บันเทิง

เปิดใจ 'เจ้าพ่อเพลงอกหัก 100 ล้านวิว’

เปิดใจ 'เจ้าพ่อเพลงอกหัก 100 ล้านวิว’

08 ม.ค. 2561

 “อะตอม” ชนกันต์ รัตนอุดม ศิลปินดาวรุ่งพุ่งแรงของยุคนี้ เจ้าของเพลงอกหักที่มียอดวิวมากกว่า 500 ล้านวิว 

 

        ในยุคที่ถูกมองว่าวงการเพลงซบเซา แต่เชื่อไหมว่าในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา มีศิลปินคนหนึ่งที่สร้างชื่อจนได้รับการยอมรับว่าเป็นเจ้าพ่อเพลงอกหักของยุคนี้เลยก็ว่าได้ ศิลปินหนุ่มคนนั้นคือ “อะตอม” ชนกันต์ รัตนอุดม ศิลปินดาวรุ่งพุ่งแรงของยุคนี้ การันตรีจากเพลงที่เขาปล่อยออกมาที่มียอดรวมกันทะลุกว่า 500 ล้านวิวไปแล้ว และล่าสุดเขามีอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของตัวเองในชื่ออัลบั้ม “Cyantist (ไซแอ็นทิสต์)” วันนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่มคนนี้


        @@ เป็นศิลปินที่แต่งเพลงจากชีวิต

        "ก็จริงอยู่ แต่ว่าถ้าเป็นเหมือนเนื้อเรื่อง อย่างเพลง "อย่าบอก" เนื้อหาในเพลงสำหรับเรามันไม่มีการมาบอกมันไม่ได้มีเหตุการณ์ขึ้นกับผมที่ผมโดนบอกเลิกแล้วบอกว่าไม่ต้องพูดมากหรอกมันไม่มีแต่ว่ามันก็คือความรู้สึกของคนที่อกหัก ทุกวันนี้คือเพื่อนก็อกหัก เราก็มีความรู้สึกว่าคือตอนนั้นมันก็มีโซเชียลมีเดียแล้วเหมือนกันมันก็มีการโพสต์เวิ่นเว้ออะไรของมันว่าเสียใจขนาดไหนแล้วก็ในความคิดนี้มันก็เข้ามาหาเราว่าทำไม ทำไมต้องบอกว่าเสียใจมันก็เริ่มมาตอนนั้นแล้วมันก็เริ่มกลายเป็นรูปเป็นร่างในที่สุด
        เพลงแรกที่แต่งจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะว่าตอนนั้นเด็กมากประมาณ ม.3 แต่งเพลงตั้งแต่ ป.6 ม.1 หมายถึงเริ่มมั่วไม่เป็นชิ้นเป็นอันแบบแต่งเล่นๆ ช่วงแรกที่เริ่มเขียน เรื่องเพื่อนเรื่องอะไรไ จะเขียนเรื่องความรักยังไง มันยังไม่เคยมีความรัก แล้วพอมา ม.3 เริ่มมีความรักแล้ว ช่วงแรกๆ ก็จะเป็นเพลงจีบสาว ช่วงป็อปปี้เลิฟใหม่มากๆ ครั้งแรกมันก็ใหม่ไปหมด มันเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้เขียนเพลงตอนนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงรักกุ๊กกิ๊ก ตอนนั้นไม่เคยอกหักเลยเขียนเพลงรักกุ๊กกิ๊กจีบเขาหรือว่าเป็นเพลงบอกรักกัน ทีนี้พอเลิก พลิกปึ้งเรียบร้อยทีนี้มาเลย ตอนนั้นผมว่าก็หนักเหมือนกันนะ สำหรับ ม.3 ม.4 ผมเจอหนักใช้ได้ ทำให้เราได้เริ่มบรรยายความชอบลงไปในเพลงครั้งแรกๆ คือช่วงอายุ 15-16 ปี ที่เริ่มลองเขียนเพลงเศร้าแล้วกลายเป็นแนวถนัดจนถึงทุกวันนี้"

