
ข่าวฉาวของ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ที่มาพร้อมคอนเสิร์ต มาย เนม อิส คิ้ม
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือหนาหูว่า เจนนิเฟอร์ คิ้ม ทะเลาะกับ ฉอดสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา แห่งเอไทม์ ทำให้ออกมาตั้งบริษัท ล้ำเส้น จำกัด เพื่อจัดถคอนเสิร์ตมาย เนม อิส คิ้ม ของตัวเอง ไม่พึ่งเอไทม์อีกต่อไป โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 พฤศจิกา
มั่นใจ-พร้อมในการจัดคอนเสิร์ตของตัวเองแค่ไหน
เป็นคนที่มีความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แต่สิ่งที่ไม่สามารถจะไปบอกได้คือความนิยมของคนดู ความรักกันระหว่างเรากับสื่อ คือถ้าเขาชอบคงต้องมาดูกัน ถามว่ามั่นใจใชว์ที่จะเกิดขึ้นไหม ตอบได้เลยว่ามั่นใจว่าจะต้องดี แต่ในส่วนอื่นๆคิดว่าแล้วแต่ความเมตตาของคนดู คนทำ
บริษัท ล้ำเส้น จำกัด มีใครร่วมหุ้นบ้าง
เพื่อนๆกันทั้งนั้น เป็นเพื่อนนอกวงการ (อย่างนี้จะได้เห็นกลับไปร่วมงานกับทางเอไทม์หรือเปล่า) ถ้าผู้ใหญ่เรียกใช้มา ยังไงก็แล้วแต่ ผู้ใหญ่ทางนั้นเป็นเจ้านายเราเสมอ ถ้าผู้ใหญ่เรียกก็จะรีบไป
เลย ถ้าคิวมันไม่ได้ชนกับสิ่งที่มีอยู่
มีข่าวว่าทะเลาะกับ “ฉอด” สายทิพย์ พอออกมาจัดคอนเสิร์ตเอง แถมออกมาตั้งบริษัทเองด้วยจะเหมือนเป็นการตอกย้ำข่าวลือว่าเป็นจริง
ภาพลักษ์มันมองออกมาเป็นประมาณนั้นจริงๆปฏิเสธไม่ได้ แต่เจ้านายที่ดีที่สุดในชีวิตของเรามีสองคน คือ พี่ต้น ลาวัลย์ กันชาติ ของเจเอสแอล พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ที่เอไทม์ จะทำอะไรก็แล้วแต่ก็จะต้องปรึกษาผู้ใหญ่ ก่อนจะเปิดบริษัทก็ไปตระเวนปรึกษาผู้ใหญ่ เพราะเรายืนอยู่ตรงนี้ได้ ด้วยความเมตตาเอ็นดูแล้วการให้อภัยของผู้ใหญ่ทั้งนั้นเลย มันเหมือนกับความมีพระคุณของพี่ๆ ที่ดูแลเราอยู่ ถึงตรงนี้พี่คิดว่าผู้ใหญ่เหล่านั้นก็ยังดูแลพี่อยู่ ไม่อย่างนั้นมายืนไม่ได้ตรงนี้ ตอนที่เข้าไปบอกว่าจะเปิดบริษัทพี่ฉอดยังบอกว่าจะทำอะไรก็ดูดีๆ นะ
คิดตั้งบริษัทเองนานหรือยัง
ไม่นาน ที่ตั้งบริษัทเพราะเราเกิดมากับอะไรที่มันไม่มั่นคงสักเรื่องหนึ่ง การที่เป็นนักร้องอย่างเก่งก็ได้ทำคอนเสิร์ตให้ตัวเองปีละหนหรือสอง สามปี หนหนึ่ง แล้วเศรษฐกิจแบบนี้ ดาราผันตัวมาเป็นผู้จัดกันเยอะ แต่นักร้องยังไม่มี ตัวเราเองยอมรับว่ามีงานอีเว้นท์เยอะ แต่เรารู้ว่าช่วงน้ำขึ้นมันเป็นอย่างนั้น แต่เราต้องคิดต่อไงว่าถ้าน้ำลงเรไม่ดัง ไม่มีชื่อเสียงแล้ว หากเราเปิดบริษัท เราก็ยังสามารถสร้างงานให้คนอื่นได้ภายใต้บริษัทเรา และทำเงินให้กับเราได้ ก็เลยลองมาจัดให้คอนเสิร์ตตัวเองก่อนถ้ามันดีมันก็จะขยายตัวมันต่อไป ถ้าถามว่าจะเป็นคู่แข่งกับต้นสังกัดศิลปินเขาหรือเปล่า ถ้าเรามองในแง่ของการทำมาหากิน การอยู่รอด มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็เป็นได้
ในคอนเสิร์ตครั้งแรกของตัวเองลงทุนไปเท่าไหร่
