
คิดใหม่ ให้ชีวิตใหม่ โอเค - เพลงไทยที่ฟังก่อนตาย (12) ดิ อินโนเซ้นท์
ปี 2523 เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนเดียวกันกลุ่มหนึ่งจากราชบุรี รวมตัวกันตั้งวงดนตรี และมีผลงานออกมา เริ่มจากโฟล์กซอง สู่วงแบบสตริงคอมโบ้ แม้งานสองชุดแรกยังไม่ใด้รับการตอบรับในวงการ ทั้งในแง่การนำเสนอผ่านสื่อ และการตระเวนแสดงดนตรีก็ตาม แต่ความตั้งใจไม่ใด้หา
ดิ อินโนเซ้นท์ สอบตก 2524
งานที่ส่งให้ชื่อเสียงของวงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เนื่องด้วยเนื้อหา เหมาะกับวัย ไม่แตกพานจนเร็วเกินงาม แนวทางจึงเป็นเรื่องชีวิตวัยเรียน และเพลงที่พูดถึงบ้านเกิด ที่ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ให้เป็นมากกว่า โฟล์กซอง จากชุดแรกคือ เพลงราชบุรี ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดได้เป็นอย่างดี
ลักษณะของงานช่วงแรกๆ เนื้อเพลงยังเป็นกลอนแล้วนำมาใส่ดนตรี ตัวเพลงหลายเพลงในอัลบั้มจึงยังไม่ค่อยมีอัตลักษณ์ และความหลากหลายเท่าที่ควร บางเพลงหากนำไปให้นักร้องลูกทุ่งร้อง ทำดนตรีใหม่ ก็ไปกันได้สบาย อย่างเพลง ศิษย์เก่ารำลึก
งานชิ้นนี้จึงได้นำเสนอในวงแคบอยู่ยกเว้นเพลง สอบตก ที่โด่งดังไปทั้งบ้านเมือง เพราะเป็นเรื่องที่วัยรุ่นคนอื่นๆ มีส่วนร่วมได้โดยไม่ต้องพยายาม และอย่างน้อยคนฟังทั้งประเทศก็จดจำชื่อวงนี้ได้แล้ว
ดิ อินโนเซ้นท์ อยู่หอ 2525
การเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นอีกระดับ จาก โฟล์คซอง และ สตริงคอมโบ้ ขยับขึ้นมาเป็นดนตรีที่มีชั้นเชิงมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่เสียงกีตาร์ ของชาตรี คงสุวรรณ ในเพลง “อยู่หอ” ที่เสียงอินโทร กีตาร์ เข้ามามีบทบาทในการผลิต
มนต์ไทรโยค ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนที่นั่งรถไฟสายตะวันตก ผ่านทางรถไฟสายมรณะ ไปสิ้นสุดที่สถานีไทรโยค ต้องหยิบกีตาร์โปร่งไปด้วยทุกครั้งไป
ในยุคที่นำทำนองเพลงสากลมาดัดแปลงหรือเปลี่ยนเนื้อเพลงไทยเข้าไป ก็ยังมีให้เห็นรอยประวัติศาสตร์อยู่หลายเพลงในชุดนี้ โดย ณ เวลานั้น เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นประเด็นใหญ่โตนัก เรียกว่านักฟังเพลงรุ่นนั้น ยอมรับกันได้ เพราะการพัฒนาใดๆ ส่วนใหญ่ก็มีรากฐานมาจากรอบทางที่ผู้อื่นถากถางไว้ทั้งสิ้น ผ่านกาลเวลา ดนตรีไทยสากลก็พัฒนาไป
ดิ อินโนเซ้นท์ เพียงกระซิบ 2526
เพียงกระซิบ, วัยบริสุทธิ์ (14-16-18) คือเพลงที่โดดเด่นในอัลบั้ม กลายเป็นวงป๊อปร็อก ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งวงในเวลานั้น ทั้งการเรียบเรียงและการนำเสนอ
ดิ อินโนเซ้นท์ รักคืออะไร 2527
ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น ที่ใครต่อใครพากันพูดถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ กลายเป็นปกอัลบั้มชุดนี้ ซึ่งอาจดูไม่สัมพันธ์อะไรกับเนื้อหาของเพลง แต่คงเป็นความพยายามสื่อสารบางอย่างอยู่ในปกนั้น ก็ตีความกันไปได้ต่างๆ ตั้งแต่เพลงแรก หน้า A (Music Cassette) ก็ได้พบความลงตัวของการประสานและ Duet กันระหว่าง สายชล ระดมกิจ และชาตรี คงสุวรรณ ที่สวยงามลงตัว ในเพลง รักคืออะไร ยังน่าฟังมาจนทุกวันนี้
สักวัน เพลงรักอารมณ์อาวรณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต ของผู้ชาย ที่ไม่ค่อยได้ยินกันบ่อยนัก แต่ก็เป็นเพลงที่ไพเราะ แต่แอบแค้น และอีกหลายๆ เพลงในชุดนี้ก็ละเมียดละไมมากขึ้น และปิดท้ายอัลบั้มด้วย เมดเลย์อินโนเซ้นท์ ที่หลายๆ วงในยุคนั้นต้องมีกันซะหน่อย เพื่อเป็นโบนัสคนฟัง
เมืองอะไร เริ่มเป็นเพลงที่เห็นการเติบโตของวงได้มากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้ม ที่แสดงสภาวะทางความคิดที่เติบโตเป็นวัยรุ่นตอนปลายที่มีมุมมองแบบรับผิดชอบสังคมมากขึ้นตามวัยไปด้วย ในขณะที่กลายมาเป็นแนวคิดในการผลิตงานในอัลบั้มถัดมา คือ โลกใบเก่า
(ดิ อินโนเซ้นท์ โลกใบเก่า 2528)
ดิ อินโนเซ้นท์ ครั้งนี้ของพี่กับน้อง 2529
งานอีกชิ้นที่ลงตัว สมส่วน ทั้งเนื้อ ทำนองและการเลือกคนร้องในแต่ละเพลง แถมมีสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมงานคือ วรสิทธิ์ ชีพสาธิต เข้ามาเป็นนักร้องรับเชิญในเพลง ฝากรัก ซึ่งกลายเป็น One Hit Wonder ของเขาต่อมาจนปัจจุบัน และยังร้องเสียงคอรัสในอัลบั้มด้วย การให้เครดิตบนปกอัลบั้มในส่วนทำนองที่หยิบยืมมากจากเพลงสากล แปลงเป็นเพลงคืนก่อนด้วยฟังทั้งชุด สุดประทับใจทุกเพลง กลมกล่อม ฟังแล้วได้ใจตั้งแต่เพลงแรกถึงเพลงสุดท้าย ชุดนี้ต้องหามาฟังให้ได้จริงๆ ครับ
ดิ อินโนเซ้นท์ 10 นาฬิกา 2532
กับสมาชิกรุ่นท้ายสุดของวงทั้ง 4 คน กับเสียงกลอง Drum Machine พิสูจน์ความเป็นนักดนตรี และนักแต่งเพลงอาชีพ ที่ได้ฝากฝีมือให้ผลงานตัวเองอย่างน่าประทับใจ ยุคโฟล์กซอง ยุคสตริงคอมโบ้ มาถึงยุดป๊อปคุณภาพอีกวงในประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย ไม่ค่อยจะได้เห็นกันบ่อยนัก
10 นาฬิกา คือเวลาเปิดทำการของห้องอัดเสียงศรีสยาม กลายเป็นชื่ออัลบั้มชุดท้ายสุด ในนาม ดิ อินโนเซ้นท์ เป็นอัลบั้มที่ดีอีกอัลบั้มในชีวิตการทำงานของพวกเขาทั้ง 4 สมาชิกหลัก ประกอบไปด้วย พีรสันติ จวบสมัย, สายชล ระดมกิจ, เสนีย์ ฉัตรวิชัย, ชาตรี คงสุวรรณ คงไม่ต้องอธิบายมากสำหรับงานชิ้นนี้ คือชั้นเชิงของนักดนตรีอาชีพครับ
ชาตินี้ ยังไงก็ฟังเพลงทั่วไป ได้ไม่หมด
ขอเลือกเพลงโปรด ฟังก่อนตาย ดีกว่า
"โชคชัย เจี่ยเจริญ"
[email protected]
<mailto:[email protected]>