D-Team ประกอบไปด้วยดวิน (ทำหน้าที่หัวหน้าทีม) “กรรณ” (นิธิชัยยศอมรสุนทร) อายุมากสุดในทีม นักแม่นปืนเงียบขรึม พูดน้อยแต่พูดแล้วช่างบาดลึก “ลิง” (ณัฏฐพงษ์ชาติพงษ์) นายทหารหนุ่มรูปร่างเพรียว ปราดเปรียวเคลื่อนไหวได้รวดเร็วถนัดต่อสู้ด้วยมือเปล่า กะล่อน กวน “หิน” (ขุนณรงค์ประเทศรัตน์) นายทหารร่างใหญ่ กล้ามแน่น แรงเยอะและมีความสามารถเกี่ยวกับเครื่องยนต์ทุกชนิด หน้าตาคมเข้ม หล่อ ล่ำแต่มักจะพูดจาเชยๆ โดยเฉพาะเวลาจีบหญิง คนสุดท้ายของทีมคือ “ดานิกา”หรือ “แพน” (ณัฐฐชาช์ บุญประชม) ผู้หญิงคนเดียวของทีมเป็นลูกพี่ลูกน้องของดวินดานิกาเป็นคนช่างสังเกตและเป็นคนที่เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดีเป็นเหมือนคลังข้อมูลของทีม
ดวิน , กรรณ , ลิง , หิน และ แพน ..คือสุดยอดทีมอารักขาที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นที่สุดไม่ว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายและล่อแหลมแค่ไหนก็ตามดวินสามารถวางแผนและดึงศักยภาพของลูกทีมออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ด้วยความเทพของทีม ทำให้ดวินมีภาระกิจมาให้ทำตลอดเวลาไม่เคยได้พักมาเป็นเวลาหลายปี... แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้พักร้อนเป็นเวลา“5 วัน” !!!! ห้าวันที่แสนมีค่า ดวินไปพักที่เกาะแห่งหนึ่งอันแสนห่างไกลเกาะที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากธรรมชาติอันแสนสงบและสวยงามเดิมกองทัพเรือเคยใช้เกาะนี้สำหรับฝึกหน่วยรบพิเศษซึ่งเป็นช่วงเวลาที่วินชอบมากที่สุด ทุกครั้งที่มีเวลาว่างเขาจึงมักมาพักที่เกาะนี้ เพื่อทบทวนสิ่งที่เคยได้ฝึกไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำลึก ปีนหน้าผา วิ่งขึ้นเขา หรือ การเอาตัวรอดในป่าดวินมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบบู๊สุดๆโดยไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายแต่....ดวินหารู้ไม่...การมาพักครั้งนี้ เขาจะต้องพบกับ “ความวุ่นวาย” ที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตอย่างที่สุด !!ความวุ่นวายที่จะเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเขา...ความบังเอิญของชะตาชีวิตที่เขาไม่ได้ลิขิตและไม่มีวันจะคิดไปถึง !!
ณ อีกด้านของฟากฟ้าอันไกลโพ้น...ดินแดนแห่ง “ฮรีสอซ” ประเทศเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม “ฮรีสอซ”ปกครองด้วยระบบกษัติรย์มาช้านาน ประชาชนส่วนใหญ่ทำการเกษตรและมีสินค้าออกสำคัญคือ “ทองคำ” ประชาชนทุกคนให้ความเคารพกษัตริย์และราชวงศ์มายาวนานแต่แล้ว...เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ “เจ้าหญิงอลิซ” (อุรัสยาเสปอร์บันด์) องค์รัชทายาทที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งไม่นานถูกลอบทำร้ายระหว่างเดินทางไปพักผ่อน คนร้ายบุกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวโชคดีที่ “อลิซ” ใช้ความสามารถทางการต่อสู้ที่ได้ฝึกฝนมาอย่างดีตอบโต้และ เอาตัวรอดหลบหนีมาได้อย่างหวุดหวิดอลิซรีบกลับเข้าวัง และพุ่งตรงไปต่อว่า “โมนา” (สิรินยา บิชอพ) แม่เลี้ยงของอลิซ ที่ตอนนี้แต่งงานกับ “ลุง” เจ้าชายอังเดร (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนคือ “อลัน” (อินทัช เหลียวรักวงศ์) ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายต่างพ่อของเธอ แต่โมนากลับตอกกลับให้อลิซไปลองคิดทบทวนดูดีๆ เพราะตอนนี้ มีหลายคนที่อยากให้เธอตาย ศัตรูของอลิซไม่ใช่แค่เธอคนเดียว !!
