บันเทิง

'ก้อย'ปลาบปลื้ม ร.10 ทรงให้กำลังถือเป็นมงคลชีวิตของ'ตูน'

'ก้อย'ปลาบปลื้ม ร.10 ทรงให้กำลังถือเป็นมงคลชีวิตของ'ตูน'

16 พ.ย. 2560

"ก้อย" รัชวิน วงศ์วิริยะ เผย "ตูน" อาทิวราห์ คงมาลัย   ปลาบปลื้มรัชกาลที่ 10 ทรงให้กำลังใจถือเป็นมงคลชีวิต

         เรียกว่าเป็นการอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ตลอดระยะเวลาการวิ่ง 15 วันของ "ตูน"  อาทิวราห์ คงมาลัย  สำหรับสาว "ก้อย" รัชวิน วงศ์วิริยะ ล่าสุดสาว “ก้อย” เดินทางมาร่วมงานlet's Stay ถอดหน้ากาก เปิดหน้าเปะกับกิฟฟารีนที่ห้างดิเอ็มควอเทียร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกิจกรรมครั้งนี้ได้ความว่า    

\'ก้อย\'ปลาบปลื้ม ร.10 ทรงให้กำลังถือเป็นมงคลชีวิตของ\'ตูน\'

         "สิ่งที่เกิดตลอด 15 วันที่ผ่านมา มันเกินกว่าที่เราคิดไว้มาก เราไม่มีภาพยิ่งใหญ่ขนาดนี้ โอเคเราเคยผ่านการวิ่งจากกรุงเทพไปบางสะพาน   เราก็พอจะรู้ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ มันกว่าที่เราคิดไว้ ทุกอย่างมันเกินฝัน มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก  และยิ่งใหญ่มาก เกินกว่าคนๆ หนึ่งจะได้เจอ   (ถามว่าในแต่ละวันที่เราได้พบเจอ)มันเป็นรอยยิ้มและความสุข ประเมินค่าไม่ได้เลยมันดีมาก ถามว่าเหนื่อยไหม มันก็ต้องมีบ้างนะ เพราะว่าเราใช้ร่างกาย การทำสิ่งนี้เราไม่มีต้นทุนอะไรเลยนอกจากร่างกายของตัวเราเอง  เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่เขาต้องรักษา แต่ทุกครั้งที่เขาไปวิ่ง แล้วไปเจอเด็กตัวน้อยๆ เห็นคุณยาย เห็นพี่ๆ ที่แบบทำงาน ขับรถบรรทุกแล้วจอดเรานำเงินมาให้ มันเหมือนเป็นพลังงานที่ดีมากให้เรามีแรงขับเคลื่อน" 

\'ก้อย\'ปลาบปลื้ม ร.10 ทรงให้กำลังถือเป็นมงคลชีวิตของ\'ตูน\'

         ผู้สื่อถามว่า ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า “ตูน” มีการเจ็บหนักมากจากการวิ่ง ด้าน “ก้อย” รัชวินเผยว่า 

         "ไม่ได้เจ็บแบบรุนแรงที่ขั้นที่ว่าวิ่งต่อไม่ได้นะ คือคนที่วิ่งมา  15วันๆ ละ 50 กิโล  มันมีบ้างอยู่แล้วที่ร่างกายจะเหนื่อยล้าปวดตึง กล้ามเนื้ออ่อนล้า มันบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะวิ่งต่อไม่ได้  หรือว่ามีการฉีกขาอย่างรุนแรงที่หลายๆ คนเข้าใจนะ  ตอนนี้อาการ มีปวดข้อเท้าบ้าง  แต่ทุกวันที่พี่ตูนวิ่ง ในเซ็ทแต่ละเซ็ทจะมีคุณหมอค่อยทำกายภาพให้ตลอด และในวันที่หยุดก็จะชุดใหญ่เลย ดูแลรักษาให้ดีที่สุด ในเรื่องของร่างกายการทานอาหารโภชนาการ ครอบคลุมไปหมดทุกเรื่อง  (มีบอกเขาไหมว่าไม่ให้หักโหม)  ไม่เคยถามในจุดนั้นเลยนะ  ก้อยรู้ว่าตัวเขารู้ตัวเอง เขารู้ศักยภาพตัวเองว่าตอนนี้เขาไหว ถ้าเขาเจ็บเขาจะบอก เขาไม่ได้ฝืนตัวเองไม่ได้ดันทุรังทำไป15 วันที่ก้อยเห็น ก้อยว่าใจเขาแข็งแรงมาก  ใจเขาแข็งแรงกว่าขาเสียด้วยซ้ำเราเชื่อว่าเขายังไหวอยู่ เขามีพลังทุกวันๆ ทีี่เขาออกไป" 

