
‘อสมท’ เปิดคลื่น ‘เมลโล่ 97.5’ แทน ‘ซี้ด’
"อสมท" ได้ฤกษ์เปิดตัวคลื่นใหม่อย่างเป็นทางการของคลื่นวิทยุ 97.5 เอฟเอ็ม ภายใต้ชื่อ “MELLOW 97.5 Keep it mellow!!"
หลังจากประกาศปิดตัวคลื่น “ซี้ด 97.5 เอฟเอ็ม” จากการบริหารของ “ตุ้ย” ธีรภัทร์ สัจจกุล ลงไป และยึดคลื่น “97.5” คืนเข้า “อสมท” ล่าสุด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวคลื่นใหม่อย่างเป็นทางการของคลื่นวิทยุ 97.5 เอฟเอ็ม ภายใต้ชื่อ “MELLOW 97.5 Keep it mellow!!" พร้อมเปิดตัว 2 ผู้บริหาร “วิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักวิทยุ และ ราเชน พานิชย์ดี รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายคลื่นวิทยุ 97.5 เอฟเอ็ม
โดย “ใหญ่” เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เล่าถึงที่มาที่ไปของคลื่นเมลโล่ 97.5 ให้ฟังว่า
“เมลโล่เราได้วางแผนกันมาร่วม 5 เดือนแล้ว หลังจากที่มีปัญหาจากซี้ด เรามองว่าในเรื่องการบริหารงานของซี้ดแล้ว ผมคิดว่าในตัวของพฤติกรรมผู้ฟังเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เดิมตอน 10 ปีที่แล้วที่เปิดซี้ดเป็นกลุ่มวัยรุ่นสมัยใหม่ ตอนนี้เทคโนโลยีเข้ามา กลุ่มวัยรุ่นเปลี่ยนเป็นให้ความสนใจในตัวดิจิทัลแทน แต่เราสำรวจข้อมูลมากลุ่มคนฟังที่เป็นคนทำงานยังฟังอยู่ ถึงแม้ในกลุ่มอีซี่ลิสซิงนิ่งจะมีหลายคลื่นก็ตาม แต่คลื่นที่เรามีและได้รับการคุ้มครองจาก กสทช. 5 ปี น่าจะทำการตลาดได้ เลยเลือกเป็นอีซี่ขึ้นมา ซึ่งมีความกลมกล่อมมากขึ้น ตัวดีเจก็เป็นส่วนผสมของดีเจที่อยู่กับ อสมท มาแล้ว และเป็นดีเจรุ่นใหม่ ดีเจผู้หญิงที่เติมมาจะเป็นคนที่มีิองค์ความรู้ ซึ่งเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคนทำงานรุ่นใหม่ เราต้องยอมรับว่า ตลาดวัยรุ่นมันสวิงมาก รายการที่เป็นวัยรุ่นจะเปลี่ยนผ่านเร็ว แล้วอะไรที่เป็นผู้ใหญ่หน่อยจะนิ่ง” ผู้บริหาร อสมท เผย พร้อมเสริมต่อว่า ก่อนหน้านี้มีการคิดหลายสูตรมากมาย เพื่อจะทำคลื่นนี้ จนมาตกลงใจว่าจะรีแบรนด์ดีกว่า
"กลุ่มเป้าหมายของซี้ดมันไปไม่ไหว ซึ่งก่อนที่ผมจะมาก็มีการคิดไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คือคำว่าซี้ด พอแบรนด์ติดว่าเป็นเรื่องของวัยรุ่นจะขยับขยายฐานลำบาก แต่การที่เราทำใหม่ขึ้นมา เราจะทำอะไรก็ได้การที่เราวางโปรดักท์ที่มีทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า คำว่ารุ่นใหม่ของเราไม่ได้หมายถึงแค่วัยรุ่น แต่รุ่นใหม่ของเราหมายถึงคนที่ร่วมสมัย คนรุ่นเก่าๆ ของเราคือคนที่มีประสบการณ์ เราอยากได้ฐานะที่เยอะมาก นอกจากวิทยุตรงนี้แล้ว