
ม.มหิดล ส่งแอนิเมชัน “ของขวัญจากดิน” ลงจอทีวี
ม.มหิดล ส่งแอนิเมชันสุดยิ่งใหญ่ “ของขวัญจากดิน” นักแสดงดังร่วมให้เสียงพร้อมลงจอทีวี
ศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดลจัดทำภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยิ่งใหญ่ “ของขวัญจากดิน” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ที่ทรงมีพระเมตตา พระปรีชาสามารถ พระอัจฉริยภาพและพระวิริยอุตสาหะในการแก้ปัญหาเรื่องความอดอยากของพสกนิกรชาวไทย โดยภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ได้แฝงไว้ด้วยศาสตร์พระราชาซึ่งเป็นการนำองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้ในการดำรงได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องส่งผลให้ชีวิตมีความสุขอย่างยั่งยืน
“ของขวัญจากดิน” จากผลงานการกำกับของ นนทรีย์ นิมิบุตร และ ภาคิน ตั้งฐานธนา ร่วมด้วย บริษัท บิ๊กเบรนพิคเจอร์สจำกัด ทีมผลิตแอนิเมชันชั้นนำของเมืองไทยพร้อมทั้งให้เสียงโดยนักแสดงผู้มีชื่อเสียง ได้แก่ จรินทร์พร จุนเกียรติ,มนตรี เจนอักษร, อรรถพร ธีมากร และ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์เพื่อให้เด็กและเยาวชนรวมทั้งประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่อย่างทั่วถึงมหาวิทยาลัยมหิดลได้รับความร่วมมือในการการออกอากาศเผยแพร่ภาพยนตร์แอนิเมชันยิ่งใหญ่เรื่องนี้พร้อมกันในวันที่ 5 ธันวาคม 2560ซึ่งตรงกับ “วันดินโลก” (World Soil Day)
ผศ.ดร.สุรพงษ์ เลิศสิทธิชัย ผอ.ศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงที่มาของโปรเจ็กต์แอนิเมชันเรื่องนี้ว่า “แอนิเมชัน “ของขวัญจากดิน” เป็นหนึ่งใน 5 โครงการนำร่องของศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งในแอนิเมชันจะนำเนื้อหาเกี่ยวกับศาสตร์ของพระราชา เกษตรทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นสื่อสร้างสรรค์เผยแพร่องค์ความรู้ให้คนไทยทุกคน สามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดสร้างเศรษฐกิจชุมชนและพัฒนาสู่เศรษฐกิจระดับประเทศได้ อยากเชิญชวนให้คนไทยทุกท่านได้มาชมแอนิเมชัน “ของขวัญจากดิน” ซึ่งเป็นแอนิเมชันชุดแรกที่ศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดทำขึ้นด้วยความตั้งใจโดยทีมงานคุณภาพ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ชมกันทางสถานีโทรทัศน์ ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ผมมั่นใจว่าแอนิเมชันเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความประทับใจให้กับพวกเราคนไทยทุกคนครับ”
อัจฉรา กิจกัญจนาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบิ๊กเบรนพิคเจอร์ส จำกัด และเป็นผู้ควบคุมการผลิตแอนิเมชันเรื่องนี้ได้เปิดใจถึงความภูมิใจในการทำว่า“อย่าลืมว่าแอนิเมชันเป็นสื่ออีกอย่างหนึ่งที่มันไม่มีอายุ ไม่มีเวลา
มันอยู่ได้นาน ต่อให้เราไม่อยู่แล้ว มันก็จะเป็นสมบัติที่ทิ้งเอาไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลาน รุ่นเหลน ได้เห็นว่าศาสตร์ของพระราชาที่แฝงอยู่ในภูมิปัญญาของคนไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ท่านทรงพระปรีชาสามารถทรงค้นคว้าทิ้งไว้ให้พวกเรานั้นเป็นเช่นไรอันนี้เป็นความภูมิใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ที่ได้ทำเรื่องนี้หัวใจหลักของแอนิเมชันของขวัญจากดินคือ ศาสตร์ของพระราชาที่แฝงอยู่ในความเป็นคนไทยที่ควรจะเป็น”
