'แพท' ไม่ต่อสัญญากับช่อง3 เพราะเหตุนี้!!! | คมชัดลึก

         โบกมือลาวิกพระรามสี่ ไปอีกคนแล้วสำหรับ “แพท" ณปภา ตันตระกูล ที่เพิ่งหมดสัญญาไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งคุณแม่สุดสตรองได้กล่าวถึงสาเหตุที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเปนเพราะว่า 

             "เพิ่งจะหมดไปช่วงเดือน เม.ย ที่ผ่านมา แต่ว่าก่อนหน้านี้ที่เห็นเราไปทำนู่นทำนี่เพราะว่าเรามีการขออนุญาตบางส่วน มีการบอกกันก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เนื่องจากพรีเซ็นเตอร์ที่เรารับ รวมถึงตัวที่เราเป็นเจ้าของ ผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่ มันจะมีการประชาสัมพันธ์สินค้าเป็นการtie-in แล้วถ้าเขาจ้างเราแล้วเราไม่สามารถทำให้เขาได้ เขาก็คงคิดว่าจะจ้างเราทำไม เราก็เลยมีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ เบื้องต้นว่า อาจต้องมีไปทอล์คไปtie in นะคะ แต่ว่าพอหมดสัญญาพอก่อนที่จะหมด เราก็เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ว่า ตอนนี้ด้วยเรื่องการแสดงอาจเพราะคาแร็คเตอร์ของเรา และเด็กในสังกัดที่เยอะ รวมถึงบทละครที่ส่งมาถึงเรามันก็ไม่ได้เยอะเหมือนเดิมแล้ว เราก็เลยบอกว่าโอเค ด้วยความที่เรามีลูกด้วย การที่ต้องถ่ายละคร 7 วันมันก็ไม่เหมือนเดิม ก็เลยอยากทำเรื่องของพิธีกรให้มากขึ้น เลยขอไว้ตั้งแต่ก่อนหมดสัญญาแล้วว่าอยากทำพิธีกรมากขึ้น เพราะว่ามันเป็นการง่ายและตอบโจทย์ตัวเราด้วย       

         (ละคร "ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง" ที่เล่นกับมาริโอ้ เมาเร่อ และคิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ เป็นละครเรื่องส่งท้าย) อย่าส่งท้ายเลย จริงๆแล้วเราไม่ได้หมายความว่า จะออกหรือว่าอะไรนะ แต่หมายถึงว่าถ้าจ้างมีงานเราก็ทำเหมือนเดิม แต่หมายถึงว่า ในส่วนของละครเราก็ยังเล่นกับช่องเหมือนเดิม แต่ว่าจะขออนุญาตในเรื่องของ เราอยากทำหน้าที่ของพิธีกรให้มากขึ้น หรือว่าเป็นแขกรับเชิญ ตอนนี้เรายังไม่ได้เซ็นต่อเพราะว่า แพทยังไม่แน่ใจ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันเป็นกิจจะลักษณะ ว่าเราจะต่อกันเป็นละครไหม เพราะว่ามันเพิ่งหมดสัญญาไป ตอนนี้ก็เป็นนักแสดงอิสระ รับทุกอย่าง ยกเว้นละคร ละครยังเล่นให้แค่ช่อง3 ที่เราคุยกันไว้ว่าเราคงเล่นละครให้ช่อง 3 ถ้าตอนนี้ไปโผล่ช่องไหนอย่าเพิ่งตกใจ แต่ว่าจริงๆแล้วคนที่ดูเราไม่ค่อยตกใจนะ เขาชินอยู่แล้ว (ตอนนี้มีกี่รายการ) 5 รายการ แต่ว่าส่วนใหญ่เป็นแขกรับเชิญด้วย

(ละคร ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง)