คำย้อนของโมนาทำให้อลิซถึงกับจุก เพราะมันคือความจริงทั้งอังเดรและโมนาต่างคิดว่าอลิซไม่เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาท ว่าที่ราชินีแห่งฮรีสอซ แต่ที่เธอได้ตำแหน่งเพราะประจบ “เฮนรี่” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) คุณปู่ที่เป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบัน พวกเขาคิดแบบนี้เพราะไม่ยอมรับความเป็นจริง...ความจริงที่ว่า...เจ้าชายอังเดร (ลุงของอลิซ) ไม่เหมาะจะเป็นองค์รัชทายาทเพราะแต่งงานกับน้องสะใภ้ตัวเอง ถึงแม้น้องชาย (พ่ออลิซ) จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่สังคมภายนอกยังไม่ยอมรับ
“เจ้าหญิงเคธ”(ซาร่า เล็กจ์) มีศักด์เป็นพี่สาวของอลิซ เป็นลูกสาวของอังเดรที่เกิดจากภรรยาคนก่อนที่เสียชีวิต ถ้านับกันตามศักดิ์ เคธคือคนแรกที่ควรจะได้ตำแหน่ง แต่เคธก็ถูกมองว่าไม่เหมาะสมเพราะพ่อของเธอทำตัวไม่เหมาะสม (เป็นเหตุผลที่เคธรับไม่ได้อย่างรุนแรง อีกทั้งพ่อและแม่เลี้ยงก็มองไม่เห็นหัวเธอ เธอจึงอยู่ในวังนี้ เหมือนเจ้าหญิงที่ถูกลืมเสมอ) แต่เคธเป็นพี่สาวคนเดียวที่ดูรัก เป็นห่วงและคอยอยู่ข้างอลิซแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ในครอบครัว ส่วนเจ้าชายอลันนั้นไม่ต้องพูดถึง... เค้าดูไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เค้าเป็นเจ้าชายรักสนุกชอบปาร์ตี้ ถึงแม้พ่อและแม่ของเขา จะทำตัวไม่เหมาะสม แต่อลันไม่เกลียดพ่อกับแม่แต่ไม่เห็นด้วย และโดนเป่าหูจากคนรอบข้างเลยพาลไม่ชอบหน้าอลิซทั้งที่เคยสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะฉะนั้น...คิงเฮนรี่จึงเห็นแล้วว่าคนที่เหมาะสมมากที่สุดในตอนนี้คือ “อลิซ”
แต่ตั้งแต่ได้รับตำแหน่งทำให้ อลิซ ตกอยู่ในอันตรายทุกย่างก้าว เธอไม่รู้เลยว่าใครกันแน่ที่อยากให้เธอตาย เจ้าชายอังเดร (ลุง) โมนา (แม่เลี้ยงที่ตอนนี้ไปแต่งงานกับลุง) ทั้งสองคนต่างเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้น คนที่อลิซไว้ใจนอกจากพี่เคธพี่สาวที่แสนดี เธอก็มี “วิล” (แมทธิว ฉันทวานิช) เจ้าชายต่างเมืองว่าที่คู่หมั้น
