บันเทิง

'ตั๊ก' ไม่ได้คิดประจานใคร

'ตั๊ก' ไม่ได้คิดประจานใคร

28 พ.ค. 2561

"ตั๊ก" บงกช เบญจรงคกุล เดินสายพาหนัง "sad beauty" เข้าชิงรางวัลเวทีโลก รับพล็อตเรื่องใหม่หยิบคำวิจารณ์โซเชียลมานำเสนอ

 

    ถือเป็นข่าวดีสำหรับ “ตั๊ก" บงกช เบญจรงคกุล เมื่อคณะกรรมการจาก เทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ก อาเซียน ฟิล์ม เฟสติวัล 2018 ติดต่อมาหาเจ้าตัวว่า ภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนฉัน ฝันสลาย (Sad beauty) ผลงานการกำกับการแสดงลำดับที่ 3 ของเจ้าตัวได้เข้ารอบสุดท้ายและตอนนี้ตนยังออกเดินสายต่างประเทศอัพเดทล่าสุด เจอที่เปิดตัวเทศกาลภาพยนตร์รั่งเศส 2018จึงได้มีโอกาสถามไถ่

  

       "ตอนนี้ที่อัพเดทมา มีเซี่ยงไฮ้ นิวยอร์ก ชิคาโก้ บาร์เซโลน่าและอีกหลายประเทศแต่ว่าน่าจะปลายๆ ปีเดี๋ยวจะอัพเดทต่อไป อย่างที่นิวยอร์กเข้าชิงรอบสุดท้าย ตอนแรกไม่ติด แต่อยู่ดีๆ เขาก็ติดต่อกลับมาว่าได้ชิงด้วยแต่จะต้องเป็นการโหวตจากผู้ชม เราดีใจมาก เหมือนกับว่าคนทำหนังก็อยากให้คนดูหนังอยากให้คนได้ชมกัน ส่วนกระแสตอบรับจากนิวยอร์ก คือเขารู้สึกว่าหนังของเราค่อยข้างที่จะเป็นหนังทางเลือกไร้ขอบเขต ไร้จินตนาการ แต่ก็สอดแทรกในเรื่องของเพื่อนเข้าไป ซึ่งเขารู้สึกว่าสังคมไทยเขาไม่ค่อยได้เห็นในเรื่องของความเป็นเพื่อนหรือการได้อยู่ในสังคมไทยเป็นยังไง เขารู้สึกแปลก แตกต่าง จากที่เขาเคยได้เห็น 

    (แปลว่าเขาก็มองหนังตั๊กเป็นหนังไทยอยู่ไม่ได้เป็นสากลมาก) ใช่ค่ะ เขาบอกเลยว่าที่ชอบหนังเพราะว่าชอบหนังไทย เพียงแต่ว่าส่งเข้าไปประกวดน้อย อย่างหนังเกาหลีส่งรางวัลเขาส่งที 18 เรื่อง หนังไทยถ้าทำแล้วส่งเยอะๆเข้าไป ตั๊กว่าสู้หนังเกาหลีหรือว่าหนังจีนได้อีกเยอะเลย ทุกประเทศที่ไปบอกตลอดว่าทุกปี เขาก็จะมาจากกลุ่มคนเทสกาลจะมาจากกลุ่มเดียวกัน จะมาจากกลุ่มกรรมการ กลุ่มนักวิจารณ์เขาก็จะไป อย่างอิตาลีเหมือนกับไปดูหนังเล็กๆ พอเขารู้สึกว่าเขาชอบเขาจะติดต่อแล้วให้ไปฉายในเทสกาลต่อไป เหมือนกับเราได้เข้าไปคุยกับเขา เขาก็จะบอกว่าประเทศเราส่งหนังน้อยมาก อย่างประเทศเกาหลีส่งทีเป็นร้อยเรื่อง รางวัลหนึ่ง18เรื่อง 3รางวัลก็ก็ปาเข้าไปหลายเรื่องแล้ว เขาเลยบอกหนังไทยมีให้เลือกน้อย เขาอยากให้คนไทยทำหนังเยอะๆ 

 

 

 
\'ตั๊ก\' ไม่ได้คิดประจานใคร

 

