'เฌอเบลล์' ประกาศเลิก 'บอส'  (คลิป) | คมชัดลึก

    เป็นช่วงรักร้าวของวงการบันเทิงจริงๆ เพราะล่าสุดคู่รักวัยหวานอย่าง "เฌอเบลล์"  ลัลณ์ลลิน และ "บอส" ณัชพงศ์พล แฟนหนุ่มที่คบกันมา 3 ปี ที่ก่อนหน้ามีแพลนถึงขั้นแต่งงาน แต่ล่าสุดก็มีข่าวว่าทั้งคู่ได้เลิกรากันแล้ว และในงานเปิดตัวภาพยนตร์ "Maze Runner : The Death Cure Thailand Premiere" ที่ เอ็มควอเทียร์ ได้มีโอกาสเจอสาวเฌอเบลล์ จึงถามถึงเรื่องนี้ 
    ตอนนี้โสดแล้ว?
    “โอเคดีค่ะ โสด (ยิ้ม)”
    สาเหตุเกิดจากอะไรพอจะบอกได้ไหม ?
    “ก็มันไม่สมูท เราก็เลยสต็อปดีกว่า (ยิ้ม) จริงๆ มันก็เป็นความรักที่ดีนะ แต่ว่ามันก็มีเรื่องของความไม่เข้าใจ ความคิดไม่ตรงกันเข้ามาเกี่ยว สุดท้ายเราก็เลยตัดสินใจคุยกันว่าพอดีกว่า ปัญหาที่มันเกิดขึ้นมเกิดมานานแล้ว และเริ่มมีอาการช่วงปลายๆ เดือนธันวาคม และพอถึงช่วงต้นเดือนมกราคมเราก็เริ่มคุยกัน ถามว่ามีมือที่สามไหม ไม่มีเลยนะคะ ไม่มีค่ะ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากเราสองคนเท่านั้น”
    ทำไมเราถึงเลือกที่จะจบความสัมพันธ์มากกว่าที่จะประคับประคองกันไปก่อน ?
    “เราทั้งคู่พยายามแล้วนะคะ แต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่โอเคจริงๆ”
    แต่จากข่าวเก่าๆ หลายคนก็พอจะทราบดีว่าส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเป็นฝ่ายง้อเขา ?
    “เฮ้อ เอ่อ…มันก็เป็นอดีตที่โอเคนั่นแหละ แต่ก็ไม่ค่อยอยากพูดถึงเยอะ เราก็รู้สึกว่าเราต้องให้โอกาสตัวเองเนอะ เพราะในเมื่อเราตัดสินใจแล้วเราเลิกกันแล้ว เราก็ควรที่จะให้โอกาสตัวเองใหม่อีกครั้งดีกว่า สมมตินะถ้าหากมีใครคนใหม่เข้ามาเขาก็อาจจะรู้สึกได้ว่าไม่จบหรือเปล่า ดังนั้นเราก็ต้องให้โอกาสตัวเอง แถมเราก็อายุ 26 แล้วด้วย ไม่ได้อายุน้อยๆ แล้ว”

 

 

 

    เขาเข้าใจเหตุผลไหมที่เลิกกัน ?
    “ก็เข้าใจ แต่เขาก็ยังคิดถึง ยังส่งข้อความมาหา ซึ่งเราก็เข้าใจความรู้สึกเขานะเพราะเขาอาจจะไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ว่าตัวเราเองมีความรู้สึกไม่โอเคมานานแล้ว  จริงๆ ระหว่างคบกันมันก็มีมาเรื่อยๆ นะ แต่ในเมื่อทั้งคู่ต่างก็ให้โอกาสกันเองแล้ว และเราก็รู้ดีว่าปัญหามันคืออะไร มันคือเราเข้ากันไม่ได้ ความคิดของเรามันไม่ได้ มันไม่เหมือนเดิมแล้วจริงๆ”

    จากสถานการณ์ตอนนี้เหมือนว่าเราจะเข้มแข็งมาก ?
    “ใช่ค่ะ ก็เปิดโอกาสให้ตัวเองเนอะ ให้มีคนเข้ามาทำให้หัวใจก็ดีขึ้นค่ะ และก็มีสติมากขึ้น”
    แสดงว่าตอนนี้สำหรับเราคือมีคนเข้ามาแล้ว ?
    “ใช่ค่ะ ก็มีเพราะคนเข้ามาจ่อเร็วมากค่ะ สวยไม่มากแต่ตลกมาก”
    ถ้าถามตรงๆ เลยก็คือเราเป็นฝ่ายบอกเลิกเขาสำหรับความรักครั้งนี้ ? “ใช่”
    เขาไม่งงเหรอที่ครั้งนี้เราเลือกที่จะไม่ง้อเขา เพราะปกติเราจะเป็นฝ่ายประคองความสัมพันธ์ตลอดเวลา ?
    “ก็…คงเหวอ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เฮิร์ธขนาดนี้ เขาอาจจะคิดว่ามันคงเหมือนกับทุกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้มันไม่เหมือน”
    ชีวิตเรา ณ ตอนนี้ก็คือเดินหน้าต่อ ไม่หันกลับมามองอีก ?
    “ใช่ค่ะ ก็เปิดโอกาสให้ตัวเองเลย เพราะตอนนี้ก็มีคนเข้ามาแล้ว”
    เขาทราบไหมว่าตอนนี้เราคุยกับคนใหม่อยู่ ?
    “ก็บอกเขาค่ะว่ามีคนใหม่แล้วนะ เขาก็เลยยังเฮิร์ธอยู่ คือเราเป็นคนที่ชัดเจนมากไง มีอะไรเราก็บอก”

