
‘เรทโทรสเปค’ หาความเป็นธรรมให้ ‘เสือดำ’
“ร็อกไม่มีวันตาย แต่เสือดำตายใครรับผิดชอบ” หนึ่งเสียงจากวง “เรทโทรสเปค” เพื่อหวังเป็นกระบอกเสียงให้คนรุ่นใหม่หันมาปลูกจิตสำนึกหลังการตายของ “เสือดำ”
ประกาศประโยคเด็ด “ร็อกไม่มีวันตาย แต่เสือดำตายใครรับผิดชอบ” ไว้บนเวทีคอนเสิร์ต “ G19” สำหรับ “แน็ป” ชนัทธา สายศิลา นักร้องนำวง “Retrospect (เรโทรสเปค)” จนเกิดเป็นที่มาของคคอนเสิร์ตการกุศล “RETROSPECT : HEART OF THE PANTHER หัวใจเสือดำ” ที่จะมอบรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้กับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมีค่าย “จีนี่ เร็คคอร์ดส” และ “zaap (แซ๊ป)” ผนึกกำลังกันจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2561 ที่LIVE PARKพระราม 9 โดยจะมีการเปิดขายบัตรวันที่ 1 มีนาคมนี้ เวลา 10 โมงเช้าเป็นต้นไป ทาง www.eventpop.me ซึ่งวันแรกวันเดียว! บัตรจะราคา 800 บาทจากราคาปกติ 1,300 บาท
“บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับวง “เรทโทรสเปค” ทั้ง 5 คน ได้แก่ “แน็ป” ชนัทธา สายศิลา “น็อต” ธนพล ศรีกาญจนา “บอม” ณพวัชร คชาชีวะ “เบิร์ธ” ศุทธิพันธ์ สังข์ยุทธ และ “รัน” ศรัณย์เขษ เจริญสรรพ์ ถึงโปรเจ็คนี้
แน๊ป : "เกิดจากคอนเสิร์ต จี19 เรทโทสเปคเล่นกันมันมากไปหน่อย แล้วทำให้เกิดปรากฎการณ์การแชร์กันมากมาย ทั้งในเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และโซเชียลต่างๆ ด้วยความสนุกปากของผม คือออกสารท้ารบพี่นิค (วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้บริหารค่ายจีนี่ เรคคอร์ด) บอกว่าถ้าอยากเห็นอะไรที่ดุเดือดและมันกว่านี้มากกว่าจี19 ให้พี่นิคจัดคอนเสิร์ตใหญ่ให้เรทโทสเปคซิ หลังจากนั้นแฟนเพลงของพวกเราก็ลุกฮือ วุ่นวายกัน แชร์กันมหาศาล และด้วยความที่พี่นิคก็ซ่าเหมือนกัน ว่าไม่แน่ถ้ารวมกันได้ 4 หมื่นคนก็อาจจะเป็นไปได้ จากข้อความนั้นแฟนเพลงของก็รวมกันทำเพจ เขาก็เขียนว่าคอนเสิร์ต 4 หมื่นคนเพื่อเสือดำ หลังจากนั้นไม่เกิน 24 ชั่วโมง ประมาณ 22 ชั่วโมง แฟนเพลงก็รวมกันมาได้มากกว่า 4 หมื่นคน เกือบ 5 หมื่นคนด้วยซ้ำ พี่นิคเห็นแบบนี้ก็รู้สึกว่าพลังของแฟนเพลงเราเยอะจริงๆ จากนั้นก็เกิดโปรเจ็คนี้ขึ้นมา โดยทางพี่นิคและทางแซ๊ปปาร์ตี้ ที่เข้ามามีส่วนนกระบวนการการสร้างคอนเสิร์ตนี้ ด้วยระยะเวลาที่มันสั้นมาก ที่สำคัญที่สุดเลยเราไม่ต้องการให้เรื่องนี้มันถูกลืม ไม่ให้มันหายไป เราเลยมีความจำเป็นที่ทำให้มันสั้นที่สุด
ย้อนกลับวันคอนเสิร์ต “G19” ทำไม “แน๊ป” ถึงพูดประโยคนั้นบนเวที"
