ไอดอลยุค 90  'ปิงปอง' สะแกวัลย์ แต่งงานแล้วจ้า(คลิป)  | คมชัดลึก

         เป็นอีกหนึ่งนักแสดงยุค 90 ที่หลายๆ คนยังนึกถึง สำหรับ “ปิงปอง” สะแกวัลย์  ที่ฝากผลงานการแสดงภาพยนตร์ไว้หลายเรื่อง อาทิ  กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้  สะแด่วแห้ว  มอแกน 99 1/2 ก็ถึงได้ สติแตกสุดขั้วโลก   ส่วนงานละครเรื่องสุดท้ายที่แสดงไว้เรื่อง รอยไหม เมื่อปี 2554 หลังจากนั้นชื่อของเธอก็ห่างหายไปจากวงการ ทว่ากลับมีข่าวคราวมากมายออกมาแทน... จนในที่สุดหน้าหนังสือพิมพ์ไร้ข่าวของเธอไปโดยปริยาย ล่าสุด “บันเทิงคมชัดลึก” ได้มีโอกาสพบสาว “ปิงปอง” อีกครั้งจึงต้องถามไถ่กันเสียหน่อยได้ความว่า 

 

 

         “ปิงปองไม่ได้ออกงานมา 5 ปีแล้วนะ ซึ่งตอนนี้แต่งงานและมีครอบครัวแล้วไปอยู่ที่อเมริกา เพิ่งกลับมาได้เดือนกว่าๆ สำหรับการที่เราไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาก็ไปอยู่พักใหญ่ๆ แล้วนะ กับชีวิตที่โน่น ก็สนุกดีนะ มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ จริงๆ ปิงปองเคยไปเที่ยวเมืองนอกกันอยู่แล้ว แต่ว่าพอเราต้องไปอยู่จริงๆ เราต้องปรับตัว ทั้งเรื่องของอากาศแต่ละวัน มันก็ไม่เหมือนกัน  (แต่งงานกับสามีชาวต่างชาติ)  ไม่ใช่เลย สามีปิงปองเป็นคนไทย ซึ่งมันจะมีช่วงหนึ่งที่มีเรื่องราววุ่นวายต่างๆ นานา ปิงปองคิดว่าเราไปอยู่เมืองนอกกันดีกว่า คือเราแต่งงานที่เมืองไทยนะ แล้วก็ไปฮันนีมูนกันที่โน่น แล้วก็ชอบเลยอยู่ พอตอนนี้เรากลับมาเมืองไทย เราสองคนก็คุยกันอยู่นะ ว่าเราจะกลับไปอยู่ที่โน่นอีกไหม เราต้องดูด้วยล่ะว่า ถ้าเรากลับมาทำงานละครเมืองไทยแล้ว ละครที่เราทำมันเวิร์คไหม เรามีงานต่อเนื่องหรือเปล่า ส่วนตัวเขา เขาก็ต้องดูว่าเขายังทำงานได้อยู่ไหม ก็คงยังอยู่เมืองไทย”

 

         จากชีวิตนักแสดงมาเป็นชีวิตแม่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง “แม่บ้าน (ลากเสียง)เป็นแม่บ้านไปแล้ว คือเป็นแม่บ้านไปเลย นิสัยเปลี่ยนไปเยอะมาก ซึ่งการใช้ชีวิตยู่ที่โน่น เราเองก็ได้ไปทำอะไรหลายๆ อย่าง ได้ลองดูหลายๆ สิ่ง แต่ว่าคนที่อยู่ที่โน่น เขาจำปิงปองได้นะ เพราะว่าคนที่โน่น อายุค่อนข้างมาก เขาจะมองว่า เรามาทำอะไรที่นี่ จะมีคำถามต่างๆ นานา แต่ว่าโดยส่วนใหญ่ของคนที่อเมริกา ชีวิตเขาต่างคนต่างไม่ยุ่งกัน  แล้วการใช้ชีวิตที่โน่น เราก็ประหยัดนะ เรานั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกัน นั่งรถบัสแบบปกติ เราไปไหนมาไหนแบบปกติ หนึ่งอย่างแรก เขาไม่รู้จักเรา ถึงแม้ว่าจะเป็นดารามานั่ง คนที่โน่นก็จะไม่รู้สึกกรี๊ดกราดอะไรนะ บางที่เราเจอดาราฝรั่งอะนะ คือต้องบอกก่อนว่าย่านที่เราพักอาศัยอยู่แถวฮอลลีวู้ดด้วย เราจะคุ้นหน้ามาก แต่คนแถวนั่นเขาไม่กรี๊ดกัน เราเลยไม่กรี๊ดตาม (ยิ้ม) เราก็เฉยๆ ต่างคนต่างอยู่” 