 

 

    แบบนี้เรากลัวคนนอกจะมองไหมว่าจริงๆ แล้วเราอาจจะแอบคบซ้อน ?
    “ไม่ ก็คือเราชัดเจน เราเลิกก่อน เรามีระยะเวลามากเลยกว่าที่จะมีใครเข้ามา ก็คือหลายอาทิตย์อยู่เหมือนกัน”
    อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราตัดใจได้ไวและพร้อมเปิดใจให้คนใหม่ได้ทันที ?
    “รักตัวเองค่ะ จริงๆ”
    สำหรับหนุ่มคนใหม่พอจะบอกได้ไหมว่าเขาเป็นใคร และจีบเรามานานแล้วหรือยัง ?
    “สักพักค่ะ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า และก็เป็นคนนอกวงการด้วย”
    ความรักครั้งที่แล้วมันสอนอะไรเราบ้าง ?
    “หลายอย่างค่ะ คือเราก็รู้อยู่แก่ใจเนอะว่าเราได้บทเรียนอะไรบ้าง และตัวเขาเองก็พูดอยู่ว่าเขาได้บทเรียนอะไรมา ดังนั้นต่างคนก็ต่างได้บทเรียนค่ะ”
    เสียดายเวลาที่ผ่านมาไหมสำหรับรักในอดีต ?
    “ไม่นะ แต่ตอนนี้ชีวิตเราก็เดินไปข้างหน้าแล้วไง ดังนั้นเราขอทำวันนี้และอนาคตให้ดีกว่าเดิมดีกว่า ถ้าหากมัวแต่มานั่งเสียดายเวลาเราก็จะเสียเวลาในการใช้วันนี้และพรุ่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ”
    จริงๆ เราคิดว่ามันเร็วไปไหมกับการเปิดใจให้คนใหม่เข้ามา ?
    “มันก็มีการใช้เวลานะ แต่อย่างที่บอกเราแค่เปิดใจเฉยๆ ยังไม่ได้บอกเลยว่าคบกับเขาแล้วทันที”
    เหมือนเราไม่ค่อยใส่ใจกับความรักที่ผ่านมา ?
    “ก็…ระหว่างทางมันก็คงเต็มที่แล้ว”
    แสดงว่าเจ็บมาเยอะ ?
    “ไม่ได้พูดแบบนั้นนะ แต่ก็วันหนึ่งมันก็จะชินกับสิ่งนั้นไปเอง และวันหนึ่งเราก็จะรู้สึกดีขึ้น”

 

 

    จุดแตกหักมันคืออะไร ?
    “เราต้องกลับมารักตัวเองนี่แหละ เรารู้สึกว่าเราต้องกลับมารักตัวเองได้แล้ว”
    เกี่ยวไหมว่าพอเรามีแฟนแล้วงานเราอาจจะไม่รุ่งไม่ปัง ?
    “เราก็ไม่อยากพูดอะไรเยอะ เพราะเราก็เห็นแก่ความรักที่เคยรักกันมา ดังนั้นมันคงไม่จำเป็นต้องพูดไปซะทุกอย่างหรอกว่าใครผิดหรือใครถูก เพราะการที่เราคบกันมันไม่ได้มีใครผิดหรือถูก รวมถึงมันไม่มีความจำเป็นด้วยว่าเราจะต้องมาบอกว่าใครทำอะไร เราไม่รู้ว่าจะพูดถึงมันไปเพื่ออะไร เพราะในเมื่อวันก่อนหน้านี้เราก็เคยรักกัน”
    เลิกครั้งนี้มีน้ำตาบ้างไหม ?
    “ไม่มีครั้งไหนหรอกที่ไม่มีน้ำตา”
    เหมือนก่อนหน้านี้ตัวเราเองก็คาดหวังกับความรักครั้งนี้เหมือนกันนะ ?
    “มันก๊อกหักดังเป๊าะเหมือนกันแหละ เพราะผู้หญิงด้วยกันก็น่าจะเข้าใจถ้าพูดถึงอนาคต แต่คุณพ่อก็บอกกับเราเสมอว่า ใครที่เข้มแข็งไวสุด คนนั้นก็จะเดินไปข้างหน้าได้ไวสุด”
    สถานะของเรากับคนใหม่ตอนนี้คืออะไร ?
    “ก็คุยกัน ดูแลเทคแคร์ดี และก็ให้มุมมองความคิดที่ดีค่ะ”
    กับคนเก่ายังมองหน้ากันติดไหม ?
    “เราก็ยังเป็นเพื่อนเป็นพี่กันนะ ยังทักได้คุยได้”