ผู้กำกับแอนิเมชันเรื่องนี้ อุ๋ย นนทรีย์ เผยถึงการทำงานครั้งนี้ว่า “แอนิเมชันเรื่องนี้เป็นอะไรที่ท้าทายผมมาก
แรกสุดที่รู้ว่ามีการทำแอนิเมชันเรื่องนี้ ผมก็รู้สึกอยากดูเลย และพอได้รับการติดต่อให้มาช่วยกำกับ ยิ่งดีใจมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรื่องราวที่มาจากศาสตร์พระราชา เป็นคำสอนเป็นพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9
ผมรู้สึกว่าโดยเรื่องราวทั้งหมดน่าสนใจมากและมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อทุกคนจริงๆเราได้นำเสนอเรื่องราวครอบครัวหนึ่งให้ทุกคนได้เห็นว่าการที่เรามีความพอเพียง มีความเข้าใจชีวิตในการทำอาชีพไม่ว่าจะเป็นการเกษตรกรง่ายๆก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แล้วด้วยความพอเพียง คนที่ดูแอนิเมชันเรื่องนี้คนที่อยู่ในเมืองหลวงคนที่ท้อแท้อยู่อาจจะอยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านทำแบบนี้บ้างก็ได้แอนิเมชันเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คนเรามองว่าการใช้ชีวิตอยู่ได้โด
ยไม่ต้องมีเงินมากมายขอแค่เราพอเพียงเราก็มีความสุขได้เหมือนกันเชื่อว่าคนที่ได้ชมแอนิเมชันเรื่องนี้จะอยากกลับบ้านกลับไปทำให้ชุมชนของเขามีความเจริญ”
ภาคิน ตั้งฐานธนา ที่ได้ร่วมกำกับและร่วมเขียนบทกับธัญญพัฒน์ วิลาวรรณ กล่าวถึงผลงานนี้ว่า“สำหรับผมแล้ว ครั้งแรกที่ได้รับการชักชวนมารู้สึกอย่างเดียวเลยคือ เป็นเกียรติอย่างยิ่ง รู้สึกว่าเราจะได้เป็นหนึ่งในจิกซอว์ ของสิ่งมหัศจรรย์ครั้งหนึ่งในชีวิตรู้สึกมีคุณค่าที่สุดได้นำเรื่องราวศาสตร์พระราชามาใส่ในการกระทำของตัวละครเป็นการประยุกต์ให้เค้าเห็นว่า สิ่งที่พระองค์สอนเป็นไปได้นะใช้ได้จริง”
ปุ๊ มนตรี ผู้ให้เสียงสำคัญเป็น ปู่ทอง เล่าถึงเรื่องนี้ว่า“ปู่ทอง เป็นชาวนา ที่มีแนวคิดต่างๆ น่าจดจำ เป็นคนน่ารัก จริงจังช่วยเหลือเพื่อนบ้าน รักลูก รักหลาน พยายามสอนสิ่งดีๆให้กับคนรุ่นหลัง ยิ่งผมอัดเสียงไปก็ยิ่งรักตัวละครนี้เพราะมีความรู้สึกว่า ปู่ทองเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ได้ทำให้คนคิดดี ได้รู้จักสิ่งที่ดีๆ กับชีวิตของตัวเอง และใน“ของขวัญจากดิน” จะมีคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9สอดแทรกอยู่หลายเรื่องมาก แต่ที่เห็นได้ชัดคือ ความเพียรพยายามเมื่อไหร่ที่เราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ต้องทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนถ้าเราไม่พยายามก็ทำไม่ได้ ถ้าเด็กได้ชมก็จะเรียนรู้ว่าถ้ามีความพยายาม สิ่งนี้จะทำให้ประสบความสำเร็จแน่นอนทุกอย่างในเรื่องสนุก ไม่ซีเรียสเลย แต่แฝงแนวคิดพวกนี้ไว้เสมอแอนิเมชันเรื่องนี้ทีมงานตั้งใจจริง ภาพสวยงามมากถ้าได้ชมจะเป็นสิ่งที่ตาจะมีความสุขที่ได้เห็นภาพที่สวยงามจะมีความสุขที่ได้เห็นเรื่องราวที่เป็นฟีลกู้ดเวลาเราดูอะไรแล้วรู้สึกดีกับหนังเรื่องนั้น มันได้คุณค่ากับตัวเราเองทำให้ตาก็ดี หัวสมองก็ดี ทุกอย่างจะดีหมด”