         (รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง ชนกับรายการใหม่ไหม) จริงๆเราก็แอบเกรงใจนะ พอดูคอนเทนต์แล้วด้วยความที่เป็นพิธีกรเหมือนกัน มี4 คน แต่ว่าคอนเทนต์รายการไม่เหมือนกัน ทางรายการแชร์ข่าวสาวสตรองเน้นในเรื่องของข่าว ข่าวทุกอย่าง แต่ว่าผู้หญิงถึงผู้หญิงจะพูดถึงคอนเทนต์ วิธีการดูแลตัวเองฉบับผู้หญิง มันไม่เหมือนกัน"แพท กล่าว

(รายการ ‘แชร์ข่าวสาวสตรอง’)

            เมื่อถามต่อถึงเรื่องที่มีคนเข้าใจว่า เราก็เบนซ์ เรซซิ่ง เลิกกันแล้ว

            "ยังหรอก ยังไม่ได้เลิกกัน จริงๆเราบอกไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า เรายังเป็นภรรยาที่ดีให้กับพี่เบนซ์อยู่ ยังเป็นแม่ที่ดีของเรซซิ่งอยู่ แต่ว่าก่อนหน้าอาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศเขาฟันธงไปไกลถึงปี62 แล้วพอถูกถามถึงอนาคตเราก็ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะว่า ณตอนนี้สิ่งที่มันเป็นอยู่มันก็อยู่ของมัน ณ สภาพแบบนี้อยู่แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าแพทมีแล้ว คือยังไม่มีนะคะ อาจารย์ลักษณ์บอกว่าถ้าเราสามารถอยู่กับมันได้ จนเลยปี 25 62 เข้าปี 2563 ทุกอย่างมันจะลงตัวกว่านี้ แต่ขอให้เราอดทน แต่ถ้าในระหว่างทางมันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น มันจะมีสิ่งหนึ่งที่เข้ามา สิ่งที่อาจารย์บอกว่านั้นคือผู้ชาย เข้ามาในชีวิต แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ แล้วมันก็ยังไม่ถึงเวลา (ก่อนหน้านี้เราสัมภาษณ์ว่าเราไม่ได้คุยกับทางบ้านเบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดชแล้ว) อันนี้มันก็เป็นเรื่องจริง เลี่ยงไม่ได้จริงๆ คือ1.เลยคือ น้องด้วย แพทด้วย ครอบครัวเราด้วย เราต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ แพทกับพี่เบนซ์ระยะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันจนถึงมีลูก มันค่อนข้างสั้น 2ปีได้ พอมันสั้น คือตัวกลางเขาไม่อยู่ค่ะ ในการที่จะเชื่อมอะไรหลายๆอย่าง ทั้งกับแพทกับแม่พี่เบนซ์ รวมถึงพอเรามีน้องแล้วด้วยเรื่องของสถานที่ น้องโตขึ้นทุกวัน น้องก็ต้องการพื้นที่มากขึ้น ไม่ใช่แค่ตึก แล้วบ้านของแพทเองมีบริเวณ เราก็เลยตัดสินใจว่าย้ายออกมาดีกว่า ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราไม่ได้ปิดบังอะไร คนแถวนั้นก็เห็นว่า เราย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว คนที่บ้านก็รู้ แล้วด้วยความที่เราคุยกับบ้านพี่เบนซ์ว่าแพท ติดเรื่องแม่แพทที่ต้องกลับมาดูแล ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นว่า วิ่งไปวิ่งมา มันเหนื่อยทั้งเราทั้งลูก แล้วเราเลี้ยงลูกเอง แม่เบนซ์ก็บอกว่าถ้าเราไม่สะดวก หรือว่าทำงานลำบาก ให้เอาน้องไปฝาก แต่ว่าด้วยความที่เราเลี้ยงเขามาตลอดเวลา เราก็คิดว่าเลี้ยงเองดีกว่า (ตั้งแต่มีข่าว ได้ไปคุยกับแม่เบนซ์ไหม) ยังเลย ล่าสุดเจอกันครอบครัวเขาก็บอกว่าถ้าเราแฮปปี้ที่จะกลับมาก็กลับมา สัปดาห์ละ1-2 ก็ได้พาน้องมาเล่น แล้วเราก็เพิ่งพาน้องไปหาย่ามา แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องภายใน อย่างที่บอกพอตัวกลางเขาไม่อยู่ คนที่เขาเป็นคนเชื่อมทุกอย่างเขาไม่อยู่ มันก็เป็นเรื่องที่พูดยากเหมือนกัน" นักแสดงแม่ลูกอ่อนกล่าวแจง

