บันเทิง

ศิลป์แห่งแผ่นดิน - ทรงกลด ทองคำ คนทำขลุ่ย

ศิลป์แห่งแผ่นดิน - ทรงกลด ทองคำ คนทำขลุ่ย

22 ก.ย. 2552

ผมเป็นคนรักขลุ่ย รักมาก เป็นเครื่องดนตรีชนิดแรกที่ผมหัดเล่น และ เล่นได้ในเวลาชั่วข้ามคืน ตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ “เล่นได้” ก็คือเป่าเป็นเพลงได้ ขลุ่ยไม้ไผ่มีลวดลายสวยงาม ซื้อจากร้านค้าในงานวัด

 “ขลุ่ยไทย” จำแนกตามเสียง มี 3 ชนิด เสียงเล็ก เรียกขลุ่ยหลีบ เสียงกลางคือ “เพียงออ” เสียงทุ้มใหญ่ เรียก “ขลุ่ยอู้” ผมเป็นเพียงคนรักขลุ่ย เป่าขลุ่ยก็เพราะมันเป็นเครื่องดนตรีที่หยิบง่าย พกพาสะดวก ฝีมือ (ฝีปาก) อยู่ในระดับมือสมัครเล่น เป่าขลุ่ยมาหลายสิบปี เพิ่งจะได้พบ “ขลุ่ยคู่ใจ” เหมือนมือกระบี่ได้พบกระบี่เทพประทานประมาณนั้น

 ทรงกลด ทองคำ คือนามกระทาชาย (หนุ่มใหญ่) นายหนึ่ง ที่ทำขลุ่ย “ไม้เขร็ง” เลางามให้ผม (ผมอาจสะกดคำว่า “เขร็ง” ไม่ถูกนะครับ คงต้องสอบถามเอากับนักพฤกษศาสตร์ อาจจะเป็น “เขลง” ก็ได้)

 ทรงกลด ทองคำ ในวัยหนุ่ม เคย (ได้ทุน) ศึกษาค้นคว้าเรื่อง เครื่องดนตรีพื้นบ้านโบราณภาคเหนือ และเคยเรียนวิชาทำขลุ่ย กับ จรินทร์ กลิ่นบุปผา ช่างทำขลุ่ยชั้นครูของประเทศ ย่านบางไส้ไก่ ละแวก ว.ค.บ้านสมเด็จฝั่งธนบุรี ซึ่งตระกูลกลิ่นบุปผา เป็นชาวลาวอพยพมา ลุงจรินทร์ (เสียชีวิตแล้ว) ยังมีความสามารถด้านงานช่างทองอีกด้วย

 ทรงกลด เทียวไปเทียวมาเรียนรู้วิชาการทำขลุ่ยอย่างละเอียดลึกซึ้ง หลังจากที่เที่ยวตระเวนหาขลุ่ยจากแหล่งต่างๆ แต่ก็ไม่พบขลุ่ยที่ตนพอใจ เมื่อเรียนรู้จนเกิดความมั่นใจ เขาจึงลงมือทำขลุ่ยเลาแรก เมื่อปี 2531 และมุ่งมั่นทำขลุ่ยมาเรื่อยๆ โดยช่วงแรกฝากขายที่ศึกษาภัณฑ์ เมื่อฝีมือเริ่มแก่กล้า มีบริษัทนำขลุ่ยของเขาไปวางจำหน่าย ตามห้างสรรพสินค้า และที่ร้านนารายณ์ภัณฑ์

 ช่วงที่เขาย้ายไปอยู่นครศรีธรรมราช ก็ได้พัฒนาฝีมือ ศึกษาเรื่องไม้ชนิดต่างๆ พบความแตกต่างของไม้แต่ละชนิด ที่ให้คุณภาพเสียงที่ต่างกัน รวมทั้งพัฒนาเครื่องมือการทำขลุ่ย มีเครื่องกลึง เครื่องเจาะ และพบวิธีการทำขลุ่ย ให้ได้ระดับเสียงบันไดเสียงเทียบเคียงกับดนตรีสากล เขาทำทั้งขลุ่ยหลีบขนาดเล็ก เสียงแหลม และขลุ่ยอู้ เลาใหญ่ ที่ให้เสียงต่ำทุ้ม เขาทดลองใช้ไม้หลากหลายชนิด ของแต่ละท้องถิ่น เช่น ไม้ขะเจ๊าะ (ขออภัยถ้าสะกดผิด) ของภาคเหนือ ไม้พยุง ไม้ประดู่แดง ไม้งิ้วดำ กระทั่งไม้มังคุด หรือแม้แต่ไม้มะพร้าว เขาก็เคยทำมาแล้ว

