บันเทิง

ถอดรหัสชีวิต ‘ปาล์มมี่’ กับ ‘จุดพีค’ ที่ไม่เคยหลง ‘วูบวาบ’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โชคชะตาฟ้าลิขิต" ถอดรหัสวิธีคิดและตัวตนของไอดอลสุดติสต์ "ปาล์มมี่" อีฟ ปานเจริญ กับจุด "พีค" ที่ไม่เคยหลง "วูบวาบ"

     ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การร้อง การแต่งตัว การไม่ชอบใส่รองเท้าขึ้นเวทีคอนเสิร์ต หรือแม้แต่ท่าเต้นตามฟีล ที่ไม่ได้มีการออกแบบมาก่อน สเต็ปการเต้นแต่ละครั้งคือ “สเต็ปมี่” หรือ จังหวะของ “ปาล์มมี่” อีฟ ปานเจริญ เท่านั้น การใช้ชีวิตในฐานะศิลปิน บนเส้นทางสายดนตรีมากว่า 16 ปี เบื้องหน้าปาล์มมี่คอยให้ความสุขแก่แฟนเพลง แต่เบื้องหลังชีวิตส่วนตัวเธอขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคน “เพอร์เฟกชั่นนิส” หรือ “รักในความสมบูรณ์แบบ” กับเรื่องของงานมาก รวมถึงมีโลกส่วนตัวที่เป็นกำแพง ทำให้คนที่มองเข้าไปหาเธอจะเห็นแค่ภาพของ “ความติสต์” วันนี้ “บันเทิง คม ชัด ลึก” มีโอกาสได้พูดคุยกับศิลปินหญิงคนนี้ ที่จะทำให้หลายคน “รัก” ในตัวเธอ และรักในความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

     @ปล่อยเอ็มวีวันเดียว “ล้านวิว”  

“ปาล์มมี่” รู้สึกยังไงบ้าง ที่กระแสตอบรับเพลง “นวด” ดี ปล่อยเพลงวันเดียวทำยอด 1 ล้านวิว

ถือว่ามี่โชคดีมาก แต่ถามว่ามี่รู้สึกยังไง คือคนอื่นเขาได้มากกว่านี้นะ (หัวเราะ) แต่เรื่องยอดวิวเป็นเรื่องใหม่ของมี่มาก เพราะปกติมี่เป็นคนไม่เคยเช็กอะไรเลยในโซเชียล และในยุคของมี่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มี

การทำเพลงในยุคของปาล์มมี่ กับการทำงานในยุคโซเชียล ต่างกันยังไง

มันต่างนะ เพราะเมื่อก่อนเราไม่ได้มาสนใจยอดวิวกัน เราแค่ปล่อยเพลง และทำหน้าที่ไปแบบเงียบๆ ครั้งนี้เหมือนทุกอย่างจะครึกครื้นมากขึ้น ในโซเชียลมีเดียจะคึกคัก รวมถึงในเฟซบุ๊กแฟนเพจของมี่ด้วย ที่คึกคักมากกว่าปกติ (ยิ้ม) เมื่อก่อนเวลาปล่อยเพลงออกไปฟีดแบ็กต่างๆ จะกลับมาทางค่าย แต่ทุกวันนี้คนจะเข้าถึงตัวมี่ได้ง่ายขึ้น ผ่านทางโซเชียลมีเดีย

 

ถอดรหัสชีวิต ‘ปาล์มมี่’  กับ ‘จุดพีค’ ที่ไม่เคยหลง ‘วูบวาบ’

 

ช่วงที่ไม่ต่อสัญญา ปาล์มมี่ตัดสินใจในตอนที่กำลังพีคเลย

มี่ไม่ได้ทำงานอย่างเห็นแก่ตัว ที่คิดแค่ว่าเราต้องมาตักตวงอะไร มี่คิดว่าความพอใจกับความรู้สึกของเรา สำคัญมากที่สุด ว่า เราอยากทำอะไร ถ้าการต่อสัญญา แล้วไม่มีประโยชน์ เราจะทำไปเพื่ออะไร เพราะมี่ต้องทำเพลงจากข้างนอกอยู่ดี แล้วค่ายแกรมมี่เหมือนเป็นช่องทางให้เราเอาเพลงมาปล่อยสู่สาธารณชน ช่วงนั้นมี่คิดว่า พอเราไปพักเงียบๆ ทำงานไปเรื่อยๆ เรามีความสุขดี โดยที่ไม่ต้องมีสัญญามาค้ำเราเอาไว้ว่าเราต้องเร่งทำงานแล้วนะ ซึ่งมันไม่แฟร์กับค่ายด้วย ที่เซ็นสัญญาแล้วเราไม่มีงานมาให้เขา เราต่างคนต่างไปทำเรื่องของตัวเองก่อนดีกว่า  

