
'โตโน่'เคลียร์ดราม่าเหตุ'ก้องห้วยไร่'ไม่ไปเล่นคอนเสิร์ต
"โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เปรยอย่าจับเอี่ยวประเด็น "ก้อง ห้วยไร่" โดนผู้จัดคอนเสิร์ตที่ยุโรปฟ้อง ยันไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย
ไม่จบง่ายๆ สำหรับดราม่าเหตุการณ์ที่ “ก้อง หัวยไร่” หรือ อัครเดช ยอดจำปา โดนผู้จัดคอนเสิร์ตที่ยุโรปฟ้องเบี้ยว ไม่ยอมไปเล่นคอนเสิร์ตแถมแฉว่า ก้อง ต้องการตามโตโน่มาเที่ยวต่างประเทศ ได้สอบถาม “โตโน่” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ถึงประเด็นข่าวดังกล่าว ในงานถ่ายทำเอ็มวี “7 Wonders Concert 2018” ที่ Pirate Studioได้ความว่า

"จริงๆ แล้ววงผมต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตกันอยู่แล้ว ด้วยการที่เรารู้จักก้อง เป็นเพื่อนกันเพราะไปเตะบอลด้วยกัน พอเขาทราบเขาก็อยากไปเที่ยวไปพักผ่อนด้วย เราก็เลยบอกว่ายินดีเลยไปเที่ยวด้วยกันได้ แล้วเราเลยบอกกับทางผู้จัดการของเราว่าก้องอยากไปด้วย (ตามสัญญาก้องต้องไปด้วยใช่ไหม) ก็มีสัญญาหมดทุกอย่าง แต่ว่าเราก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุที่ทำให้เขามาไม่ได้
(ก่อนเดินทางเขามีแจ้งเราไหมว่าเขาไม่สะดวกไป) ไม่นะ เราทราบตอนที่เราไปยุโรปแล้ว จริงๆ แล้วผมไม่ได้อยากพูดในเรื่องของรายละเอียดมากนัก เพราะมันไม่ใช่เรื่องของผมกับวง เอาเป็นว่าเรื่องรายละเอียดผมไม่ขอพูดถึงละกัน เพราะจริงๆ แล้วผมตั้งใจไปคอนเสิร์ตเพราะผมอยากให้แฟนๆ ที่เป็นคนที่ไปทำงานต่างบ้านต่างเมืองเขามีความสุข ซึ่งตลอดระยะเวลาเดือนกว่าทุกคนมีความสุข เราได้ทำหน้าที่อยา่งเต็มที่แล้ว ส่วนเรื่องของจำนวนเงินนั้นไม่ได้เป็นประเด็นหลักในการทัวร์ของผมและวงเลย ในส่วนปัญหาที่ก้องไม่ได้ทำตามสัญญากับผู้จัดให้ไปถามทางก้องและผู้จัดเอาดีกว่า เพราะว่าจะฟ้องชนะหรือไม่ชนะเราก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องสักบาท
(แต่ว่ามือกลองของเรา ออกมาโพสว่ามีปัญหาเรื่องเงิน) คือมันอาจจะมีตอนที่ก้องบอกว่าให้ติดต่อผ่านก้อง ผ่านผู้จัดการก้องอย่าผ่านคนอื่น ซึ่งคนอื่นที่ว่านี้ ถ้าหมายถึงผู้จัดการของเราก็คงไม่แปลก ที่มือกลองของผมจะออกมาปกป้องคนที่เขารัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องรายละเอียดและหลักฐานมันค่อนข้างชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้น ตอนที่อยู่ที่เมืองนอก สิ่งที่ก้องโทรมาคุยโทรมาขอคำปรึกษาจากผม สำหรับผมก้องก็ยังเป็นเพื่อน สิ่งดีๆ ที่เราทำมาด้วยกันก็มีเยอะแยะ ในวันหนึ่งถ้าเพื่อนจะผิดจะพลาดเขาก็ยังเป็นเพื่อนอยู่ดี ดังนั้นผมไม่อยากให้ประเด็นตรงนี้มาให้ผมตอบ มาให้ผมวุ่นวายถึงเหตุผลที่ก้องไม่ไป ให้ไปถามกับเจ้าตัวดีกว่า เพราะเราก็ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ได้รับผิดชอบในสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบทั้งในเรื่องความรู้สึกของแฟนเพลงของเรา หรือแฟนเพลงของก้องที่เขาเสียใจที่เขาไม่ได้เจอก้องเราก็พยายามทำให้เขามีความสุข อย่างเต็มที่"