แน๊ป : “เหมือนประโยคนี้มันไม่เกี่ยวกับช่วงเวลานั้นเลยใช่ไหม (หัวเราะ) จริงๆ ผมตามเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่มันเกิดเหตุ นั่งคุยกับภรรยาว่ามันใช่เหรอ ระดับซีอีโอระดับประเทศมาทำอะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็น แต่เมื่อย้อนทบทวนกลับไป สัตว์ป่า หรือสัตว์จำพวกแมวสุนัข หรือพวกสัตว์จรจัด ทุกครั้งที่เราเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านหน้าฟีดเฟซบุ๊คของเรา รู้สึกเรารับไม่ได้ กับสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์มาทำร้าย หรือเรื่องราวที่ทำให้สัตว์โดนรังแก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ใหญ่มาก เพราะเสือดำเป็นสัตว์คุ้มครอง รวมถึงเก้ง รวมถึงไก่ฟ้าด้วย เราเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ในหน้าโซเชียลเยอะมาก แต่เรารู้สึกว่าถ้าเป็นแค่โซเชียลมันก็จบแค่โซเชียล เราจะทำยังไงเพื่อให้เกิดพลังตรงนี้มาได้ เลยคิดว่าการที่พูดไปหนึ่งคำนั้น มันอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง ให้คนได้ตื่นตัวในพื้นที่กับคน 65,000 คนในคอนเสิร์ต G19 วันนั้น เพราะมันไม่ใช่โอกาสง่ายๆ หรือเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะพูดอะไรหรือสื่อสารครั้งเดียวให้บึ้มไปเลย ก็เลยคิดและพูดสิ่งนั้นไป จากใจในส่วนที่เรารู้สึกจริงๆ เราเป็นคนหนึ่งที่รักสัตว์มาตั้งแต่เด็ก และโตมากับสัตว์เลี้ยง สารคดีสัตว์ต่างๆ ที่เรามีความทรงจำที่ดี และอยากจะปกป้องมัน การพูดประโยคนั้นไป ในตอนนั้นอาจจะส่งผลกระทบถึงตัววง รวมถึงทุกอย่าง เพราะเราทราบอยู่แล้วว่าเรากำลังคุยกับคนที่อยู่ในระดับไหนอยู่ ซึ่งถามว่าวิตกไหม หลังจากพูดประโยคนั้นไปแล้ว ยอมรับว่าลงมาจากเวทีแล้วก็เครียดนะ แต่ถ้าสิ่งที่พูดไปแล้ว มันจะช่วยให้สังคมไปในทิศทางที่ดีได้ ผมว่ามันก็น่าลอง ไม่รู้สึกเสียใจจนถึงวันนี้ที่ได้ทำแบบนั้นไป คือความตั้งใจแค่อยากเป็นหนึ่งกระบอกเสียง การที่พูดประโยคนั้นออกไปไม่ได้หมายถึงว่าเราจะเป็นผู้นำ หรือถือธงไปสู้รบกับใคร ไม่ใช่เลย ผมได้เห็นดารานักแสดงและทุกๆ ภาคส่วนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องที่ดี ที่ไม่เหมาะสม เราเป็นแค่หนึ่งคนที่มีไมค์อยู่ในมือในวันที่คนเยอะก็เท่านั้นเอง”
บอม : “เราเชื่อมั่นใจการและกันนะ วงเรทโทรสเปคเราเชื่อมั่นในสิ่งที่แต่ละคนทำ หรือเลือกที่จะทำในส่วนของตัวเอง และสิ่งไหนที่ตั้งใจทำออกมาเพื่อวงแล้ว ก็สู้ไปด้วยกัน เราลุยไปด้วยกัน ผลจะเป็นยังไง ช่างมัน พอลงจากเวที เราก็ถามแน๊ปว่าเอาแบบนั้นจริงๆ เหรอ แต่สิ่งที่เขาพูดมาให้ฟัง ว่าเราพูดความจริง พูดความจริงจะต้องกลัวอะไร พอเราได้ยินเขาพูดแบบนี้ แล้วเขามีความคิดแบบนี้ เราก็ลุยไปด้วยกัน ก็เลยคิดว่าสู้”