การกลับมาทำงานกับ “แกรมมี่” ครั้งนี้ แสดงว่าปาล์มมี่มีสต็อกเพลงพร้อมแล้ว

(หัวเราะ) ใช่ มี่มีสต็อกเพลงอยู่ประมาณหนึ่ง ที่มี่จะทยอยปล่อย อัลบั้มชุดนี้ยากกว่าชุดก่อน เพราะมี่ไม่มีโปรดิวเซอร์มาคอยดูภาพรวมให้ เราจะเป็นคนดูเอง เพราะฉะนั้นเราจะเป็นคนทำตั้งแต่เรื่อง เนื้อเพลง ทำนองเพลง อัดเสียงเอง ถ้าต้องมีการส่งไปอัดเสียงที่เมืองนอก เราต้องดูเอง บางเรื่องมี่ไม่ได้ถนัดหรือเก่งมากพอ พอทดลองทำไปแล้วพลาด เลยต้องใช้เวลามากเป็นพิเศษในการทำ 

ในฐานะคนทำเพลง ด้วยเซนส์ปาล์มมี่ ถ้าเพลงไหนใช่จะมีความรู้สึกยังไง

ฟังแล้วน้ำตาร่วง หรืออย่างเพลง “นวด” เวลาที่มี่ฟังใส่หูฟัง นั่งฟังคนเดียว แล้วมันรู้สึก “จั๊กจี๋” แบบโอ้ว..ว อยากให้คนฟังแล้วอะ และเพลงนี้มี่ส่งไปอัดเสียงกลองที่อเมริกา มือกลองที่เล่นให้ จอห์น เมเยอร์ (Aaron Sterling) เป็นคนตีกลองให้มี่ ซึ่งพอเรามาเปิดฟัง ตอนที่เพลงทำเสร็จแล้ว น้ำตาก็ไหลนะ บางฟีลเราอธิบายไม่ถูก แต่เรารู้ว่ามันใช่ 

 

ถอดรหัสชีวิต ‘ปาล์มมี่’  กับ ‘จุดพีค’ ที่ไม่เคยหลง ‘วูบวาบ’

 

ทุกครั้งที่พลาด แรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้ลุกขึ้นมาทำใหม่ 

ก็สู้ เราต้องเอาชนะตัวเอง เอาชนะความผิดพลาด ถ้าเราล้ม แล้วให้มี่มาบอกว่า เราไม่เอาแล้ว แต่คนอื่นที่ทำงานกับเรา เขาไม่ได้ทำผิดด้วย คนเขียนเนื้อก็ไม่ได้ทำผิด ถ้ามี่หยุด ทุกคนจะเซ็ง มีหลายเพลงที่เราพยายามทำ แต่มันไม่เสร็จสักที ไม่ถูกปล่อยออกมา อย่างเวลามี่มีเดโม่ เพลงมี่จะส่งให้พี่บอย (บอย โกสิยพงษ์) ฟัง แล้วพี่บอยจะบอกว่า เพลงนี้ดีมากเลย ทำไมมี่ไม่ปล่อยออกมาสักที แต่มี่เป็นคนที่ถ้าไม่พร้อม มี่ไม่อยากปล่อยออกมา 

@ชีวิตส่วนตัว

ช่วงที่ไม่ได้มีเพลงปล่อยออกมา ปาล์มมี่ทำอะไร

ช่วงที่ผ่านมา มี่เล่นคอนเสิร์ตอยู่ตลอดนะ เล่นตามงานจ้าง เป็นเฟสติวัล งานผับเราไม่ได้เล่นเลย มี่เคยหยุดทำงานไป 3 ปี ไม่เล่นคอนเสิร์ตเลยประมาณ 2 ปี ช่วงเวลานั้น เหมือนเรายังเด็ก แล้วเราเบื่อ เลยหยุดไปท่องเที่ยวอย่างเดียวเลย 1 ปี ทำให้มี่เรียนรู้ว่า การที่เราหยุดไปโดยไม่เล่นคอนเสิร์ตเลย พอเรากลับมาอีกครั้งการที่ต้องมาจูนกับวงให้เข้าขากันใหม่ มันยากมาก มี่เลยคิดว่าจะไม่หยุดเล่นคอนเสิร์ตอีกแล้ว แต่มี่จะทำเพลงไปด้วย และข้อดีของมันคือ การที่มี่มีเพลง “นวด” ออกมา

