บันเทิง

ความในใจจาก 'นิชคุณ'  ถึง 'น้อง.พี่.ที่รัก'

ความในใจจาก 'นิชคุณ'  ถึง 'น้อง.พี่.ที่รัก'

30 เม.ย. 2561

พูดคุยกับ "นิชคุณ" กับการเป็นพระเอกเต็มตัวในหนังเรื่องล่าสุด "น้อง.พี่.ที่รัก" ของค่ายจากค่าย จีดีเอช 559

         หลังจากที่เคยชิมลางถ่ายภาพยนตร์ไทยมาก่อนหน้านี้ ล่าสุดแฟนคลับชาวไทยได้เฮอีกครั้งเมื่อ นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องวง “ทูพีเอ็ม” บอยแบนด์เกาหลีชาวไทย ใจอ่อนกลับมาแสดงภาพยนตร์ไทยแบบเต็มตัวกันใน “บาร์เธอร์ แอนด์ ซิสเธอร์” โดยที่มีชื่อภาษาไทยว่า  “น้อง.พี่.ที่รัก” จากค่าย จีดีเอช 559 จำกัด โดยมีกำหนดฉายในเดือนพ.ค. โดยแสดงร่วมกับนางเอกฮอตอย่าง “ญาญ่า” อุรัสยา เสปอร์บัน และพระเอกดัง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ซึ่ง “บันเทิง คมชัดลึก” ก็ไม่พลาดที่จะพูดคุยกับนักแสดงหนุ่มถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยนักร้อง-นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'

         “ผมอยากเล่นหนังไทยมานานแล้วแต่จังหวะเวลาไม่ตรงกัน สำหรับเรื่องนี้ทางจีดีเอชติดต่อมาเมื่อปีที่แล้วบอกว่าอยากจะถ่ายหนังกับคุณ ก็รู้สึกดีมาก เพราะผมเป็นแฟนคลับจีดีเอช และก่อนหน้านี้ผมเคยร่วมงานกับทางจีดีมาตั้งแต่หนังเรื่องที่แล้ว ก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับมาทำงานที่บ้าน แต่ก็มีถามกลับไปว่าได้เล่นกับใคร เขาก็บอกว่าได้เล่นกับซันนี่ ญาญ่า เราก็รู้สึกโอ้โฮ... ก็ตอบรับทันทีเลยก่อนได้อ่านบทด้วยซ้ำ หลังจากนั้นเราตอบรับเขาก็ส่งบทส่งมาให้ดู แล้วก็มีการแก้บทแก้อะไรต่อมิไร ก็เพิ่งจะได้ถ่ายทำกันเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องนี้เป็นหนังเต็มตัวเรื่องแรกของผม ต้องเรียนแอ๊คติ้งหนักขึ้น กดดันนิดหนึ่งเพราะไม่ได้เป็นนักแสดงเต็มตัว อยากให้หนังเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด ส่วนแฟนคลับไม่ว่าเราจะทำอะไรเขาก็ชอบอยู่แล้ว แต่แอบกดดันเรื่องคนดูในเมืองไทยมากกว่า หวังว่าแฟนชาวไทยจะประทับใจในตัวละครของผม”

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'