เรายังขึ้นตัวแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์ด้วย ปกติเวลาทำคลื่นใหม่ก็ต้องมีการล้างคลื่นทุกที แต่ผมก็เร่งว่า ถ้าเกิดล้างคลื่นแบบที่ทำนั้น คนจะจดจำไม่ได้ เลยมีการเริ่มใส่ดีเจเข้าไปได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว ก็ทำให้มีแฟนคลับเข้ามา และมีชีวิต เพราะถ้าแค่ฟังเพลงไปเรื่อยๆ มันไม่มีชีวิต วิทยุมันต้องมีดีเจจัดถึงจะมีชีวิต การที่เราทำเมลโล่ขึ้นมาเพื่อรวมทุกอย่าง” เขมทัตต์ กล่าว
มองเรื่องของกำไรไว้ยังไง เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าซี้ดขาดทุน “ก็มองไว้ว่าอาจจะต้องใช้เวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี ดูจากเสียงตอบรับนะ แต่เราขอให้มีเรตติ้งขึ้นกว่านี้หน่อย ตอนนี้เราขึ้นอันดับ 3 ของคลื่นแนวอีซี่ลิสซิ่งแล้ว ก็ต้องไปแข่งกับเจ้าตลาดเดิม อย่างกรีนเวฟ, คลู จริงๆ ในแนวอีซี่ลิสซิงนิ่งในตลาดมีประมาณ 8-10 คลื่น ซึ่งเยอะมาก แต่ถามว่า ถ้าเราอยากที่จะยิ่งใหญ่เราก็ต้องไปอยู่ที่ที่มันยิ่งใหญ่ด้วย จริงๆ เรื่องของอันดับมันสวิง แต่ละเดือนไม่เท่ากัน แต่ที่ผ่านมาเราไม่มีดีเจ นี่เราเพิ่งเปิดตัววันแรก ตอนนี้ทุกเซกเมนท์เราขึ้นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ก็หวังว่าทางเมลโล่น่าจะขึ้นได้ แต่ว่าก็ต้องดูทิศทางของเศรษฐกิจ การจัดรายการของดีเจ การไปหารูปแบบใหม่ๆ เราก็ตั้งเป้าไว้ว่า ประมาณปีถึงปีครึ่ง จริงๆ ตลาดตอนนี้ก็ซบเซามา 2-3 ปีแล้ว แต่ถ้าสังเกตมีเดียทางทีวีซบเซากว่า การแข่งขันสูงกว่า ก็ยังคงมาตรฐานเท่าเดิม ไม่ได้ต่ำลง อยู่ได้ ต่างจากสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ การทรงตัวแสดงว่ามันยังไปได้ เรายังรักษาไว้ได้ อย่างนี้เราก็ไม่ได้มีต้นทุนมาก” ผอ.อสมท บอก
ถามต่อว่าหนี้สินของ “ซี้ด” ที่บอกว่าขาดทุน มีการเคลียร์กันจบหรือยัง
“ยังๆ กำลังเคลียร์เรื่องหนี้สิน กำหนดระยะไว้ว่า ถ้าตกลงกันได้เรื่องจำนวนหนี้สิน เรื่องกฎหมาย ก็น่าจะไม่นาน ประมาณไม่เกินปี ยอดขายซี้ดสมัยก่อนปีหนึ่งประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี อย่างกรณีของซี้ดด้วยความที่เขาเป็นบริษัทที่เข้ามาทำธุรกิจกับทางอสมท บางส่วนของเงินที่จะต้องส่งให้อสมทไม่ได้ส่ง เราก็ต้องทวงหนี้เป็นไปตามปกติ ถามว่ายอดเงินเท่าไหร่ก็เยอะอยู่ ตอนนี้ก็ต้องมีการคำนวณกัน เพราะต้องมีดอกเบี้ยด้วย แต่ไม่ถึง 100 ล้าน แต่อยู่ในหลักสิบล้าน เราเลยต้องเร่งเปิดเมลโล่ เพื่อมาทดแทน เพราะว่าเราทิ้งโปรดักท์ตัวหนึ่งไป 6-7 เดือน ซึ่งทำให้ไม่มีรายได้ ทั้งที่มันต้องมีรายได้” ผู้บริหาร อสมท กล่าวปิดท้าย