การรักษาตัวตนของปาล์มมี่ในยุคดิจิทัล ยากไหม

สำหรับมี่ไม่ยาก แต่สำหรับคนอื่นคงรำคาญมี่ (หัวเราะ) หลายคนจะคิดว่า ทำไมมี่ไม่ปรับตัวเลย ตอนนี้ยุคโซเชียลแล้ว ทำไมมี่ไม่ไลฟ์ สำหรับมิตรรัก (แฟนคลับ) จะเรียกร้อง แต่มี่ยังทำใจไม่ได้ ที่เราต้องไลฟ์แล้วมานั่งพูดกับจอ (หัวเราะ) มี่คิดว่าถ้าเป็นแบบนั้น เรานัดมีทติ้งเจอกันตัวต่อตัว มานั่งมองตากันดีกว่า มี่จะเป็นสายโบราณ และมี่เพิ่งมาพูดเก่งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เองนะ เพราะเรารู้สึกว่าต้องสื่อสารกับคนเยอะขึ้น พยายามพูดให้รู้เรื่อง

เหมือนปาล์มมี่เข้าใจโลกมากขึ้น กับสิ่งที่โลกเปลี่ยนไป

เข้าใจ เพราะแม่มี่ยังเข้าใจเลย เพราะฉะนั้นมี่ต้องเข้าใจ (หัวเราะ)

แม่ของปาล์มมี่เป็นผู้หญิงสไตล์ ปาล์มมี่เลยใช่ไหม

โอ้! ยิ่งกว่ามี่อีก แม่เป็นคนไม่สื่อสารอะไรเลย ชอบปลูกผักอยู่กับบ้าน เราจะติดต่อกัน นานๆ ที ไม่ได้คุยกันทุกวัน เพราะแม่มี่อยู่ที่ออสเตรเลีย บางทีแม่คิดถึงมี่แม่จะส่งก้อนหินใส่กล่องมาหามี่ พอเราเปิดมาก็คิดนะว่า ทำไมต้องส่งหินมา แต่เราจะเข้าใจว่า เขาอยากให้เราเห็นในสิ่งที่เขาเห็น เพราะบ้านของแม่มี่จะอยู่ติดชายหาดริมทะเล และจะมีหินแบบนี้ ที่มันเบาแต่มันสวย หรือแม่มี่จะเก็บเปลือกหอยมานั่งประดิษฐ์การ์ด แล้วเขียนส่งให้มี่แบบสวีทๆ (ยิ้ม) 

มีอยู่อย่างหนึ่ง ที่มี่ช็อกมากเลย คือแม่มี่ส่ง “คุกกี้” ที่ทานแล้ว ในลักษณะที่ “เละ” แล้วใส่กล่องส่งมาให้ แวบแรกมี่งงว่า นี่คืออะไร แต่แม่มี่บอกว่า อยากให้มี่รู้ว่า วินาทีที่เขาชิมคุกกี้อันนี้มันอร่อยมาก และแม่มี่อยากให้เราชิมมาก (หัวเราะ) มี่ก็บอกว่า คราวหลังแม่บอกมี่แล้วให้มี่ซื้อใหม่ก็ได้ แต่เขาบอกว่า อยากให้เป็นอันที่เขาชิม โอ้ว (ยิ้ม)

แสดงว่า แม่ ของ ปาล์มมี่ เป็นผู้หญิงอ่อนไหว ลึกซึ้งกับเรื่องของความรู้สึกมาก

ใช่ เขาสนใจทุกความรู้สึก ทุกโมเมนท์ แม่สามารถนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น และดูพระอาทิตย์ตกได้ทั้งวัน แต่บางทีตัวมี่จะอยู่เฉยๆ ไม่ค่อยได้ มี่ไม่สามารถใจเย็นมานั่งรอทุกวินาที แต่เขารอเลย แม่จะนั่งเซตโต๊ะ ตั้งอาหารรอดูพระอาทิตย์ตก  และแม่มี่สามารถเปลี่ยนทุกอย่างที่ดูเละๆ ให้มันสวยขึ้นมาได้ เป็นคนโรแมนติกมาก

