แดเนียล บรูห์ล นักแสดงหนุ่มมากฝีมือผู้มีผลงาน อันโด่งดังมากมายทั้งภาพยนตร์แล ะหนังทีวี โดยเฉพาะกับบทในหนังดราม่าเรื่อ ง Rush (2013) ของผู้กำกับ รอน ฮาวเวิร์ด-Ron Howard ซึ่งทำให้เข้าเข้าชิงรางวัลต่าง ๆมากมาย ทั้งลูกโลกทองทำ, BAFTA, SAG และ Critics’ Choice Awards ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ทว่าก่อนหน้านั้น เขาเป็นนักแสดงที่ถูกจับตามองจา กบทตัวประกอบที่โผล่ออกมาขโมยซี นใน Inglorious Basterds ของผู้กำกับ เควนติน ตารันติโน่-Quentin Tarantino
ก่อนหน้าจะเดินทางมาฮอลลีวู้ด บรูห์ลเป็นนักแสดงที่โด่งดังมาก มายในทวีปยุโรปจากบทนำในหนังเรื่อง Good Bye Lenin! (2003) ซึ่งเขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชา ยยอดเยี่ยมจากเวที European Film Award และ German Film Award และมีผลงานอีกมากมายตามมา ไม่ว่าจะเป็น Captain America: Civil War, The Zookeeper’s Wife, Alone in Berlin, The Colony, Woman in Gold, The Bourne Ultimatum, Burnt, The Face of an Angel, The Edukators, The Countess เป็นต้น
ในคราวนี้เขาก้าวเขามาร่วมแสดงใ นภาพยนตร์ที่จากเหตุการณ์ก่อการ ร้ายสะเทือนโลก ซึ่งนำไปสู่หนึ่งในปฏิบัติการช่ วยเหลือตัวประกันที่โลกต้องตะลึ ง ใน “ 7 Days in Entebbe เที่ยวบินนรกเอนเทบเบ้” โดยนักแสดงหนุ่มได้บอกเล่าถึงเรื่องราวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า
@ คุณเข้ามาร่วมโปรเจคต์ได้อย่างไ ร ?
บรูห์ล : ตอนได้อ่านบทครั้งแรก ผมประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออก ผมรู้เรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่เอ นเทบเบ้ เคยดูหนังที่ทำเกี่ยวกับเหตุการ ณ์นี้มาแล้ว ทว่าพอได้อ่านบทหนังเรื่องนี้ มันทำให้รู้เลยว่ายังมีรายละเอี ยดอีกมากมายที่น่าสนใจสุดๆ แถมบทหนังยังทำให้เห็นถึงแรงผลั กดันที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการกร ะทำของตัวละครทุกฝ่ายได้อย่างชั ดเจน
@ คุณเตรียมตัวอย่างไรเพื่อรั บบทนี้บ้าง ?
บรูห์ล : ผมอ่านหนังสือหลายเล่มที่เกี่ยว พฤติกรรมของสมาชิกหน่วยแห่งการป ฏิวัติหัวรุนแรงในเยอรมัน รวมถึงดูภาพยนตร์และหนังสารคดี อีกจำนวนมากเพื่อศึกษาลั กษณะการแต่งกาย วิธีการพูด การแสดงออกของคนเหล่านั้น นอกจากนี้ผมยังศึกษาประสบการณ์ต รงจาก อาเมียร์ โอเฟอร์ ผู้เคยเป็นอดีตทหารที่เข้าร่วมภ ารกิจในครั้งนั้นด้วย
เป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ ที่มีพยานในเหตุการณ์ตัวจริงมาอ ยู่ในกองถ่ายพร้อมกับพวกเรา แต่ก็แน่นอนว่า เขาย่อมมีมุมมองต่อเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในแบบของเขา แม้ว่าผมจะชอบที่ได้พูดคุยกับเข า แต่ในการแสดงเป็นโบเซ่ ผมก็ต้องกันตัวเองให้ห่างออกมา พูดให้ชัดๆ คือไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา ผมก็แค่ฟังหูไว้หูเท่านั้นแหละ มันก็พิลึกไปอีกแบบ
@ การทำงานกับ โจเซ่ พาดิลฮา ผู่กำกับ เป็นอย่างไรบ้าง ?
บรูห์ล : แม้ว่าผมจะเตรียมตัวมาพอสมควร แต่ผมชอบวิธีที่ผู้กำกับสร้ างพลังงานและความตื่นตัวกระฉั บกระเฉงในกองถ่าย การทำงานกับโจเซ่ คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากๆเพ ราะว่าเขามักจะมีไอเดียใหม่ๆผุด ขึ้นมาในนาทีสุดท้ายเสมอเป็นกอง ถ่ายหนังที่ทีมงานตื่นตัวกันมาก ๆ คือต้องพร้อมที่จะถ่ายฉากเดิมอี กครั้ง ลองแสดงแบบใหม่ หรือบางทีก็ดั้นบทกันสดๆไปเลย เหมือนใช้วิธีการทำหนังสารคดี เข้ามาถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ซึ่งสำหรับนักแสดงแล้ว ถือเป็นการทำงานที่คุ้มค่ามาก
@ คุณคิดว่าทำไมถึงควรเอาเรื่องที่ เคยเกิดขึ้นในยุค 70 มาทำเป็นภาพยนตร์ในปี 2018 ?
