'โอ๊ต' จบดราม่า!!! หยาบคายใส่ 'BNK48' (คลิป) | คมชัดลึก

        กลายเป็นดราม่าเมื่อสาวๆ "BNK48" ไปร่วมรายการ เดอะไดร์ฟเวอร์ ที่มี "โอ๊ต" ปราโมทย์ เป็นพิธีกร และในรายการหนุ่มโอ๊ตมีการพูดคำหยาบคายต่อหน้าศิลปินกลุ่ม BNK48 จนทำให้เหล่าโอตะ (ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) ไม่พอใจ และคอมเม้นท์จวกอย่างหนัก ล่าสุดในงานเปิดตัวซัมเมอร์โปรโมชั่น “โออิชิ โอทั้งคู่ ยูเลือกได้” ได้เจอโอ๊ต จึงถามถึงเรื่องนี้ 

      ถามถึงประเด็นดราม่ากับวง bnk 48

      " ก็คือเป็นรายการที่เราทำอยู่แล้วผมว่าถ้าได้ดูคลิป จะรู้ว่าเราไม่ได้ไปพูดถึงน้องเขา ก่อนขึ้นรถผมได้คุยกับน้องเขาและคุยกับทีมคุยกันหมดแล้วว่ารูปแบบรายการเป็นแบบนี้เราก็ถามว่าอะไรบ้างที่ห้ามซึ่งก็ได้รับรู้ว่าห้ามโดนตัวห้ามถ่ายภาพเราก็เคารพกฎเพราะถ่ายทำรายการเสร็จลงมาจากรถก็คุยกันแฮปปี้ จนกระทั่งรายการออกอากาศก็ยังคุยกันอยู่เลยว่าอะไรกันสนุกดีก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมา (ตอนแรกตกใจไหมที่ประเด็นดราม่ามันรุนแรง) ตกใจนะคือเราได้ดูแล้วด้วยแล้วก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ไปคุกคามน้องเขา ว่าไปพูดจาไม่ดีใส่น้องเขาซึ่งถ้าดูรายการดีๆจะเห็นว่าตอนที่ผมหันไปคุยกับน้องผมพูดกับน้องเพราะทุกคำเลยนะ เพราะว่าเราเองก็เป็นแฟนคลับน้องเขานะเวลาที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตเราก็พยายามเล่นเพลงของน้องเขาตลอดเพราะเราชื่นชอบน้องเขาชื่นชอบฟังเพลงและตัวของน้อง ซึ่งถ้าคนติดตามผมจะรู้ดี"

      มีกระแสได้คุยกับน้องเขาบ้างหรือยัง

      " ในความโชคร้ายมันก็มีความโชคดีน้องไปเป็นแขกรับเชิญพิเศษของคอนเสิร์ต The Mask Single ที่ผ่านมาก็ได้เจอกันเลยคุยกันซึ่งน้องๆก็เดินมาให้กำลังใจ พวกหนูเข้าใจนะว่ามันไม่ได้มีอะไร  ถามว่าเกร็งไหมในการร่วมงานกับน้อง ไม่เลยก็ปกติเหมือนคนทำงานในวงการบันเทิงด้วยกันแต่แค่เรารู้ข้อจำกัดของน้องเขาว่าเป็นยังไง (เป็นคนตีความหมายผิด) ผมว่ามันมาจากเรื่องอื่นด้วยตอนนี้มันเป็นการด่ากันเพื่อความหมั่นไส้แล้วเพราะความอยากด่าเราก็เลยทวิตเตอร์ไปอันล่าสุดว่าวันที่เรารู้จักกันวันแรกเราก็เป็นแบบนี้รายการก็เป็นแบบนี้เราไม่ได้เปลี่ยนเลยเราก็ยังต่ำตมเหมือนเดิม ทำไมถึงจำวันแรกที่เราเจอกันไม่ได้ว่าเราถูกใจถูกคอกันเพราะอะไร"

       ก็มีคนมาให้กำลังใจทางเราเยอะเหมือนกัน

     "มีเยอะมากครับสิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือตอนนี้กระแสมันตีกลับไปว่าน้องไปว่าบริษัทผมก็เลยบอกทุกคนรอบตัวว่าโอแต่ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงเรายังเป็นแฟนคลับน้องเหมือนเดิม ชื่นชอบน้องเขาเหมือนเดิม (จริงๆมันบวกกับกระแสเก่าและการคนอวดหมีที่เราเจอ) ใช่ผมคิดว่ามันเป็นช่วงที่น้ำกำลังเที่ยวช่วงนี้เลยกฐินหลายกองนิดนึงครับผม(หัวเราะ) (จะทำให้เราระมัดระวังในการคำพูดมากขึ้นไหม เพราะมีคนแสดงความคิดเห็นว่าเราจาบจ้วงผู้หญิง แต่ว่าผู้หญิงก็ยินยอม) เป็นรายการเก่าใช่ไหมจะพูดว่ายังไงดีคือในตอนนี้ผมมองว่าสังคมของเรา ใช้คำว่าคุกคามทางเพศโดยที่เรายังไม่รู้ว่าความหมายจริงๆมันคืออะไรเส้นแบ่งของคำว่าคุกคามทางเพศ มันไม่เหมือนกันคือเราเองเราพยายามไม่แตะเนื้อต้องตัวน้องเลยก่อนเข้ารายการแล้วก็คุยกันก่อน กระทั่งถ่ายทำรายการเสร็จแล้วก็คุยกัน น้องเองยัง LINE หาเราเลยเขาถามเราว่าเป็นยังไงบ้างโอเคไหมตัวน้องก็โอเคเขาก็อยากช่วยถ้าเห็นว่าเราไม่สบายใจ แต่เราก็บอกว่าให้น้องอยู่นิ่งๆดีกว่าเพราะว่าถ้าน้องออกมาเดี๋ยวเราก็โดนด่าอีก แล้วถ้าอะไรที่จะอธิบายได้ว่าอะไรคือคุกคามทางเพศผมก็อยากจะอธิบายนะ ตอนนี้เราต้องทำความเข้าใจให้มันถ่องแท้ก่อนว่าการคุกคามทางเพศมันแค่ไหนและมันได้ขนาดไหน"
      รูปแบบรายการหรือคำพูดในรายการจะต้องระวังมากขึ้นไหม