ด้วยความที่แม่เป็นคนไม่ค่อยสื่อสาร เวลาที่ปาล์มมี่มีเรื่องอะไรจะปรึกษาแม่ยังไง

มี่ไม่ค่อยปรึกษาแม่เรื่องอะไรเลยนะ น้อยมาก มี่จะไม่ให้แม่มาคิดเรื่องงานเราเลย เพราะแม่จะไม่เข้าใจในสายงานของมี่ อย่างวันก่อนมี่ลงรูปถ่ายกับพี่นิค (วิเชียร ฤกษ์ไพศาล) จีนี่ เรคคอร์ดส แม่มี่ส่งข้อความมาบอกว่า “ยินดีด้วยนะยู ดีใจด้วยที่ย้ายค่าย แล้วจีนี่คือที่ไหนเหรอ” ซึ่งจริงๆ คือแกรมมี่ค่ายเดิม (หัวเราะ) คือแม่มี่จะไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่ได้อยู่เมืองไทย เขาไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่อายุ 18 

 

ถอดรหัสชีวิต ‘ปาล์มมี่’  กับ ‘จุดพีค’ ที่ไม่เคยหลง ‘วูบวาบ’

 

ปาล์มมี่อยากกลับไปอยู่กับแม่ที่ออสเตรเลียไหม

ลึกๆ มี่อยากไปเหมือนกันนะ เพราะเวลามี่กลับไปเยี่ยมบ้านที่ออสเตรเลีย แม่มี่จะมีบ้านอยู่ในภูเขา ขับรถไปนิดหนึ่งก็จะเป็นตลาดนัดออแกนิก คนจะฮิปปี้ๆ คนจะไม่ค่อยมาพูดเรื่องของใคร มีอาหารสุขภาพกิน ทุกคนปลูกอะไรกินเอง แล้วเอามาแบ่งปันกัน ใช้ชีวิตช้าๆ บางทีมี่รู้สึกว่า เราอยู่ในเมืองกรุง สุขภาพมันเสีย เราไม่ได้กินอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน บางทีเรารีบๆ ในขณะที่แม่มี่กินผักทุกมื้อ ทุกวันนี้แม่ยังใช้ชีวิตแบบนั้น เขายังส่งรูปแปลงผักที่แม่มี่ปลูกมาให้มี่ดูเลย 

@โชคชะตาลิขิต

ถ้าตอนนี้ปาล์มมี่ไม่ได้เป็นนักร้องจะทำอะไร

(นิ่งคิดนาน) ไม่รู้เหมือนกัน คิดไม่ออกเลย แต่เคยคิดอยากเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ เพราะมี่เป็นคนชอบแต่งบ้าน  แต่ถ้าไปอยู่กับแม่คงทำอาหารออแกนิกขาย เพราะแม่มี่ถนัดทำอาหาร พวกเครื่องแกง แต่จริงๆ นึกไม่ออกเหมือนกัน เพราะมี่อยู่กับเพลงมาครึ่งชีวิตแล้ว ซึ่งมี่ก็บอกกับแม่ว่า เดี๋ยวจบอัลบั้มชุดนี้มี่จะเลิกแล้ว แต่มี่พูดแบบนี้มาตั้งแต่อัลบั้มแรก (หัวเราะ) แม่มี่ก็ถามว่า เมื่อไหร่จะมาสักทีเนี่ย 

มองว่าทุกอย่างเหมือนเป็นโชคชะตาไหม เพราะทุกครั้งที่เราอยากเลิก แต่จะมีบางอย่างดึงเราเข้าไปอีก