    (ความรู้สึกตอนที่เข้าชิงรู้สึกอย่างไรที่ไปตลาดต่างประเทศ) เหมือนได้ไปเรียนรู้แต่ว่ายังไม่ถึงขั้นที่ว่าประสบความสำเร็วอะไรแค่เหมือนกับว่าเป็นก้าวก้าวหนึ่งที่เราไปเรียนรู้ ตั๊กคิดว่าจะ ได้กลับมาพัฒนาในเรื่องของการทำภาพยนตร์ในเรื่องต่อไปอีก ตอนนี้ตั๊กก็มีแพลนในการทำภาพยนตร์เรื่องต่อไปแล้ว คือว่าเมืองนอกชอบความเป็นไทยมากแต่คนไทยอาจจะไม่รู้ว่าเมืองนอกชอบความเป็นไทยจริงๆ เขาอยากให้ไทยเป็นชาตินิยม อย่างที่ตั๊กไปเมืองนอกเขาก็ถามตลอดว่า สังคมเป็นอย่าไรบ้าง เขาเคยไปพัทยา ภูเก็ต อยุธยาเป็นอย่างไรหรอ เขาจะถามตลอด ตั๊กก็จะมีลามเขาคุยภาษาอังกฤษได้ ตั๊กก็เล่าให้เขาฟังว่าอยุธยา เป็นเมืองเก่าของเรา บางคนก็จะบอกว่า เคยไปมาแล้ว เหมือนเขาชอบความเป็นไทย 

    (หนังเราไปถึงจุดนั้นแล้วสร้างโปรไฟล์ความเชื่อถือกับผู้กำกับคนอื่นๆที่มีต่อเราในการร่วมงาน) จริงๆ อยู่ที่บททุกอย่าง ถ้าเรื่องของความเชื่อถือตั๊กว่ามันไม่ใช่เรื่องนั้น เป็นเรื่องของคิดจะทำหนังสักเรื่องหนึ่ง เราอาจจะต้องรู้เรื่องบทของภาพยนตร์ด้วย ถ้าบทดีทุกอย่างก็ดี จริงๆคือการเล่าเรื่องบท ตั๊กเป็นคนชอบเล่าเรื่อง คือจริงๆหนักตั๊กก็เป็นหนังแมส แต่ว่าแล้วแต่คนดู อย่างเรื่องSad beautyถามว่าดูรู้เรื่องไหม ดูรู้เรื่องนะ เพียงแต่ว่าวิธีการเล่าเรื่องหรือภาพ อาจจะดูเก๋ๆ ดูในแนวที่เรารู้สึกว่าในแบบที่เราชอบ เราทำหนังออกไปเราไม่ได้มุ่งตลาดต่างประเทศเท่านั้น แต่เรามุ่งตลาดไทย ตั๊กอยากให้คนไทยดูหนังตั๊ก เพราะว่าถ้าคนไทยยอมรับเรา ตั๊กดีใจกว่าเมือนนอกยอมรับอีก เพราะว่าเมือนนอกก็ต่องคิดแล้วขนาดคนของคุณยังยอมรับคุณเลย ตั๊กเลยอยากให้ sad beauty ฉายในเมืองไทยก่อน ถึงจะส่งไปต่างประเทศ 

    (แล้วที่บอกหนังเราจะไปอีกหลายประเทศจะไปเมื่อไหร่) ที่เซี่ยงไฮ้จะเป็นเดือนหน้า นิวยอร์กจะเป็นกรกฏาคม กรกฏาเข้าประกวดแล้วก็ฉาย (ที่เราไปได้ฉายหมดเลยไหม) ใช่ค่ะ ไม่งั้นไม่ไป เพราะบอกเลยห่วงลูกมาก คือยากให้ลูกไปแต่ลูกต้องเรียน ถ้าหนังไม่ติดไม่ได้เข้ารอบไม่ได้ฉายจะไม่ไปเลยจริงๆการเดินทางเพราะตั๊กกลัวเครื่องบินคือไม่ชอบเดินทาง ทางอากาศ (แพลนนี้ยาวแค่ไหนค่ะ) ก็เรื่อยๆนะ (หลังจากไปอิตาลีความคาดหวังเพิ่มมากขึ้นกับอีกประเทศหลายๆประเทศ) ไม่เลยนะ ตั๊กเห็นคู่แข่งแล้วรู้สึกโชคดีมากกว่าถ้าเราได้เห็นนะจะรู้เลยว่าโชคดีมากที่ได้เข้ามาอยู่ตรงนี้เพราะว่าจากทั่วโลกคือเขาคัดกลั่นกรองมาอย่างดีแล้ว จนเราไม่รู้สึกเสียใจเราก็รู้ว่าเราไม่ได้หรอกเพร้าราเห็นหนังของคนอื่นๆเขา เขาดีจริงๆอย่างเรื่องบ้างเรื่องของเกาหลีไม่ได้ แต่ก็มีบางเรื่องที่เราสู้ไม่ได้จริงๆ เราก็เลยรู้สึกยอมก็ยังไปแสดงความยินดีด้วย