ที่คิงเฮนรี่หมายตาไว้ให้เพราะทั้งสองประเทศผูกพันกันอย่างใกล้ชิดมาช้านาน วิลเป็นเจ้าชายรูปงาม หล่อ สมาร์ท ฉลาด (แอบเจ้าเล่ห์) ปากหวาน และถนัดหว่านเสน่ห์กับหญิงสาวรอบตัว อลิซรู้สึกดีที่ได้วิลปลอบใจ แต่ลึกๆ แล้วเธอรู้ว่ามันไม่ใช่ความรัก วิลไม่ใช่ผู้ชายที่เธออยากฝากชีวิตไว้ในมือของเขา จะว่าไป อลิซไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีผู้ชายคนนั้นอยู่บนโลกใบนี้ ผู้ชายที่เธอรักและไว้ใจเขามากพอที่จะฝากทั้งหัวใจ และชีวิตให้เขาดูแล ผู้ชายคนนั้นคงอยู่บนโลกใบอื่น โลกที่เธอไม่มีวันไปถึง
ภารกิจมากมายตรงหน้า ทำให้อลิซวางเรื่องหัวใจไว้ไกลตัว สิ่งที่เธอต้องสนใจมากที่สุดตอนนี้คือ
หาตัวศัตรูให้เจอและกำจัดให้สิ้นซากก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายถูกกำจัดเสียเอง หลังจากเกิดเหตุ คิงเฮนรี่เริ่มเป็นห่วงอลิซมากขึ้น เมื่ออลิซต้องมาปฏิบัติภารกิจที่ประเทศไทย อลิซตั้งใจที่จะเสด็จมาแบบเงียบๆ มีเพียง “เภตรา”(ญาณิน วิสมิตะนันทน์) และ “เจซี” (ปฤสยา เจริญเนติศาสตร์) บอดี้การ์ดสาวคู่ใจ ที่ทำหน้าที่ทุกอย่างดูแลจัดการในทุกๆเรื่อง รวมทั้งการอารักขา และรักษาความปลอดภัย แต่คิงเฮนรี่แอบติดต่อให้ “นายพลศักดิ์ชาย”(จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) พระสหายที่รักใคร่ชอบพอกันมานานเป็นผู้ดูแลนายพลศักดิ์ชายเป็นหัวหน้าโดยตรงของดวิน ทำหน้าที่ควบคุมหน่วยปฎิบัติการพิเศษอยู่อย่างลับๆ ศักดิ์ชายส่ง D-Team มาดูแลอลิซ แต่ในทีมไม่มีดวิน เพราะเขากำลังพักร้อนอยู่ที่เกาะ และสั่งห้ามไม่ให้ใครติดต่อไปเด็ดขาด ! แต่อลิซกลับไล่ทุกคนกลับเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวและไม่ชอบที่มีคนไม่รู้จักมาอยู่รอบๆตัว เธอมั่นใจว่าแค่เภตรา กับ เจซี สองคนก็ “เอาอยู่” ไม่ต้องมีคนมาอารักขาเพิ่ม ทำเอานายพล และ D-Team งง อึ้ง แต่แล้วก็ต้องยอมกลับไปแต่โดยดี
นายพลรีบแจ้งไปทางคิงเฮนรี่ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่สบายใจในความปลอดภัยของอลิซ แต่ก็ต้องยอมเพราะความดื้อรั้นของนาง หลังจากหงายเงิบไปเพราะลูกน้องโดนไล่กลับ ศักดิ์ชายก็ตั้งหลักรับมือกับความดื้อของอลิซ
และเตรียมจัดงานเลี้ยงเล็กๆเพื่อต้อนรับเป็นการภายใน มีเพียงนายทหารชั้นสูงไม่กี่คน รวมทั้งนักธุรกิจระดับแนวหน้าจำนวนหนึ่งที่ต้องการเข้ามาทำความรู้จักกับราชินีองค์ต่อไปก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มเภตราและเจซี เตรียมชุดราตรีให้อลิซอย่างสวย หรู อลิซสวยสง่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ยังไม่ทันจะได้โชว์ความอลังให้แขกในงานได้เห็น เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคนร้ายได้แฝงตัวเข้ามาอย่างแนบเนียนและแอบลักพาตัวอลิซไปอย่างอุกอาจ เพียงกระพริบตา....อลิซก็ถูกพาตัวออกไปจากที่พักอย่างไร้ร่องรอย