บรูห์ล : เป็นเพราะว่า การก่อการร้ายยังคงเกิดขึ้นอย่า งต่อเนื่อง และอิสราเอลกับปาเลสไตน์ก็ยังขั ดแย้งกันไม่เลิกราเสียที และการได้มองดูเหตุการณ์ในประวั ติศาสตร์จากหลากหลายมุมมอง ก็ทำให้เราเข้าใจถึงกระบวนการตั ดสินใจของผู้นำประเทศที่ทำให้เร าต้องอยู่ในโลกที่เป็นเช่นทุกวั นนี้
@ คุณมีเคล็ดลับอะไรเพื่อเข้าถึ งจิตใจของตัวละครนี้ ?
บรูห์ล : เป็นคำถามที่น่าสนใจ สำหรับผมมันมีช่วงสำคัญในหนังช่ วงนึง ที่เขาต้องตัดสินใจว่าจะฆ่าตัวป ระกันดีไหม มันเหมือนผมเองก็ต้องตัดสินใจเห มือนกันในฐานะนักแสดง ผมเลยต้องใช้ข้อมูลจากคนที่อยู่ ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ คุณเลอ มวง (พยานที่ผ่านเหตุการณ์) อยู่ข้างๆผม เขาบอกว่าเขาจำเหตุการณ์นั้นได้ ติดตา แน่นอนคุณรู้สึกต้องรับผิดชอบมา กกว่าเดิมเมื่อต้องเล่นเป็นคนที่มีตัวตนจริงๆ แถมยังพัวพันกับประเด็นละเอี ยดอ่อน แต่ผมรู้ดีว่าได้ทำงานกับคนมีฝี มือหลังจากครั้งแรกที่ผมได้คุ ยกับโจเซ่เราคุยกันเป็นชั่วโมง คุยกันไปจนถึงเรื่องการเมืองเยอ รมันในตอนนี้ ผมรู้สึกได้เลยว่าชายคนนี้มีควา มรู้เรื่องการเมืองใช่เล่นเลย
@ โรซามันด์ ไพค์ พูดเยอรมันเป็นอย่างไรบ้าง ?
บรูห์ล : สมบูรณ์แบบ ผมอึ้งไปเลย ครั้งแรกที่ผมได้เจอเธอผมได้ยิน มาว่าเธอพูดเยอรมันได้ แต่บางครั้งนักแสดงมักจะโม้ว่าพ วกเขาทำได้ทุกอย่างแหละ ผมเจอมากับตัวที่จู่ๆ พวกเรานักแสดงก็เจอกับสิ่ งบางอย่างที่เราทำไม่ได้ที่ เคยบอกไปว่าทำได้ ตอนแรกผมคิดว่าเธอทำไม่ได้หรอกเ พราะพูดภาษาเยอรมันมันต้องชัดเป๊ ะและมันยากมาก แต่เธอทำได้จริงๆ เธอเก่งสุดๆ เหมือนผมร่วมงานกับนั กแสดงเยอรมันตัวจริง
@ คุณคิดว่าอะไรคือสาเหตุให้ผู้คน กลับมาให้ความสนใจกับเหตุการณ์ค รั้งนั้นตลอดเวลา ?
บรูห์ล : ผมว่าน่าจะเป็นความบ้าคลั่งของภ ารกิจนี้ ของพวกผู้ก่อการร้าย โดยเฉพาะการมีชาวเยอรมันมาจี้เค รื่องบินที่มีผู้โดยสารเป็นคนยิ ว แม้แต่ในโลกของผู้ก่อการร้ายฝ่า ยซ้ายสุดโต่งนี่ยังไม่ใช่เรื่อง เล่นๆ ในอีกมุมมันเป็นปฏิบัตการณ์ทางท หารที่โลกไม่เคนเห็นมาก่อน มันคือการรุกเข้าตีแบบไม่ให้ตั้ งตัว ด้วยความร่วมมือของรัฐบาลและกอง ทัพอิสราเอล เมื่อย้อนกลับไปคิดดูมันเป็นอะไ รที่อัศจรรย์มากนะ มันเหลือเชื่อมากที่ภารกิจนี้สำ เร็จ มันเป็นผลจากการร่วมมือของทุกฝ่ าย
@ มันตลกดีที่ชายที่ไม่ค่อยมีคนรู้ ประวัติเขาอย่าง วิลเฟร็ด โบเซ่ ตัวละครของคุณในเรื่อง ได้นักแสดงมารับบทนี้มาก่อนหน้า นี้ถึงสี่คนแล้ว คุณเคยชมการแสดงของนักแสดงท่ านอื่นในบทนี้มาก่อนไหม ?
บรูห์ล : ผมเคยดูเวอร์ชั่น ฮอร์ส บูโชลซ์ เล่น ผมรู้ว่า เคลาส์ คินสกี้ เคยเล่นบทนี้เหมือนกัน แต่ผมเคยดูแค่อันที่ ฮอร์ส บูโชลซ์ แต่ตอนที่ผมเตรียมตัวถ่ายทำผมดู บางซีนที่เคลาส์ คินสกี้เล่น ผมตัดสินใจไม่ดูก่อนการถ่ายทำเพ ราะผมคิดว่ามันคงแปลกๆ ที่เห็นนักแสดงคนอื่นเล่นบทที่ผ มต้องเล่น มันคงจำกัดกรอบการแสดงของผม
จากเรื่องจริงชวนทึ่งของภารกิ จบุกชิงตัวประกันที่พลิกหน้ าประวัติศาสตรnโลก “7 DAYS IN ENTEBBE” : 5 เมษายน 2018 ในโรงภาพยนตร์