            เมื่อถามต่อว่าเบนซ์ทราบเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นหรือยัง ซึ่งนักแสดงสาวแจงว่า 

            "เวลาเราไปเยี่ยมก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่ว่าเขารับรู้มาตลอดว่าเราย้ายกลับมาอยู่บ้านเราเรียบร้อยแล้ว แพทบอกตลอดว่า เรากับลูกย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาก็บอกว่าเอาที่แพทสบายใจ (แพทกลัวย่ากับเรซซิ่งห่างกันไหม) อันนี้เป็นเรื่องที่เราก็พยายามทำให้เขาไม่ห่างกันมาก แต่ต้องเข้าใจแพทด้วยว่าตอนนี้เรารับอะไรหลายอย่างในชีวิต มากเหลือเกิน ตอนนี้รับเรางานเยอะขึ้น แทบจะรับทุกงานเลย ที่เข้ามา เพราะเราเห็นค่าใช้จ่ายที่เป็นเลขขึ้นมาแล้วว่า ลูกเราจะต้องใช้จ่ายเพิ่มเติมเท่าไร คือตอนนี้ที่บอกว่าห่างพี่เบนซ์คือด้วยความที่เราทำงานเยอะขึ้น เวลาไปเยี่ยมแค่สัปดาห์ละครั้งแล้วไม่ได้หมายความว่าเราจะไปเยี่ยมได้เอง คือบางทีเราก็ไม่อยากให้แม่เขารอเรา เพราะว่าเราก็บอกไม่ได้ เราก็เลยบอกให้แม่เขาไปเยี่ยมก่อน แต่ถ้ามีเวลาก็พาน้องไป

         เอาตรงๆ ตอนนี้แพทกับพี่เบนซ์ เรา ด้วยความที่ต้องเข้าใจแพทกับพี่เบนซ์ด้วยว่าเรา สองคนเจอกันสัปดาห์ละครั้ง แล้วเดือนหน้าจะครบ 1 ปีแล้วที่ครอบครัวเราไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย ตอนนี้ภาระแพทเยอะขึ้น ลูกโตขึ้น แล้วแพทสะดวกจะเอาน้องกลับมาเลี้ยงที่บ้านแพทมากกว่า ประกอบกับที่เรามีแม่ต้องดูแล การหอบลูกไปมาไม่สะดวกจริงๆ ตรงนี้พี่เบนซ์รับรู้นะคะ พี่เบนซ์ไม่ได้ว่าอะไรทั้งนั้น เขาแล้วแต่เรา และแพทกับพี่เบนซ์ยังเป็นสามีภรรยากัน แพทยังทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด และยังเป็นแม่ของลูกเขา ให้ดีที่สุด คนเข้าใจว่าเราห่าง ก็ห่างจริงเพราะว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ว่ายังไม่เคยมาบอกว่าจบความสัมพันธ์กันแล้ว ยังไม่มี ยังไม่ได้ถึงขั้นนั้น แต่ว่าเราก็ยอมรับสถานการณ์ว่ามันห่างกันจริงๆ ด้วยภาระหน้าที่ บอกเขาตรงๆว่ามันหนักจริงๆ เราก็บอกเขาว่าเราทำอะไรบ้าง รวมถึงปรึกษาเขาเรื่อภาระลูกที่ต้องแบก แพทยังรักเขาอยู่ เป็นห่วงเขาอยู่"  แพทกล่าวปิดท้าย