 

เปิดใจ \'เจ้าพ่อเพลงอกหัก 100 ล้านวิว’

 

 

        @@ เพลงไหนที่เอาเรื่องจริงของตัวเอง ออกมาแต่งเป็นเพลง
        “ถ้าตรงตัวผมก็จะเป็นเพลง ”Please (พรีส)“ นี่คือตอนมหาลัย คืออกหักเขียนเพลงที่แท้จริง คือเฮิร์ตแล้วก็กลับมาที่ห้องแล้วก็เขียนเพลงนี้ขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เขียนเสร็จแล้วก็ทิ้งมันไว้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมันเลยแล้วก็มาเป็นเพลงนี้ที่ทุกคนได้ฟังกัน”

        @@ คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนเพลงนี้ออกมา เขารู้ตัวไหม
        “รู้ พอถึงเวลาที่เพลงออกมามันก็ต่างคนก็ต่างโตเกินที่จะมานั่งถามแล้วว่ามันยังไง หรือว่ามันเป็นเรื่องเก่าไปเกินที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาแล้ว คนที่ผมเป็นต้นตอที่เขียนเพลงนี้ เรื่องที่เกิดกับเขาจริงๆ มันเกิดกับเขาคนเดียว แต่ก็จะมีอีกหลายๆ คนที่ส่งฟีดแบกเข้ามาเหมือนพูดว่าฉันรู้ว่าเธอแต่งให้ฉันนะ ซึ่งเราก็เออออไป คือช่วงมหาลัยจะไม่ได้คบใครจริงจัง คือแฟนเยอะมันน่าตื้นเต้นมันจะมีความเป็นกิ๊กเป็นอะไรของมันเยอะ แต่ว่าผมเป็นคนที่รักจริงมากๆ คนหนึ่ง ถามว่าคนที่แต่งเพลงนี้ให้เขา เขารู้ไหม บอกเลยเขารู้ ถามว่าเขารู้สึกยังไงที่เราแต่งให้ ผมว่าเขาคงยินดีด้วย ที่เขาทำร้ายเราในตอนนั้นส่งเสริมให้อาชีพเราเจริญรุ่งเรือง (หัวเราะ)”

 

เปิดใจ \'เจ้าพ่อเพลงอกหัก 100 ล้านวิว’

 