         หลายคนกลัวว่า “ตูน” จะน็อคไปเลย 

         "ตัวเขาเองคุยกับหมอตลอดเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญ เหมือนที่บอกว่าใจเป็นนายกายเป็นบ่าว  บ้างที่ใจเราแข็งแรงกว่ากาย แต่ว่ากายเราอาจจะรับไม่ไหว ทุกวันที่เขาวิ่งเสร็จจะมีการตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด เพราะถ้ามันเกิดอะไรขึ้นคุณหมอก็จะทราบอย่างทันท่วงที รักษาให้เร็วที่สุด  ถามว่ามีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิิเศษไหม คือการวิ่งๆ หยุดๆ  ถ้าเปรียบร่างกายเป็นรถ เหมือนกับการขับรถที่ต้องเบรค แล้วต้องสตาร์ทใหม่  เครื่องมันจะต้องเพิ่มความเร็วก็จะมีความเสืื่อมบ้างนะ  แต่ก้อยมองว่าการเติมน้ำมันของพี่ตูน การได้เจอผู้คนระหว่างทาง มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ที่ผ่านมาทุกๆ คนให้ความร่วมมือ  แต่คนที่ไม่ให้ความร่วมมือก็คือพี่ตูน  คือเขาเต็มใจทำให้ทุกคนนะ ถึงเราจะขอความร่วมมือจากประชาชน หลายๆ จังหวัดก็น่ารัก มีการเปลี่ยนแปลง รอรับเป็นแถวไม่พุ่งตัวไปหา แต่พี่ตูนนั้นแหล่ะที่จะเข้าไปหาทุกๆ คน อันนี้เราห้ามเขาไม่ได้  ในวันที่เรารู้ว่าเขาเจ็บ แล้ว เราต้องไปรับบริจาคแทน เมืื่อเราเห็นคุณยาย เราต้องเข้าไปหา เราจึงเข้าใจความรู้สึกเขา ถ้าให้เขาวิ่งอย่างเดียวแล้วไม่ไปหาใครเลย มันจะเป็นการวิ่งที่แห้งแล้งมาก   เรื่องที่สำคัญนอกจากได้เงินแล้ว ยังเป็นเรื่องที่ได้ความสุขและสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน"  

\'ก้อย\'ปลาบปลื้ม ร.10 ทรงให้กำลังถือเป็นมงคลชีวิตของ\'ตูน\'

         ตอนนี้หลายคนยกให้ “ตูน”เป็นฮีโร่ไปแล้ว เรารู้สึกอย่างไรบ้าง 

          "ความรู้สึกของเรา เรายังคุยกันอยู่เลยว่ามันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร แต่ก้อยไม่แปลกใจที่หลายคนรักเขาและศรัทธาในตัวเขา  เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แต่เขาทำให้เห็น (เมื่อผู้สื่อข่าวถามประเด็นดราม่าต่างๆที่เกิดขึ้น)   ก้อยคิดว่าคงเป็นการโคตคำพูดคนอื่นแล้วมาใส่ภาพเขา เขาอาจจะไม่สบายใจเพราะไม่ได้มาจากปากของเขาโดยตรง เขาก็เลยอยากจะชี้แจงตอนนี้เราก็ไม่ได้เจอพี่ๆสื่อมวลชนสักเท่าไหร่ ตรงนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในช่องทางของเขาที่จะชี้แจงเนรื่องนี้ได้ คือถ้าใครอานข้อความก็น่าจะรู้ว่าไม่ได้มาจากปากเขา พอเขาเห็นเขาก็บอกงว่าเขาไม่ได้พูด. เขาก็เลยใช้พื้นที่ส่วนตัวในอินสตาแกรมชี้แจงไป ซึ่งแค่นั้นก็จบแล้ว (รัชกาลที่10 ทรงให้กำลังใจ) อันนี้เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตเลยสำหรับทุกคนในทีมงานก้าวคนละก้าว ทั้งตัวของพี่ตูน ทั้งตัวก้อยและครอบครัวของพี่ตูนและทีมงานทุกคน คือมันยิ่งใหญ่มาก (ท่าก็ให้ราชเลขานุการมาเป็นตัวแทนพระองค์ โดยมีกระแสรับสั่งว่าสิ่งที่พวกเราได้ทำอยู่ในพระเนตรพระกรรณตลอดเวลาท่านทรงรับรู้และแสดงให้ความห่วงใย ให้คำอวยพร ก้อยต้องขอโทษด้วยก้อยใช้คำราชาศัพท์ไม่เป็น ไม่ค่อยถูกต้อง เหมอนท่านมีรับสั่งมาให้พี่ตูนมีสุขภาพที่แข็งแรง มีพลังทำภารกิจนี้ให้สำเร็จทำให้เรามีกำลังใจมากและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ที่สุดแล้วในชีวิตนี้(มีคนแซวว่าวิ่งเสร็จแล้วจะมีงานแต่งงาน)ตอบไม่ได้เลยเรื่องนี้ ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยจริงๆขอโฟกสสิ่งที่ทำวันนี้ให้สำเร็จไปก่อน". ก้อยกล่าวปิดท้าย