หลังจากลงจากเวทีคอนเสิร์ต กระแสจากการพูดประโยคนั้นไปเป็นยังไง
บอม : เราได้มานั่งดู มาติดตามในแฟนเพจ ในช่องทางต่างๆ ของวงตลอดว่ามีใครพูดถึงยังไงบ้าง มาแลกเปลี่ยนกันตลอดในคืนนั้น แล้วเราเห็นว่าคนเห็นด้วยนะ กับสิ่งที่เราตั้งใจจะสื่อและต้องการจะพูด และคนอยู่ข้างเรานะ
แน๊ป : “จริงๆ มันไม่ใช่แค่เสือดำอย่างเดียว แต่สิ่งที่พวกเราทุกคนพยายามสื่อสารก็คืออยากให้ทุกคนเห็นถึงสิ่งแวดล้อม เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องพี่สืบ นาคะเสถียร อาจะจไม่เข้าใจแล้วว่าการที่ออกมาปกป้องและหวงแหนพื้นป่า ทรัพยากรธรรมชาติ หลังๆ ผมไม่ค่อยเห็นใครออกมารณรงค์เรื่องนี้กันแล้ว มันเลยเป็นเรื่องที่เราแค่อยากปลูกจิตสำนึกให้กับคนรุ่นใหม่ เสือดำก็เป็นสัญลักษณ์แทนทรัพยากรธรรมชาติสัตว์ป่าทุกตัว มันเป็นสิ่งที่เราต้องหวงแหนและปกป้องพวกมัน การที่เสือดำตายหนึ่งตัวไม่ได้หมายความว่ามันจบแค่นั้น มันรวมไปถึงระบบนิเวศน์ที่มันพังทลายไปทั้งหมดเลย รวมถึงอากาศที่เราหายใจอยู่ ก็สัมพันธ์กับเสือดำตัวนั้นเหมือนกัน ฉะนั้นอย่างที่ผมบอกก็คือ ผมไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องให้เอาคนผิดมาอยู่ในตาราง (คุก) ทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องยากมาก แต่สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปหลังจากนี้ ถ้าเกิดสิ่งๆ นี้ขึ้นอีก ทุกคนในประเทศไทยจะรุมประณามคนที่ทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อยากให้ทุกคนออกมาเป็นรูปธรรม ออกมาในลักษณะของฝูงชน มวลชนขนาดใหญ่ มาพูด มาตะโกนว่าสิ่งๆ นี้ไม่สามารถทำได้อีกต่อไปตั้งแต่ยุคปี 2018 เป็นต้นไป”
เห็นว่ารายได้จากคอนเสิร์ต จะมอบให้กับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชด้วย
บอม : “รายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าใช่จ่ายจะมอบให้กับมูลนิธิ หรือองค์กรที่เกี่ยวกับพื้นป่าไทย โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว เราไม่เอาอะไรเลย ให้กับองค์กรที่ดูแลด้านสัตว์ป่าและพื้นป่าทั้งหมด เพราะมันเป็นความตั้งใจที่เราอยากที่จะทำจริงๆ”
แน๊ป : “ตลอดระยะเวลาการเดินทางของวงเรโทรสเปค เราเล่นคอนเสิร์ตมาเป็นหลัก 15 ปี เราไม่เคยทำบุญใหญ่อะไรกันขนาดนี้ (หัวเราะ) ผมว่ามันถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม แล้วเราก็อายุ 30 กว่าปีกันแล้ว ถือว่าเป็นการรวมกันตอบแทนสังคม ในสิ่งที่ทุกคนให้พวกเรามา คนไทยให้เรามา ครั้งนี้เราจะขอเป็นกระบอกเสียง แล้วก็มาทำบุญใหญ่ร่วมกัน ได้มาสนุกกับเพลงเรทโทรสเปคด้วย แล้วก้ได้มีโอกาสปกป้องและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในเมืองไทยด้วย น่าจะเป็นเรื่องดี”
