
สตีเฟน เกทลี่ย์นักร้องวงบอยโซนเสียชีวิต
สมาชิกวง "บอยโซน" ตายปริศนาด้วยวัย 33 ปี ขณะไปพักผ่อนบนเกาะมายอร์กาในสเปน พร้อมแฟนหนุ่ม ชี้เป็นโศกนาฏกรรมอันยิ่งใหญ่ของคนวงการบันเทิงไอริช
วงการเพลงระดับโลกต้องประสบกับความสูญเสียอีกครั้ง เมื่อสตีเฟน เก็ตลีย์ สมาชิกวงบอยโซน วงบอยแบนด์ไอริชชื่อดังแห่งยุค 90 ที่มีเพลงติดอันดับ 1 ถึง 17 ซิงเกิล เสียชีวิตระหว่างเดินทางไปพักผ่อนยังเกาะมายอร์กา ประเทศสเปน ขณะมีอายุเพียง 33 ปีเท่านั้น หนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ รายงานว่า เก็ตลีย์เสียชีวิตภายหลังจากออกไปเที่ยวกลางคืนมา
เว็บไซต์ทางการของบอยโซนออกแถลงการณ์เพียงสั้นๆ ว่า เก็ตลีย์เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ขณะที่สมาชิกที่เหลือของวงบอยโซนได้เดินทางไปยังเกาะมายอร์กาแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าวันอาทิตย์
เชน ลินช์ สมาชิกคนหนึ่งของวงบอยโซน ให้สัมภาษณ์ว่า เขาและสมาชิกคนที่เหลือจะเดินทางไปมายอร์กาเพราะต้องการทราบว่าะเหตุใดสตีเฟนถึงเสียชีวิต และต้องการจะดูว่าพวกเขาจะช่วยทำอะไรได้บ้าง
ด้านหลุยส์ วอลช์ ผู้จัดการวง ให้สัมภาษณ์นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ ว่า ทุกคนต่างรู้สึกย่ำแย่ไปตามๆ กัน ส่วนตัวเขาเองนั้นช็อกมาก เพราะเพิ่งจะไปร่วมงานมอบรางวัลงานหนึ่งกับเก็ตลีย์มาเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้เอง
แม้แต่เซอร์เอลตัน จอห์น นักร้องชื่อดังของอังกฤษ ก็บอกว่า รู้สึกตกอกตกใจกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้มาก โดยเอลตัน จอห์น ออกแถลงการณ์ว่า สตีเฟนเป็นคนที่ใจดี และสุภาพอ่อนโยนที่สุด พร้อมทั้งขอส่งความรัก และความเสียใจมายังแฟนหนุ่มของสตีเฟน และเพื่อนๆ ของเขาทุกหนแห่งด้วย
ทั้งนี้ สตีเฟนยอมรับว่าเขาเป็นรักร่วมเพศ ทั้งยังแต่งงานกับแอนดรูว์ โควส์ แฟนหนุ่ม เมื่อเดือนมีนาคม 2549 อีกด้วย ขณะเกิดเหตุเสียชีวิตนี้ เก็ตลีย์ และโควส์ อยู่ที่เกาะมายอร์กาด้วยกัน ซึ่งวงบอยโซนแตกวงไปตั้งแต่เมื่อปี 2543 แล้ว ก่อนจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ส่วนตัวเก็ตลีย์นั้นออกผลงานเดี่ยวมาหลายซิงเกิล ทั้งยังแสดงละครเพลงอีกหลายเรื่อง
ด้านนายเบอร์ตี เอเฮิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวว่า การเสียชีวิตของเก็ตลีย์ถือเป็นโศกนาฏกรรมอันยิ่งใหญ่ของวงการบันเทิงไอริช วงการเพลงไอริช รวมถึงวงการอื่นๆ ด้วย และว่าวงบอยโซน และสตีเฟน ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวไอริช พวกเขาประสบความสำเร็จมากตลอด 15 ปีในวงการ เรื่องนี้จึงถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่น่าเศร้ามาก
ทั้งนี้ สตีเฟนเขียนข้อความสุดท้ายทิ้งไว้บนเว็บไซต์ทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีใจความว่า "ยังคงยุ่งอยู่เหมือนเดิน มีอะไรต้องทำอีกเยอะ ต้องตั้งใจเขียนหนังสือของตัวเองให้เสร็จเป็นเรื่องต่อไป ดังนั้นอาจจะไม่ค่อยได้มาเขียนที่นี่นัก"