@ได้ร่วมกับญาญ่า อุรัสยา และซันนี่ สุเมธานนท์ เป็นครั้งแรก 

         รู้สึกดีมากเพราะการที่เราได้ทำงานกับทุกๆ คนสนุกมากพี่ซันนี่ น้องญาญ่า โปรเฟสเชอนัลมาก การแสดงของเขาดีมาก บรรยากาศในกองถ่ายอบอุ่น เหมือนทำงานกับครอบครัวทำงานกับพี่น้อง หนังเรื่องนี้ถือเป็นการร่วมงานแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกกับญาญ่า โชคดีที่ผมเคยถ่ายโฆษณากับเขาตัวหนึ่งและเคยเจอกันมาแล้วก็เลยสนิทกันระดับหนึ่ง แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คุยอะไรกันมากมายเพราะเจอกันแค่วันเดียว กับพี่ซันนี่ก็เคยเจอเขาตอนรัก 7 ปี ดี 7 หน ซึ่งตอนนั้นมีฉากต้องเข้าพร้อมกัน 3 เรื่อง มีนักแสดงและผู้กำกับ และในรอบพรีเมี่ยมก็เจอกัน แต่ยังไม่เคยคุยกัน ตอนแรกก่อนจะมาเจอกันมีแต่คนบอกว่าระวังโดนพี่ซันนี่แกล้ง เพราะเขาชอบแกล้งคน แต่พอมาปุ๊บเขาก็ไม่ได้แกล้งผมอะไรมากมาย ส่วนมากเขาจะแกล้งน้องญาญ่ามากกว่า ได้ทำหนังร่วมกันก็ประทับใจในตัวพี่ซันนี่และน้องญาญ่าด้วย เพราะเวลาแสดงเขาไม่มีบ่น ไม่มีอะไรเลยฝีมือการแสดงก็ดีมากๆ ตอนแสดงผมก็รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยนะก็แปลกใจว่าทำไมพวกเขาไม่เหนื่อยเลย (หัวเราะ) น้องญาญ่าจะตาแป๋วตลอดเวลา

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'

@ บทบาทที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นอย่างไรบ้าง

          เรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นพระเอก แต่เป็นตัวละครสำคัญในเรื่อง บทบาทในหนังเรื่องนี้ ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มาจากต่างประเทศเพื่อมาทำงานที่เมืองไทย ก็เป็นผู้ชายที่พูดภาษาไทยได้ แต่มีบางคำที่เราไม่รู้จัก เป็นคนเรียบร้อย เนี๊ยบๆ เนิร์ตๆ ต้องทำตามกฏตามระเบียบทุกอย่าง เวลาก่อนประชุมก็จะวางปากกา สมุดจด มาวางเรียงเตรียมไว้ ถามว่าแตกต่างจากบทที่เคยรับไหม แตกต่างนะ เพราะที่ผ่านมาผมเคยเล่นแต่บททะเล้นตลกๆ ยอมรับว่าอึดอัดนิดหนึ่งเพราะเราจะทำสีหน้าทะเล้นหรือตลกไม่ได้ จริงๆผมเป็นคนที่มีมุมขี้เล่นเหมือนกัน ชอบแกล้ง ชอบหยอกคนเล่น จะคล้ายพี่ซันนี่นิดหนึ่ง แต่บทบาทที่ได้รับจะไม่ไช่

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'

@ พูดถึง “บอล” วิทยา ผู้กำกับเรื่องนี้บ้าง

          พี่บอลน่ารัก เขามีมุมเนิร์ตๆ เยอะมาก เขาชอบการ์ตูนญี่ปุ่นมาก...ก พอผมถามเรื่องที่เขาชอบ เขาสามารถที่จะเล่ายาวๆ พอถามเรื่องแต่งตัวเขาก็จะอิงๆ การ์ตูน ผมชอบคุยกับเขาก่อนจะเข้าฉาก อย่างเวลามีอะไรที่เราต้องการที่จะใส่ไปในการแสดงผมก็จะปรึกษาเขา ซึ่งเขาก็จะบอกเราว่าให้เราลองเล่นดูก่อน อะไรที่ใช่เดี๋ยวเขาดูให้ แต่ถ้าอะไรไม่เข้า เขาก็จะบอกว่ามันไม่เข้ากับตัวละครตัวนี้นะ เอาออกดีกว่า เราก็จะถ่ายไปเสริมไป พอถ่ายเสร็จเขาก็จะหน้าเครียดๆ ทำท่าทางหน้าตาเหมือนคิดเยอะ แล้วก็บอกว่ามันดีนะซึ่งเราก็สงสัยว่ามันดีจริงเหรอ 