ด้านนักแสดงสาวมากฝีมือ เต้ย จรินทร์พร เผยถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมให้เสียงแอนิเมชันนี้ว่า “เต้ยให้เสียงเป็น ขวัญข้าว เป็นเด็กที่มีความสู้ชีวิต เข้าใจคุณพ่อ บางทีคุณพ่อทำงานดึก มารับกลับบ้านช้าก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นเด็กที่เข้มแข็งคนหนึ่ง แต่ในความเข้มแข็ง เด็กคนนี้ก็ยังมีความร่าเริง อยากเรียนรู้ อยากลองอะไรใหม่ๆ เป็นคนมองชีวิตในแง่บวก ทำให้รู้สึกเวลาเราให้เสียงเป็นขวัญข้าวแล้วสนุกดี อยากฝากแอนิเมชั่นเรื่องนี้ด้วย เพราะทีมงานทุกคนตั้งใจมาก ตั้งแต่ทีมเขียนบท ทีมทำแอนิเมชัน ทุกคนเป็นคนไทยหมดเลย ทำโดยคนไทย เพื่อมอบให้คนไทยได้ดูจริงๆ
ขอให้ทุกคนสนุกกับการชมของขวัญจากดิน และหวังว่าจะได้สิ่งดี ๆ จากเรื่องนี้ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันกันค่ะ”
ฟากหนุ่ม อรรถพร ผู้ให้เสียงเป็น พงษ์พ่อของขวัญข้าวก็เผยความในใจกับบทบาทนี้ว่า “ ของขวัญจากดิน เป็นแอนิเมชันที่ใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของเมืองไทยในความงดงามของเรื่อง และทางความรู้สึกมันอาจไม่ใช่แอนิเมชันที่โชว์ความหวือหวาอลังการ แต่มีความลุ่มลึกมีความรักของความเป็นคนไทยสูงมาก ซึ่งในเรื่องนี้ผมได้ให้เสียงเป็นพงษ์ เป็นพ่อขวัญข้าวเป็นคนหนึ่งที่พลัดถิ่นฐานบ้านเกิดมาเสี่ยงโชคในเมืองหลวงซึ่งมันคือวิถีชีวิตของคนที่อยู่ในกรุงเทพจริงๆ ทุกวันนี้มีคนกรุงเทพจริงๆน้อยมาก ที่เหลือคือคนที่มาเผชิญโชคและในที่สุดหลายคนจะได้รับบทเรียนอะไรก็แล้วแต่ต่างกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละคนแต่พงษ์เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมและกำลังจะบอกท่านผู้ชมว่า มันมีอะไรที่น่าสนใจกว่าอะไรที่มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่ากับชีวิตเป็นคำตอบของชีวิตได้มากกว่าการเผชิญโชคในเมืองใหญ่ต้องถามใจตัวเองให้ดีก่อน ว่าฉันจะกลับบ้านเกิดหรือฉันจะเผชิญโชคต่อไป คือในที่สุดแล้วคุณต้อง รู้ว่าที่ไหนให้ความอบอุ่นกับชีวิตที่สุด”
สุดท้ายกับหนุ่มอารมณ์ดี ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ที่ให้เสียงเป็น จอมเพื่อนสุดทโมนของขวัญข้าวได้เผยถึงความประทับใจในการทำงานครั้งนี้ว่า “จอม เป็นคาแรกเตอร์ที่ใกล้เคียงกับตัวจริงของผมจริงๆเป็นเด็กที่ค่อนข้างแก่นเซี้ยว คิดอะไรชั้นเดียว ซื่อๆในเรื่องนี้ผมต้องปรับเรื่องเนื้อเสียงให้ตรงกับอายุซึ่งจอมเค้าอายุน้อยกว่าผม นอกนั้นเราเหมือนกันมากตรงที่เป็นคนไม่คิดเยอะ เป็นคนตรงๆจอมถือเป็นตัวละครที่เป็นสีสันในเรื่องนี้ผมรู้สึกสนุกไปกับคาแรกเตอร์ที่ได้รับมาก ยิ่งได้อ่านบท ยิ่งได้ฝึกพูดเรายิ่งรู้สึกว่า บทเรื่องนี้มันมีคุณค่าสำหรับประเทศเรา ต่อสังคมเราทำให้รู้สึกยินดีมากที่ได้พากย์เป็นตัวจอมและอยากให้คุณผู้ชมได้ดูแอนิเมชัน “ของขวัญจากดิน”เพราะผมว่าสุดท้ายแล้ว คำที่คนพูดว่า ต้นทุนที่มีอยู่มันอยู่รอบตัวเรามันเป็นเรื่องจริงคุณสามารถนำสิ่งที่อยู่รอบตัวมาทำประโยชน์ให้กับชีวิตได้
ทำให้เกิดเม็ดเงินได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย”
ติดตามชมภาพยนตร์แอนิเมชัน “ของขวัญจากดิน” ได้ วันที่ 5ธันวาคมนี้ ทางสถานี โทรทัศน์ช่องต่าง ๆ โดยทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น ทีวี เป็นหนึ่งช่องทางที่ร่วมเผยแพร่โดยจะออกอากาศให้ได้ชมในเวลา 10.15 น. และ 23.15 น.และติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวได้ที่ Fackbook Fanpageของขวัญจากดิน