เขาสาปแช่งให้เรามาเป็นอย่างนี้ใช่มั้ย (หัวเราะ) มี่คิดว่า มันเป็นโชคชะตานะ จริงๆ เพราะเรื่องบางอย่างไม่ควรจะเกิด แต่มันก็เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่มี่ต้องตัดสินใจที่จะอยู่ที่ไทยหรือออสเตรเลีย เพราะตอนนั้นมี่ต้องเรียนหนังสือ จนทำให้เราต้องอยู่ในวงจรนี้ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่บางทีมี่ไม่ได้คิดอยากจะอยู่นานขนาดนี้ เราคิดว่าพอแล้ว ใช้ชีวิตธรรมดาดีกว่า

การที่เราเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง อะไรที่ทำให้เปิดใจให้คนอื่น 

ก็ไม่ทุกคนนะ แล้วแต่คน ไม่ได้เป็นกับทุกคน เราต้องดูรวมๆ ก่อน และเราเลือกจะอยู่ในโซนที่เรารู้สึกดีกับเพื่อนที่เราสบายใจ มีโซนปลอดภัยของตัวเอง ซึ่งมี่ว่าทุกคนต้องมีนะ มันสำคัญมาก ซึ่งเซฟโซนของมี่คืออยู่ในที่ที่เราสบายใจ เวลาทำงานเยอะๆ กลับบ้านมามี่แค่ถอดเสื้อผ้า ล้างหน้า และทำเพลงต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่มี่ต้องโฟกัส คือเรื่องจริงที่มี่ต้องรับผิดชอบ ส่วนที่เหลือใครจะตัดสินยังไงมี่ไม่อยากไปตามเช็ก

 

ถอดรหัสชีวิต ‘ปาล์มมี่’  กับ ‘จุดพีค’ ที่ไม่เคยหลง ‘วูบวาบ’

 

เวลาที่ดังมากๆ ปาล์มมี่มีวิธีจัดการกับสิ่งที่เข้ามายังไง 

มี่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ เพราะมี่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นเด็กปกติมาก ยายก็เลี้ยงมาให้ถ่อมตัว ไม่เคยเหลิง จะไม่เคยเห็นมี่รู้สึกมากมายไปกับอะไรที่ “พีค” ขนาดนั้น มี่รู้สึกว่าพระเจ้ามอบสิ่งนี้มาให้ตรงกับงานที่มี่ทำ คือสภาพจิตใจที่คงที่ของมี่ ถ้ามี่เป็นคน “วูบวาบ” ไปตามสิ่งที่มี่ได้รับจากสังคม มี่คง “หลุดโลก” ไปนานแล้ว  มี่จะคิดถึงเรื่องนี้บ่อยๆ ว่า มี่โชคดีมากที่มี่เกิดมา แล้วเจอยายที่เลี้ยงมี่มา มี่โชคดีที่มี่สามารถสื่อสารกับคนที่ลำบากได้ง่ายมาก และทำให้มี่เป็นคนถ่อมตัว มี่โชคดี ที่มี่เป็นคนรู้สึกถึงสิ่งรอบข้าง แล้วเอามาปรับให้เข้ากับชีวิตตัวเอง ใช้ชีวิตง่ายๆ มี่สามารถตัดทุกอย่างออกหมดได้เลย มี่ไม่ต้องการของแพง ไม่ต้องการแบรนด์เนม ไม่ต้องการสังคมหรูหรา อวดของกัน มี่ไม่ต้องการเวลาของใครมากๆ ทุกอย่างเป็นปกติธรรมดามาก

เข้าใจโลกมากขึ้น 

มี่เข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วยว่า เราเป็นคนเครียดคนหนึ่ง และมิตรรัก (แฟนคลับ) จะกลัว แต่มิตรรักบางคนบอกว่าพี่มี่ไม่แฟร์เลย เมื่อก่อนเวลาที่หนูมาหาพี่มี่ พี่มี่จะไล่กลับบ้าน บอกว่า “มาทำไม กลับบ้านเลย ทำไมต้องมาเฝ้าเรา ไปเฝ้าพ่อแม่ดีกว่า” คือมี่พูดอย่างนี้เลย เขาก็จะร้องไห้กลับไป เราจะไม่ชอบให้ใครมานั่งเสียเวลารอเรา พอตั้งแต่มี่ออกเพลง “คิดมาก” แฟนคลับรุ่นแรกจะกลับมาหา และมีแฟนๆ รุ่นใหม่เข้ามา แต่มี่เปลี่ยนไปแล้วไง แฟนคลับรุ่นแรกจะบอกว่า “ไม่เห็นแฟร์เลย พวกเขาเหมือนอยู่ในยุคมืด” พวกแฟนคลับรุ่นเก่าก็จะบอกแฟนๆ รุ่นใหม่เลยว่า “นี่คือพี่มี่แบบใหม่เลย” (หัวเราะ)