 

 

         เรียกว่าต้องการหันหลังให้วงการบันเทิงเลยใช่ไหม นักแสดงสาวเผยว่า “จริง ๆ เราไม่ได้อยากทิ้งวงการหรอกนะ เรายังรักวงการเสมอ  (ซึ่งมันดูประจวบกับช่วงท่ีผ่านมา มีข่าวคราวมากมาย) ก็ใช่นะ (พยักหน้า) เราเบื่อตรงนี้ด้วยนะ เราเบื่อข่าวที่ไม่ดีด้วยนะ เราไม่เข้าใจ  อย่างในยุคที่เราทำอะไรก็ตาม ทีเด็กทำมันดูเบามาก พอเป็นเราทำไมมันใหญ่จัง โดนโจมตีอีกแล้ว อะไรก็ปิงปองอีกแล้ว อะไรไม่ดีก็ปิงปอง คิดดูเถอะ ขนาดระเบิดยังเป็นระเบิดปิงปองเลย (หัวเราะ) นึกออกป่ะ  เราจะเจอแต่ข่าวแบบนี้เรารู้สึกเหนื่อย บวกกับที่ว่า เราเองก็ประสบอุบัติเหตุด้วย คือเนื่องจาก ว่าเท้าเรามีปัญหา ถ้ายืนนาน มันจะมีปัญหา ซึ่งตอนนี้เราเองก็ยังใส่เหล็กดามอยู่เลย (ถามว่าแต่งงานกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว คิดถึงเรื่องการมีทายาทไหม) เราก็พยายามมากนะ นับวันตกไข่ ฉีดสีเราทำทุกอย่างเลยนะ ซึ่งร่างกายของเราสองคนปกติ แต่คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นเรื่องของอายุมาก ยังไม่มี ซึ่งอย่างที่บอกว่าเราเองก็พยายามลองทุกอย่างแล้วจริงๆ ก็เลยคิดว่าอาจจะเลี้ยงสุนัขแล้วกัน แต่ถ้ากลับไปอยู่ที่อเมริกาจริงๆ การเลี้ยงสุนัขก็ต้องมีค่าดูแล” 

 

 

         ย้อนกลับมาถึงเรื่องงานในวงการบอกว่ากำลังจะผลงานให้ชมกันเร็วๆ นี้ “ก่อนไปอเมริกา เราได้เจอพี่คนนี้พอดีนะ แต่เราไม่ขอเอ่ยชื่อนะ เขาบอกว่าเขาไม่เคยลืมเราเลย เราก็แลกไลน์กันไป เขาบอกว่าเขาเคยมีไลน์เราแล้ว   แต่มีเหตุที่ต้องหลุดไป พอจังหวะที่เราจะไปอเมริกา เขาบอกว่าเขายังรออยู่นะ พอกลับมาเมืองไทย เขาเองก็รับทราบแล้วว่าเรากลับมา แต่ยังไงเราก็ต้องดูที่สามีเราด้วยนะ ว่าเขาจะอย่างไร เขาอยากให้เรากลับมาเล่นละครนะ เพราะเขารู้ว่าเราเหงา รู้ว่าอยากทำงาน คือเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้"

 

         ถามถึงความรู้สึกที่หลายๆคนยังคงนึกถึงล่ะ ส่วนตัวรู้สึกอย่างไรบ้าง  “ดีใจนะ (ยิ้ม) ถึงแม้ว่าเราจะหายไป แต่ว่ายังมีคนนึกถึง   (ลึกๆ เคยคิดไหมว่าอาจจะมีคนลืมเราไปแล้ว) ไม่กลัวเลยนะ ขอแค่คนใกล้ชิดนึกถึงเรา เพื่อนฝูงนึกถึงเราพอแล้ว แต่ว่า ณ ตอนนี้ งานยังมีคนเรียกเรา ยังแซวว่าคนที่จำเราได้อายุต้องไม่ต่ำว่า 30 แน่ๆ”  ปิงปองกล่าวปิดท้ายอย่างอารมณ์ดี