 ผมชอบสะสมขลุ่ย มีขลุ่ยอยู่ในครอบครองหลายเลา เฉพาะ “ขลุ่ยทรงกลด” ผมมีอยู่ 8 เลา เมื่อเขาทำขลุ่ยขึ้นมาได้เลาหนึ่ง เขาจะให้คะแนนคุณภาพขลุ่ยเลานั้นว่าอยู่ในระดับใด ระดับ (คุณภาพ) สูงสุดคือระดับ 7 ซึ่งเป็นสุดยอดขลุ่ยสำหรับมืออาชีพ ชั่วชีวิตของเขาทำขลุ่ยมาแล้วมากกว่า 3,000 เลา (เขาเกิดปี พ.ศ. 2509) เขาบอกว่า ทำได้ถึงระดับ 7 อยู่ประมาณ 100 กว่าเลา

 ไม้ที่ให้ขลุ่ยมีคุณภาพเสียงถึงระดับสุดยอด ได้แก่ ไม้ปุ่มมะค่า ไม้พยุง ไม้ชิงชัน เป็นต้น ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับอายุของไม้ ความแก่อ่อน ส่วนที่ดีที่สุดคือ ช่วงระยะ 1 ฟุต จากโคนต้น ขลุ่ยที่ดีจะมีน้ำหนัก เนื้อละเอียดแน่น แข็ง เคาะดังเหมือนเคาะแก้ว ขลุ่ยที่เขาทำจะอยู่ในระหว่าง ระดับ 5-7 ตาม “มาตรฐานทรงกลด”

 ทรงกลด ทองคำ ปัจจุบัน อยู่ ณ บ้านเลขที่ 6/2 หมู่ 1 ตำบลบ้านแม อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ รับทำขลุ่ยตามสั่ง ผมเองประทับใจ “ขลุ่ยทรงกลด” มาก เห็นในความรักที่เขามีต่อขลุ่ย เขาไม่ใช่พ่อค้า หรือ คนทำขลุ่ยแบบอุตสาหกรรม แต่เขาทำขลุ่ยด้วยความอุตสาหะ ด้วยความรัก ด้วยชีวิตจิตใจ แม้แต่ขลุ่ยที่เขาทำตามสั่งของตลาด เขายังรักษามาตรฐาน ระดับ 5 ไว้อย่างเหนียวแน่น

 ขลุ่ยเลาหนึ่งที่ผมสั่งให้เขาทำ เป็นขลุ่ยเพียงออ “ไม้ขะเจ๊าะ” ที่เนื้อไม้แกร่ง แข็ง แก่จัดจนเสี้ยนเป็นสีเงิน ให้เสียงคมชัดกังวาน แบบ “เสียงแก้ว” เขาจัดระดับ คุณภาพไว้ระดับ 6 แต่ผมให้ระดับ 7 

 ผมอยากเขียนถึงเขา “ทรงกลด ทองคำ” คนทำขลุ่ย ผมอยากให้คนรักขลุ่ยทุกท่านรู้จักเขาคนนี้

 เขาเป็นศิษย์มีครู มีหลักการ มีหลักวิชา มีฝีมือ มีการพัฒนา มีหัวจิตหัวใจ มีความรักในสิ่งที่ตนทำ อยู่บ้านผมเป่าขลุ่ยทุกวัน  เป่าทุกเลาแล้วก็เช็ดทำความสะอาดก่อนเก็บ เวลาเดินทางก็พกขลุ่ยติดตัวไป 2-3 เลาเสมอ มีโอกาสเมื่อไรก็จะเป่าขลุ่ยให้คนฟัง

 เป่าขลุ่ยทรงกลด แล้วรู้สึกมั่นใจ เราไปด้วยกันได้ดี ลงเสียงต่ำก็ไม่แผ่ว ขึ้นเสียงสูงก็ไม่หลง เสียงตรงโน้ต ไม่เพี้ยน ไม่ตกบันได มีทั้ง key C key D key F (สากล) ที่ทั้งเสียงมาตรฐาน ดนตรีไทย ผมกำลังคิดจะให้เขาทำขลุ่ยอู้เลาใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาขนาดกระบอกข้าวหลามจะได้ไหม ผมคิดเล่นๆ  แต่ก็หวังว่าเขาจะทำขลุ่ยเสียงต่ำๆ ลึกสุดก้นเหวได้

 คนรักขลุ่ยลองโทรคุยกับเขาสิครับ ทรงกลด ทองคำ คนทำขลุ่ย 08-9469-7946

"ศักดิ์สิริ มีสมสืบ"