คอนเสิร์ตนี้มีมูลค่า 20 ล้าน ไม่รวมเพชรที่จะใส่ในคอนเสิร์ต (ชุดเครื่องเพชรของ ฟาดามัส ที่มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ประกอบด้วยสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู แหวน และไมค์ฝังเพชร 300 กะรัต รวมทั้งสิ้น 1000 กะรัต) เป็นเงินที่รวมๆ กันไปทั้งเงินของตัวเอง ทั้งสปอนเซอร์ด้วย ราคาตรงนี้รวมค่าชุดที่ต้องตัดใหม่เวลาขึ้นคอนเสิร์ต รวมถึงค่าลิขสิทธิ์เพลง และอื่นๆ จิปาถะ
ทำไมต้องนำเครื่องเพชรมาขึ้นเวทีด้วย
เพราะมันเป็นทางพีอาร์(ประชาสัมพันธ์) เรามีที่ปรึกษาหลายคนมาก ทั้งพีอาร์ นักร้อง และจากคนหลายๆ กลุ่ม อีกอย่างเป็นความฝันครั้งหนึ่งว่าจะได้ใส่เครื่องเพชรจริงๆ แล้วร้องเพลงคงเหมือนในหนังฝรั่ง แล้วเราก็แค่อยากให้คนดูได้เห็นอะไรที่เหมือนมูลค่าเพิ่ม เหมือนกับว่าเราเติมตรงนี้ลงไปแล้วมันรู้สึกคุ้ม ไม่ได้คิดว่าเป็นการดึงดูดให้คนมาดู เพราะคนที่มาดูเขาจะมาดูที่เสียงและการแสดงบนเวที
ความแตกต่างของคอนเสิร์ตในครั้งนี้และครั้งที่แล้ว
คิดว่าคอนเสิร์ตครั้งที่แล้วมันดีแล้ว ส่วนครั้งนี้คาดหวังว่าจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคนดู แต่คนดูจะเป็นผู้ตัดสินเองเมื่อดูเสร็จว่าดีจริงหรือเปล่า คอนเซ็ปต์ชื่อคอนเสิร์ต เท่าที่ผ่านมันเป็นการอิงชื่อคน อิงชื่อนิยาย แต่ใน “มายเนม อิส คิ้ม” มันไม่ล็อกตัวเรา สามารถเล่นอะไรก็ได้ ในแง่โชว์ เพลงส่วนใหญ่ต้องเรียบเรียงใหม่เพราะเราไม่ชอบต้นฉบับ คอนเสิร์ตครั้งนี้คงไม่มีเพลงที่ทำให้แจ้งเกิด เพราะเบื่อเหลือเกิน
ต้องลงมาดูแลเรื่องคอนเสิร์ตมากแค่ไหน
การทำงานครั้งนี้ยากมาก ต้องลงไปทำเองแทบทุกอย่าง ต้องไปพบสปอนเซอร์เอง ต้องไปคุยเอง และต้องตบตีกันเองกับทีมงานทั้งเรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม รวมถึงการพีอาร์และการเลือกแขกรับเชิญ มันเหนื่อย เหมือนเป็นทีมงานคนหนึ่ง
คอนเสริต์ครั้งนี้จะใช้เพลงของค่ายไหนมาร้อง เพราะเพลงของตัวเองที่เป็นที่รู้จักก็มีไม่มาก
ตัวเพลงจะต้องช่วยกันเลือก เพราะถ้าให้เราเลือกเองทัศนวิสัยในการเลือกจะแคบมาก เลยต้องถามหลายๆ คนว่าอยากฟังอะไร อยากเห็นอะไร ดังนั้นเพลงในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะมาจากทุกค่าย มายำกันเลย ส่วนค่าลิขสิทธิ์เพลงต้องจ่ายเป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้เพลงยังไม่เคลียร์ต้องให้ได้เพลงแน่ชัดก่อนแล้วเราก็ไปขอทีเดียว ไม่ใช่ขอทีละเพลง เหมือนซื้อปลีกมันจะแพงกว่าซื้อส่ง ส่วนโชว์แม้จะไม่ต่อเนื่องแต่ก็จะกลมกลืนเพราะมันมีตัวร้อย
คาดหวังกับคอนเสิร์ตครั้งนี้มากแค่ไหน
ขอแค่ไม่ขาดทุนมีกำไรนิดหน่อยก็หรูแล้ว ส่วนแขกรับเชิญนอกจากจะมี “เคน”ธีรเดช วงศ์พัวพันธุ์ “บีม” กวี ตันจรารักษ์ โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน “เสนาหอย” เกียรติศักดิ์ อุดมนาค พ่อดม ชวนชื่น ยังมีให้ประหลาดใจมากกว่านี้ต้องไปดูที่คอนเสิร์ต
คอนเสิร์ตครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ รอยัลพารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน เปิดจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับศูนย์ทางเลือก การเรียนรู้ สู่การพัฒนาและป้องกันชีวิตเด็ก