เมื่อถูกถามว่าหลังจากเกิดเรื่องได้พูดคุยกับก้องหรือยัง ซึ่งนักร้องหนุ่มแจงว่า ได้คุยตอนที่ผมอยู่เมืองนอก
"พอได้บทสรุปแล้วว่าก้องมาไม่ได้เราก็หาทางที่จะทำอย่างไรเพื่อดูแลความรู้สึกแฟนเพลงของก้องมากกว่า เท่านั้นเอง ส่วนเหตุผลทำไมก้องไม่มา ผมไม่ได้ว่าเพื่อน ให้ไปถามเพื่อนว่าทำไมถึงไม่มา แต่ถ้าการให้สัมภาษณ์ ของทางก้องหรือใครก็ตามแล้วมันไปเกี่ยวกับบุคคลที่ 3 ซึ่งเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยอย่างผู้จัดการผม อันนี้เราต้องพูดออกมาให้ชัดเจน เหตุผลที่มือกลองออกมาโพสมันมองได้หลายด้าน ในเวลาที่ใครจะพูดถึงใคร แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น คือไม่ว่าก้องจะทำพลาดหรือทำผิดอย่างไร สำหรับผมแล้วก้องก็คือเพื่อนผม คือถ้าทำผิดพลาดแค่ขอโทษคนไทยก็ให้อภัยอยู่แล้ว ไปคุยกันกับทางผู้จัด ผมว่าเดี๋ยวเขาก็คงไปคุยกันได้ แต่ในหน้าที่ของเราเราก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว นั่นคือสิ่งที่วงทำได้
(สิ่งที่เกิดขึ้นมันกระทบความสัมพันธ์ของเรากับก้องไหม) จริงๆ แล้วผมไม่รู้เรื่องด้วยว่าใครจะบินมาฟ้องใครตอนไหน เรารู้แค่ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้างตอนที่อยู่ที่เมืองนอกคือเรามีทั้งหมด 13 โชว์ มีก้องอยู่ในนั้น 6 โชว์ ซึ่งเราโชว์ไปแล้ว 7 โชว์ ที่เหลือที่จะต้องมีก้องด้วย ซึ่งเราเพิ่งทราบว่าก้องจะไม่บินมา 2 วันก่อนโชว์ ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้โฟกัสใครผิดใครถูก เราโฟกัสแค่ว่าเราจะทำอย่างเพื่อที่จะดูแลแฟนคลับของเขา คือเราเข้าใจความยากลำบาก บางคนบินมาจากสวีเดน บางคนต้องจองตั๋วจองที่พัก มันไม่เหมือนบ้านเรา สิ่งที่ก้องขอความแนะนำกับผมตอนเกิดปัญหาผมก็บอกให้เขาพูดตรงๆ ผิดก็รับผิดชอบไปถ้ามันเกิดจากคิวงานที่ชนกัน เกิดจากการรับงานซ้อนจากทางตัวของก้องเราก็พูดตามจริง และขอโทษแฟนเพลงกับทางผู้จัด ผมเชื่อว่าถ้าเราพูดด้วยความจริงใจ ทุกคนเข้าใจ (หนักไหม) สำหรับผมมันไม่หนัก การที่เราต้องเล่นโชว์เพิ่ม วงไม่ได้เรียกร้องจากทางผู้จัด วงต้องการให้แฟนๆ มีความสุขและรู้สึกประทับใจ เรื่องปัญหาของก้องผมขอร้องว่าอย่าโยงเอาผม เอาวงไปเกี่ยวข้องเรื่องผลประโยชน์ของใคร
(อยากเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยไหม) ผมว่าไม่จำเป็นเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม มันเป็นเรื่องของทางก้อง ทางผู้จัด ทางทนายของก้องต้องไปคุยกัน และผมไม่อยากให้แฟนๆ ไปด่าก้อง ผมเชื่อว่าก้องโตแล้วและมีวีิธีในการรับมือและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น" โตโน่กล่าวปิดท้าย