จริงๆ แล้วปาล์มมี่เป็นคนแคร์ความรู้สึกของทุกคน

ใช่ คือเราไม่ชอบให้ใครทำอะไรไร้สาระเท่านั้นเอง หรือมานั่งใช้เวลาทั้งวันมารอเรา ให้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า และแฟนคลับทุกคนจะรู้ อย่างไปตามคอนเสิร์ตของมี่ ถ้าในหนึ่งอาทิตย์มี่เล่น 4 วัน มี่จะบอกแฟนๆ ว่า อย่าให้เราเห็นหน้าเกินคนละ 1 วัน ถ้ามามากกว่านั้น เราจะโกรธและไม่คุยด้วย อันนี้คือพันธสัญญาของเรา ทุกคนจะทราบดี เราอยากให้เขาไปตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเราประสบความสำเร็จอยู่ตรงนี้ แล้วพวกเขาละ เราไม่อยากให้เขาเสียเวลาในเรื่องที่พวกเขาต้องทำ

ปาล์มมี่อยากตั้งเป้าอะไรต่อ

เป้าของมี่คืออยากรักษาสุขภาพของเรา กับเรื่องงานของตัวเอง เอาจริงๆ มี่เป็นคนไม่ออกกำลังกายเลยนะ (หัวเราะ) ไม่อยากพูดแบบนี้เลย เดี๋ยวคนจะหาว่าเว่อร์ แต่มี่จะเป็นคนเลือกกินนิดหนึ่ง

 

ถอดรหัสชีวิต ‘ปาล์มมี่’  กับ ‘จุดพีค’ ที่ไม่เคยหลง ‘วูบวาบ’

 

@มุมมองความรักฉบับ “ปาล์มมี่”

มุมมองความรักของปาล์มมี่ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

ก็ยังเป็นมุมเดิมๆ โฟกัสที่เดิม ความรักของมี่คงที่ ไม่ได้หวือหวา ไม่ได้วูบวาบ เป็นเหมือนเพื่อนที่รักกันมานาน ในแบบที่เป็นเพื่อนสนิท เหมือนเขาเป็นญาติสนิทคนหนึ่ง มันเลยไม่ได้รู้สึก ว้าว...ว (ทำเสียงสูง) อะไรแบบนั้น แต่เป็นความมั่นคงในจิตใจ 

เขาทำยังไง ปาล์มมี่ถึงยอมเปิดโลกของตัวเองให้เขาได้

เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เราเลยเรียนรู้กันมาเรื่อยๆ ว่าเราเป็นแบบนี้ เขาเป็นแบบนี้ สำคัญที่สุดคือ จะไม่ดึงใครคนใดคนหนึ่งเข้าไปเป็นอีกคนหนึ่ง อันนี้คือสิ่งสำคัญมาก จากความรู้สึกที่เราผ่านมาด้วยกันทั้งหมดเลย มี่สรุปได้แบบนี้ และเราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวตนของใครเลย มันไม่เวิร์ก เราต้องยืนยันว่า มันเป็นไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะมีแต่การเป็นเจ้าของกันแบบยึดติด ถามว่ามี่เคยเอาประสบการณ์ความรักมาแต่งเพลงมั้ย ตลอดเลยนะ ตั้งแต่เพลงอยากจะร้องดังดัง อัลบั้มแรกเลย

 

ชื่อจริง : อีฟ ปานเจริญ

ชื่อเล่น : ปาล์มมี่

เกิด : 7 สิงหาคม พ.ศ.2524

การศึกษา : ประถมศึกษา โรงเรียนพระแม่มารีสาทร

และศึกษาต่อที่ Holy Cross High School เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

ผลงานที่ผ่านมา : อัลบั้ม Palmy, Stay, Beautiful Ride 

เพลงพิเศษ “ความทรงจำสีจาง” เพลงประกอบภาพยนตร์แฟนฉัน

ผลงานปัจจุบัน ซิงเกิ้ลเพลง “นวด”

 

เรื่อง เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล

ภาพ : ธนาชัย ประมาณพาณิชย์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