข้มงวดในเรื่องของคนขับรถมากขึ้นไหม
    "ตอนนี้เราก็จะมีคนขับรถ 2 คนเพื่อให้มีการพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ตอนนี้ก็พยายามที่จะไม่ให้วิ่งงานเยอะ จริงๆ วันที่เกิดเหตุเราก็ไม่ได้วิ่งเยอะแต่ด้วยความที่วันนั้นมีฝนตกด้วย และด้วยสภาพเส้นทางเราก็ไม่ชิน เพราะว่าปกติภาคใต้ก็ไม่ใช่เป็นเส้นทางที่เราเองถนัด ไม่ได้ชินทางเท่าบ้านเรา"
 

 

    มีลางบอกเหตุอะไรก่อนที่อาจารย์จะเสียชีวิตไหม
    "เรื่องลางบอกเหตุน่าจะเป็นทางอาจารย์ที่พูดกับลูกศิษย์ว่า "มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก กูคนดีไม่ตายทรมานหรอก กูจะตายโหง" ซึ่งพี่คนที่มาอาจารย์พูดด้วยมาเล่าให้ฟังตอนที่อาจารย์เสียแล้ว ซึ่งพี่เขาคุยกับอาจารย์ก่อนหน้าที่อาจารย์จะเสียชีวิตไม่กี่วัน คือพี่คนนี้มักจะถามอาจารย์อยู่ตลอดเวลา เวลาที่อาจารย์เดินทางว่าเดินทางดีๆ นะคะอาจารย์ แล้ววันนั้นอาจารย์พูดประโยคนี้ออกมา"
    ซึ่งหลังจากอาจารย์เสียอาจารย์ได้มาหาหรือมาให้เห็นบ้างไหม
    "ไม่เลยค่ะ ปกติไม่ได้เห็นอะไร"
    ตัวเราเองมีความกังวลไหมที่จะต้องนั่งรถหรือเดินทางไกลๆในพื้นที่ที่เราไม่ชิน
    "มันก็มีบ้าง ที่เราจะต้องระมัดระวัง เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตอนไหน แต่ว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด มันจะห้ามก็ไม่ได้"
    มีการไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ไหม
    "หลังเกิดเหตุก็มีการไปทำบุญกัน มีการไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ในส่วนตัวของ ลำไยก็มีการห้อยเหรียญบาทรัชกาลที่ 9 ในพ. ศ. 2513 ติดตัวไว้และก็จะนับถือพระพิฆเนศ เหรียญบาทรัชกาลที่ 9 ปี 2513 เป็นเหรียญที่แม่ให้ห้อยไว้เพราะคิดว่าน่าจะดี ซึ่งเราเพิ่งห้อยมาประมาณปีหนึ่ง"

 

 

 

    มีไปดูดวงบ้างไหม ว่าดวงเรายังไง
    "ยังเลยค่ะพอช่วงนี้ก็ยุ่งๆ"
    ตอนนี้สภาพจิตใจโอเคแล้วใช่ไหม
    "ก็ดีขึ้นแล้ว จริงๆ พอเราอยู่หน้าเวทีเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด ตอนนี้ก็เริ่มปรับสภาพได้ก็โอเคขึ้นแล้ว การทำงานก็เป็นปกติ เรื่องวงตอนนี้ทุกคนก็เข้มแข็งแล้วใหม่ๆ มันอาจจะมีบ้างที่พวกเราทุกคนยังจิตใจบอบบางอยู่ แต่ตอนนี้เราเข้มแข็งแล้ว เราเองก็มาช่วยในการดูวงจะให้ผู้จัดการดูอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ ตอนนี้ก็เลยต้องช่วยๆ กันดู ทุกคนก็ช่วยๆ กันคนละไม้คนละมือ"