      " เราเป็นเหมือนเดิมเลยหลายคนด่าเราถึงพ่อถึงแม่ด่าว่าเป็นเพราะเราต่ำอย่างนี้ไง เลยทำได้ แต่จริงๆแล้วเราเป็นคนอย่างนี้ เราก็ไม่เคยประดิษฐ์ตัวเองให้เป็นคนหยาบคาย ด่าผมหยาบคายไม่โกรธนะแต่ถ้าด่าว่าผมสร้างภาพเพื่อดังมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แล้วคลิปทุกรายการผมก็เป็นอย่างนี้ทุกรายการ งานทุกงานที่ผมไปลูกค้าเห็นลูกค้าก็รับรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนแบบนี้ แล้วรายการของเราเป็นรายการทางเลือกเป็นรายการที่โอเคหยาบคายแต่ว่ามันก็เป็นตัวตนของเราแบบนี้ มันเป็นรายการทางเลือกและรายงานทางเลือกคือคุณต้องเลือกดูที่จะดูรายการผมพี่ก็ต้องค้นหาเพื่อจะได้ดูเราไม่ได้เอาไปยัดเยียดให้เขาดูนะถ้าพี่จะมาด่าผมว่าทำอะไรออกฟรีทีวีพูดจาหยาบคายออกฟรีทีวีเหมือนยัดเยียดให้เด็กดูมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่อันนี้คือรายการทางเลือกหมายความว่าถ้าเขาดูรายการเราที่เลือกที่จะดูไงถ้ากดดูแล้วไม่ชอบก็แค่ดูอันอื่นไป  (ก็ยังยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนรูปแบบรายการ) เป็นคนเดิมทุกวันนี้ที่ผมมีงานมาได้ไม่ใช่ว่าผมเป็นแบบนี้หรอ ผมไม่อยากทรยศคนที่ชอบผมจริงๆ ถ้าผมเปลี่ยนไปคนก็ด่าอีก "

       เหมือนมีคนมาพูดกับแม่ว่าเราพูดหยาบ

       " แม่ก็พอรู้ข่าวบ้างอธิบายให้แม่ฟังแล้วแม่ก็เข้าใจแล้วบอกอยู่แล้วเพราะแม่เองก็เห็นรายการแม่ก็เห็นว่าในบริบทในการคุยกันไม่ได้เป็นการว่าใส่น้อง แต่ผมพูดกับคนอื่นแค่นั้นเอง แต่มันอยู่ในรถคันเดียวกันซึ่งโอเค ใช้คำพูดไม่เหมาะสม มันเป็นเรื่องที่คนจะต้องด่าแล้วก็ยอมรับ(ถามที่โพสต์ในทวิตเตอร์ว่าอยากจะหยุดทุกอย่าง) มันอยากหยุดเพราะว่าเราคุยกับพลอยหอวังพลอยหอวัง ว่าอยากเลิก เราสนุกกับการทำงาน แต่ผมก็คิดว่าไม่ควรมีใครบนโลกใบนี้ที่สมควรจะถูกชี้หน้าด่าหรอกทั้งๆที่เรายังไม่ได้ทำความผิดอะไรที่มันร้ายแรงถูกไหม ถ้าผมขึ้นรถแล้วปาถุงขยะใส่น้องน้องบีเอ็นเคอันนั้นค่อยมาด่ากัน หรือว่าเราพูดจาไม่ดีใส่น้องเขาก็อีกเรื่องนึง แต่อันนี้ดูได้เลยว่าผมเบามาก ผมพยายามเลี่ยงพยายามคุยกับน้องด้วยถ้อยคำที่ดี เราก็ เสียใจส่วนตอนนี้ดีขึ้นเพราะว่าเราได้พูดคุยกับน้อง แล้วก็ทำทีมงานของน้องก็มาให้กำลังใจเราเราก็บอกเขาไปว่าไม่เป็นไรครับคนอย่างผมโดนด่ามาทั้งชีวิตอยู่แล้วสบายมากครับสบายใจได้เลย"