@ พอเป็นไอดอลคนจะมองเรื่องรูปร่างหน้าตาก่อน รู้สึกอย่างไรที่คนมักจะมองเราเรื่องนี้ก่อนความสามารถ 

          ผมมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เวลาเรามองใครเราก็ต้องมองเรื่องรูปร่าง หน้าตา การแต่งตัว ของเขาก่อนที่เราจะรู้จักเขาจริงๆ ถ้าเขามองว่าผมรูปร่างหน้าดีก็ต้องขอขอบคุณ ส่วนเรื่องความสามารถผมก็ต้องเป็นคนที่ต้องโชว์ให้เขาเห็น ต้องเป็นคนพิสูจน์ให้เขาเห็น ว่าผมมีหรือไม่มี ตรงนั้นเป็นจุดที่ผมต้องทำเอง ต้องฝึกซ้อม และแสดงให้เขาเห็นว่าผมก็เป็นคนที่มีฝีมือนะ เป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรตรงนั้น ไม่คิดอะไรมาก เพราะความสามารถมันใช่ว่าเกิดมาแล้วมีเลย มันต้องผ่านการฝึกฝน มันต้องมีประสบการณ์ต้องผ่านอะไรหลายๆ อย่าง ไม่มีใครหรอกที่เล่นหนังเรื่องแรกแล้วจะเพอร์เฟค 

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'

@ เป็นไอดอลต้องระวังอะไรเป็นพิเศษไหม 

         ต้องระวังการกระทำ ระวังคำพูด ระวังทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะมีคนจับตามองเราอยู่เยอะแล้ว เราพูดอะไรทำอะไรไปมันมีคนเห็น มีคนฟัง มีคนดู อยู่ตลอดเวลา มันกระทบกับชีวิตเขา ความคิดของเขาได้เยอะมาก ก็เลยต้องระวังตัวค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการลงโซเชียล หรือเวลาผมจะให้สัมภาษณ์อะไรผมจะต้องคิดให้ดีและพยายามทำสิ่งดีๆ ให้คนทำตาม คือเราก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับ คนที่มารักมาชอบเรา เพราะไม่ว่าผมจะทำอะไรเขาก็จะทำตาม อย่างเราบริจาคเขาก็แห่ไปบริจาคกัน แฟนคลับน่ารักมาก 

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'

@ เป็นคนที่เล่นโซเชียลต้องระวังอะไรเป็นพิเศษไหม

         ผมว่า่ยุคนี้เป็นยุคที่เราติดต่อกันผ่านทางโซเชียล บางคนอาจใช้ในทางที่ไม่ดี แต่ถ้าใช้ในทางที่ดีมันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก โดยเฉพาะอาชีพแบบผม ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์หรืออินสตาแกรมมันจะเป็นอะไรที่ดีมากเมื่อต้องการสื่อสารกับแฟนๆ ซึ่งโชเชียลมันก็จะเหมือนดาบสองคม เราก็ต้องระวังทุกอย่าง จะลงรูปลงอะไรก็ต้องระวัง อย่างล่าสุดจะลงภาพคู่กับญาญ่าก็ต้องไปขอเขาก่อนว่าถ้าลงรูปกับเราจะกระทบอะไรไหม 

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'

@ อยากฝากบอกอะไรกับแฟนๆ บ้าง

         เป็นหนังไทยเรื่องที่สองของผม มันไม่สำคัญว่าหนังเรื่องนี้นักแสดงจะดังมากมายขนาดไหน แต่มันมีคุณค่าตรงที่หนังเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนดูแล้วจะคิดถึงครอบครัวมากขึ้น ก็เชิญชวนไปดูกันวันที่ 10 พ.ค. ในโรงภาพยนตร์ 

เรื่อง : เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล

ภาพ : ปิยะนิตย์ สัมปทานนท์ 

ความในใจจาก \'นิชคุณ\'  ถึง \'น้อง.พี่.ที่รัก\'