อย่างล่าสุดความคืบหน้าคดีมีการถอนข้อหาการทารุณกรรมสัตว์ไป ความรู้สึกของวงรู้สึกยังไง
บอม : “ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ถ้าคดีทารุณกรรมถูกยกขึ้นมา คดีอื่นๆ ที่มีการฟ้องจะต้องถูกปัดตกออกไป เพราะฉะนั้นเป็นการถูกแล้ว เพราะคดีการทารุณกรรมัตว์จะเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์บางประเภท แต่ถ้าเกิดว่ายังยกคดีนี้ขึ้นมา คดีที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าจะถูกปัดตกไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นถูกแล้วที่มีการตัดสินแบบนั้น ส่วนเรื่องว่าทารุณกรรมสัตว์ไหม เรารู้กันด้วยใจอยู่แล้วว่ามันทารุณกรรมมากๆ แต่ทางด้านกฎหมายแล้วมันต้องเอาออก”
ตอนนี้คนมองว่าวงเรทโทรสเปคมาทางการรณรงค์เรื่องอนุรักษ์ทัตว์ป่าไปแล้ว
บอม : “จริงๆ พวกผมก็ยินดีนะ เพราะพวกผมก็คิดอย่างนี้ ทำอย่างนี้กันมาตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมาในโซเชียลต่างๆ”
ฝากถึงคอนเสิร์ตนี้
แน๊ป : “ผมเชื่อว่านอกจากแฟนเพลงของวงเรทโทรสเปคแล้ว สำหรับคนที่มาเข้าร่วมในงานนี้ ที่มีความคิดและมีแนวทางที่ตรงกัน ก็เชื่อว่าเสียงดนตรีจะพาคุณมาเอง ร้องเพลงเราไม่ได้ไม่เป็นไร อยากให้มารวมตัวกันเยอะ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่าผมอยากเห็นฝูงชนอยากเห็นมวลชนขนาดใหญ่ มาปกป้องพื้นป่าของเรา ทำในสิ่งที่ถูกต้องดีกว่าแค่บ่นๆ อยู่ในเฟซบุ๊ค บัตรตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืน วันที่ 1 มี.ค.นี้ ราคา 800 บาทเท่านั้น วันเดียว ก็ขอเชิญทุกคนมา เรโทรสเปกต์ ฮาร์ท ออฟ เดอะ แพนเทอร์ วันที่ 21 เมษา ที่ ไลฟ์ พาร์ค พระราม 9 มากันเยอะ แล้วผมก็เชื่อว่าแฟนเพลงของเรทโทรสเปคก็มีอยู่ไม่น้อย มาร้องเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรก จนถึงอัลบั้มปัจจุบัน”
บอม : “จะมีครบทุกรสแน่นอน จะมีทั้งสนุก มีทั้งซึ้งใจ มีทั้งพาร์ทต่างๆ รวมถึงศิลปินที่น่าจะเข้ามาร่วมกับเราพอสมควรเลย อยากให้มาดูกัน อยากให้มาสนุกกัน แล้วคอนเสิร์ตนี้จะไม่มีการทำดีวีดี หรือจะไม่มีการไลฟ์สดโชว์ลงในเพจต้องมาดูด้วยตัวเองเท่านั้นเลย”
น็อต : “สำหรับคนที่ไม่สะดวกมาร่วมงาน แต่อยากจะช่วยเหลือในงานครั้งนี้ เราจะมีช่องทางในการร่วมบริจาคด้วย เดี๋ยวจะมาประกาศหน้าเพจ ยังไงรบกวนฝากติดตามหน้าเพจของเรทโทรสเปค”
เบิร์ธ : “ไหนก็ไม่ค่อยได้พูดอะไรแล้ว ขอพูดความรู้สึกส่วนตัวไปด้วย อยากให้ทุกคนที่รักเรทโทรสเปค หรือมองเห็นถึงเรื่องที่เราได้พูดถึงไป ในเรื่องของการอนุรักษ์อะไรก็แล้วแต่ อย่ามัวแต่บ่นในเฟซบุ๊คอย่างที่แน๊ปบอก เพราะตอนนี้เรามีโอกาสแล้วที่เราจะได้ร่วมมือกันทำอะไรสักอย่างที่มันถูกต้อง”