        @@ ดูเหมือนจะเจ็บกับความรักมาเยอะ
        “มันก็มีเรื่อยๆ แต่ว่าก็มีช่วงที่มีความสุขอยู่แล้ว ถามว่าทุกคนที่เฮิร์ต มันก็มีช่วงหนึ่งที่ดีมากๆ มาก่อน แต่พอสุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องมาอยู่กับปัจจุบันคือมันจบไปแล้วคือสิ่งที่คุณจำได้พอเรามาคิดถึงเรื่องนี้เรื่องที่ดีมีความสุขสุดท้ายแล้วเรามารู้ตัวว่าไม่มีอยู่แล้วมันก็เศร้าอยู่ดี คนเลิกกันด้วยหลายเหตุผล แต่สำหรับเรามันก็มีหลายจุดที่โดนซ้ำๆ สำหรับผมนะ ผมว่าเวลาช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาของวัยรุ่น คือช่วงเวลาของความตื่นเต้นแล้วก็คนอย่างผมมันค่อนข้างที่จะเสมอต้นเสมอปลายในตอนที่ยังเป็นคนดีกว่านี้อยู่ ช่วงก่อนหน้าที่เราแต่ละครั้งที่เรามีแฟนเราจะจริงจังมากเวลาที่มีความรักเราเสมอต้นเสมอปลาย ให้เท่าไหนเราก็ยังให้เท่านั้นไปเรื่อยๆ สำหรับคนอายุประมาณนั้น ผมว่ามันน่าเบื่อนะ สำหรับคนที่ไม่นอกลู่นอกทางมันใส่ใจกันจนเกินไปจนกลายเป็นความเคยชินจนอีกฝ่ายหนึ่งคิดว่าที่เราทำน่าเบื่อ สุดท้ายก็จะโดนเทด้วยเหตุผลนี้ แล้วก็จะมีมือที่สามมาเกี่ยวกับผม เพราะว่ามันเจอคนเยอะ มันไวไปหมดช่วงวัยรุ่นมันก็เป็นจุดที่ฝังในใจเราพอสมควรแล้วก็ผมเอามาผลิตเพลงได้เรื่อยๆเราก็ให้มุมมองกับมันหลายๆแบบแหล่ะจริงๆมันก็เรื่องความรักเรื่องความสัมพันธ์มันก็ชี้ถูกผิดยากถ้ามันไม่ชัดจริงมันก็ขัดต่อจริยธรรมแบบตบตีกันนะบางทีมันก็มีเหตุผลของแต่ละคนมันก็มีใช่กับไม่ใช่กับคนที่ถูกทิ้งก็จะรู้สึกว่าอีกคนนึงเป็นคนผิดทำไมเธอทำฉันแบบนี้มันจะเป็นบาปกรรมติดตัวเธอไปตลอดชีวิตซึ่งบางทีมันก็ไม่ใช่มันก็เป็นเรื่องของแต่ละคน”

        @@ รักครั้งไหนที่เอามาแต่งเพลงบ่อยที่สุด
        "เกือบทุกครั้ง มันใช้ได้หมดเลยมันก็มีส่วนดีของมัน ช่วงเวลาที่มันดีช่วงเวลาที่มันสวยงามก็มียิ่งมันดีเท่าไหร่แล้ววันที่เราไม่มีมันแล้วเรายิ่งเศร้ามากเท่านั้น แต่ว่าเราไปหยิบเอาเวลาดีๆ เหล่านั้นมาเขียนได้ไม่ดีเท่าความผิดหวังความเศร้าของเราเท่านั้นเอง ความเศร้ามันเกิดขึ้นง่ายกว่าความสุขอยู่แล้ว มันไม่มีหนังสือเล่มไหนเขียนขึ้นมาแล้วแนะนำให้คนค้นหาความเศร้าให้เจอ เพราะมันหาง่ายเดี๋ยวก็ทุกข์แล้ว ผมว่ามันเป็นอารมณ์พื้นฐานที่เกิดขึ้นกับคนได้ง่าย คนเขียนความสุขเนี่ย พยายามอธิบายไปซิความสุขเกิดได้ไงความสุขหาได้จากไหนในชีวิต"

        @@ คิดว่าตอนนี้ “อะตอม” ประสบความสำเร็จรึยัง
        "เหมือนผ่านเช็คพ้อยมาจุดหนึ่งแล้วก็คือการทำให้เพลงเป็นที่คนรู้จักสำหรับเราคนรู้จักเพลงมันสำคัญกว่าคนรู้จักตัวเราก่อนเสมอเราไม่ค่อยสนใจว่าคนจะรู้จักเรารึเปล่า เราอยากให้คนรู้จักเราจากเพลง สิ่งที่มันเป็นเรื่องยากก็คือการรักษามาตราฐานไว้สำหรับผมเพราะว่าคือเราตั้งใจว่าจะอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุดถ้าถามว่าประสบความสำเร็จที่สุดแล้วรึยัง ก็ต้องบอกว่ายังมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะแล้วเราก็อยากเก่งกว่านี้เราอยากทำอะไรหลายๆอย่าง"

เรื่อง-ภาพ : ณัฏฐิรา หลอดแก้ว

 

เปิดใจ \'เจ้าพ่อเพลงอกหัก 100 ล้านวิว’