 

 

\'ตั๊ก\' ไม่ได้คิดประจานใคร

\'ตั๊ก\' ไม่ได้คิดประจานใคร

    ถามต่อถึงที่คนไปคอมเม้นตั๊กในอินสตาแกรมในเชิงลบแล้วตั๊กบอกขอบคุณที่ทำให้ได้ไอเดียใหม่

    "จริงๆ ตั๊กคิดตลอดว่าจะนำเสนอหนังในเรื่องมุมมองของสังคมไทยอย่างไรที่จะไม่ให้กระทบกับสังคมไทยเยอะ สังคมบางเรื่องเราก็พูดไม่ได้บางเรื่องเล่าไม่ได้แต่เรารู้ ตั๊กก็อยากเล่าเรื่องของสังคม เรื่องคอมเม้น ที่เขาคอมเมนมา ที่ตั๊กเอามาขึ้นไอจีแล้วให้คนคอมเม้นกลับก็อยากจะดุกระแสว่าสิ่งที่เขาคิด คนอื่นตีความอย่างไร แล้วสิ่งที่เขาคิดเป็นยังไง เหมือนกับเขาเอาความรู้สึกเข้ามาคอมเม้นเรามากกว่า ไม่ให้ความสนใจแบบไม่รักก็เกลียดเลย การตีความของตั๊กเลยรู้สึกว่าถ้าดูในเรื่องของจิต สังคมเริ่มคอมเม้นมีอิทธิพล ชักจูงคนสูงมากแค่คนเข้าไปกดคอมเม้นว่าเห็นด้วย คอมเม้นนั้นก็จะดุมีเสียง ที่ใหญ่ขึ้น ตั๊กมีความรู้สึกว่าหลายเรื่องมีหลาดหลายนด้าน เลยอยากที่จะทำของสังคมในเลยของการคอมเม้น สังคมออนไลน์ สิ่งที่ขึ้นไม่ได้จะให้เกิดความขัดแย้งในหารที่คนเข้ามาออกความเห็นต่างกันคือต้องการการทำดีเซีร์ทมากกว่า) ใช่ค่ะ จริงๆ อ่านจะโกรธนะแต่เดี๋ยวนี้เริ่มรู้สึกว่า ดาราทุกคนโดน มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำมีอิธิพลสูงกับมนุษย์กับประเทศไทย ถ้าเป็นภาพยนตร์ที่ต่างประเทศเขาก็โดนแต่คนไทยโดนแบบไหนเขาไม่รู้ ถ้าเราเล่าว่าคนไทยโดนแบบนี้นะ เขาก็จะได้รู้ (ไม่ได้จงใจที่จะแหกเขา) ไม่เลย คือจริงๆอยากเห็นคอมเม้น คืออย่างเราเป็นข่าวแล้วเขามาคอมเม้นตั๊ก ตั๊กก็เลยอยากเอาเขาเป็นข่าวฝห้คนคอมเม้นเขาดูบ้าง ว่าคนคอมเม้นเขาอย่างไร เพื่อจะดูกระแสการตอบรับกลับมาว่าคนที่เห็นด้วยกับเขาก็มีนะ กับคนที่มีไดอรอปที่แตกต่างกันไป (กลัวคนมองว่าประจานเขาหรือเปล่า) แล้วทีเขาว่าตั๊ก (ขำ) ตั๊กยังชิวเลย คือเราก็มีผลประโยชน์ร่วมกันเราก็ได้ไอเดีย เขาก็ได้ว่าตั๊ก โดนที่กระจายเสียงเขาออกไปทำให้คนได้ฟังเขาชัดขึ้น (อันนี้เป็นพอดเรื่องใหม่ได้เลยไหม) ถ้าบอกหมดคนเอาไปทำนะ จะถามจนจบเลยไหม(ยิ้ม) 

    (เห็นในไอจีลงรูปคุณแม่) ใช่ค่ะ คิดถึงแม่ อยากให้รู้ว่าแม่เขาไปสบาย ไม่ได้ทรมาน ลำบาค อะไร แล้ววันนั้นเป็นวันที่เข้าไปที่บ้านเข้าไปจัดของแล้วก็เห็นว่ามีของของแม่อยู่ (ภาพที่ลงท่านหลับไปอย่างสบาย) ใช่ค่ะ เป็นภาพที่ตั๊กแต่งหน้าให้แม่ แต่งตัวให้แม่"

 

\'ตั๊ก\' ไม่ได้คิดประจานใคร

\'ตั๊ก\' ไม่ได้คิดประจานใคร

\'ตั๊ก\' ไม่ได้คิดประจานใคร