คนร้ายพาตัวอลิซลงเรือ หวังจะฆ่าและทิ้งลงทะเลอันเวิ้งว้าง และ ห่างไกล แต่อลิซรู้สึกตัวก่อน และใช้ไหวพริบหาทางหนีออกมาได้ บวกกลับความสามารถในการต่อสู้ สุดท้ายเธอก็กระโดดลงจากเรือหนีมาได้ ร่างของอลิซหมุนคว้างอยู่กลางทะเล ซัดเซ ไปตามกระแสคลื่น และแล้ว....เหมือนคนบนฟ้าที่ใดที่หนึ่งได้ขีดเส้นชีวิตให้ร่างของอลิซถูกพัดพามาที่หาด บนเกาะร้างที่ดวินพักร้อน ดวินเห็นร่างหญิงสาวในชุดราตรีแปลกตาขาดวิ่น
ด้วยสัญชาตญาณเขารีบเข้าไปช่วย ด้วยทักษะการช่วยชีวิตที่ฝึกฝนมาช้านาน ร่างไร้สติของอลิซก็ฟื้นขึ้นมาราวกับปาฎิหารย์ ทันทีที่สมองเริ่มทำงานเหตุการณ์สุดท้ายยังค้างอยู่ในสมองทำให้เธอคิดว่าดวินคือหนึ่งในคนร้ายเธอจึงรวบรวมแรงทั้งหมดที่มี และเหวี่ยงฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าดวินอย่างแรงเพี้ยะ !! นี่คือ การโดนตบครั้งแรกในชีวิต !ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยโดนผู้หญิงคนไหนตบมาก่อนแต่วันนี้ผู้หญิงที่เขาช่วยชีวิตกลับตบเข้าอย่างจัง ดวินถึงกับจี๊ดทนไม่ได้ เขารวบตัวหมายจะจับตัวอลิซเพื่อสอบสวน หาที่มาที่ไปก่อนจะทำร้ายเขามากไปกว่านี้ แต่อลิซกลับเข้าใจผิดคิดว่าจะเข้ามาทำร้ายเลยรวบรวมแรงทั้งถีบ ทั้งเตะ ทั้งต่อย สารพัดจะทำได้ไม่ให้ดวินจับตัวเธอ ยิ่งเธอต่อสู้ ดวินยิ่งไม่ยอม ต้องรวบตัวไว้ให้ได้(ผู้หญิงคนนี้อันตรายจริงๆ)การต่อสู้อย่างทุลักทุเลของสองคนเกิดขึ้นริมชายหาดจนสุดท้ายดวินสามารถรวบตัวอลิซไว้ได้ด้วยฝีมือที่เหนือชั้นกว่าอลิซถูกดวินมัดมือมัดเท้า และนั่งสอบปากคำ ..ไม่ว่าจะคาดคั้นอย่างไรอลิซก็ไม่เอ่ยปากว่าเธอเป็นใคร และโดนใครทำร้ายมาดวินเหนื่อยใจยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ และประกาศกร้าวกับอลิซว่าบนเกาะนี้มีเพียงเขาและเธอเท่านั้นเพราะฉะนั้นจงอยู่ให้รอดและอย่าตาย บนเกาะนี้ไม่มีใครนอกจากดวิน !!ซึ่งแปลว่า เธอจะต้องอยู่บนเกาะตามลำพังกับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้!!
ไม่ว่าจะด้วยโชคชะตาที่ใครบนฟ้าลิขิต หรือเพราะกระแสคลื่นที่แปรปรวน... แต่ตอนนี้ ดวิน และ อลิซ ได้มาพบกันอย่างไม่คาดฝันและเรื่องราวอีกมากมายกำลังจะตามมาติดตามชมเรื่องราวชะตาชีวิตลิขิตรักของเจ้าหญิงอลิซ และ ดวินว่าจะลงเอยอย่างไร...