บันเทิง

ยอดหญิงปันซู 33

ยอดหญิงปันซู 33

12 มิ.ย. 2560

พอถึงเวลาต้องสอบจริงๆ ไทเฮาได้มีการเปลี่ยนแนวข้อสอบใหม่ทำให้บัณฑิตเครียดมาก แต่พอผลสอบออกมา ก็มีบัณฑิตที่สอบผ่านเยอะกว่าที่ไทเฮาตั้งไว้ ปันซูดีใจมาถึงกับเป็นลม

ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.00 น. / 23.10 น. ทางช่อง NOW26

Ban shu Legend No.33 

    โค่วเฟิงให้ฮ่องเต้ไปทูลไทเฮา เรื่องที่ปันซูให้อาจารย์ที่ออกข้อสอบมาช่วยสอน แล้วยังเกร็งข้อสอบทำให้เว่ยอิงไม่พอใจ จนทะเลาะกัน 
    เข้าถึงช่วงใกล้สอบของบัณฑิต ที่จะต้องสอบเข้ามหาลัย และก็เป็นเวลาที่ปันซูจะต้องแสดงผลงานที่เคยสัญญาไว้กับไทเฮาว่า จะขอสอนให้บัณฑิตสอบผ่านเพื่อเป็นการลบล้างความผิดที่เคยทำไฟไหม้วังในครั้งนั้น
    ถึงเวลาต้องสอบจริงๆ ไทเฮาได้มีการเปลี่ยนแนวข้อสอบใหม่ทำให้บัณฑิตเครียดมาก แต่พอผลสอบออกมา ก็มีบัณฑิตที่สอบผ่านเยอะกว่าที่ไทเฮาตั้งไว้ ปันซูดีใจมาถึงกับเป็นลม
    หมิงกงจ่างนำหนังสือจากไทเฮามามอบให้ปันซู
    “คำบัญชา จากไทเฮา ถือว่าอาจารย์ปันชู มีผลงาน ขยันหมั่นเพียร ข้าขอมีคำสั่งว่าให้อภัย ในการทำไฟไหม้วัง และให้คืนฐานะการเป็นอาจารย์” ปันซูดีใจ “ตระกูลปัน เป็นตระกูลที่มีมายาวนาน ทรงให้อาจารย์ปันถูกสลักชื่ออยู่ในนี้ด้วย”
    “ขอบพระทัยไทเฮา ไทเฮาทรงพระเจริญพันปีพันพันปี” ปันซูลุกขึ้น “ฮ่ะ ข้าก็แซ่ปันแล้ว จะไม่มีใคร ว่าข้าไม่ใช่ลูกท่านพ่อแล้ว ท่านแม่ ในสุดข้าก็กลับมาอยู่ในตระกูลแล้ว ท่านจะได้นอนตายตาหลับสักที” ปันซูดีใจมากร้องไห้
    ปันซู เว่ยอิง เลี้ยงฉลองกับเหล่าบัณฑิตอย่างสนุกสนาน 
    ปันซูว่า “เว่ยอิง เป็นวันที่ดีจริงๆ”
    “ฮ่ะ อะไรกัน ต่อจากนี้ วันดีๆ ของเรายังมีอีกมาก” 
    เว่ยอิงจะจูบปันซู แต่เด็กๆ เล่นโยนของมาโดนพอดี ต่างชะงักกันไป
    “แย่แล้ว ขอโทษค่ะ อาจารย์ปัน อาจารย์เว่ย ที่รบกวนพวกท่าน”
    “พูดอะไร ต้องเรียกว่าอาจารย์เว่ย นายหญิงเว่ยสิ” หลิวหงหัวเราะ 
    ปันซูดุ “หลิวหง เจ้าล้อข้าเหรอ”
    หลิวหงวิ่งมาหลบเว่ยอิง “อาจารย์เว่ย ช่วยด้วย”
    เว่ยอิงยิ้ม “เรียกว่าท่านพี่สิ”
    ปันซูเขิน “ท่านก็เป็นไปกับพวกเขาด้วย จริงๆ เลย”
    “พวกเจ้ามาดูนี่เร็ว อาจารย์ปันอายแล้ว มาดูเร็วๆ” 
    ปันซูยิ่งเขิน “พวกเจ้าไปทางนั้นเลย”
    อาหลิงไล่ตีจูติงมา จูติงฟ้องปันซู อาหลิงว่าจูติงไปแอบดูจดหมายรักของปันซู ปันซูว่าเหลวไหล เป็นแม่นางโม่โฉวฝากข้ามาให้กับญาติของเขาในเมือง เว่ยอิงขอดูคิดว่าปันซูเขียนให้เขา แต่พอเห็นลายมือและอ่าน ทำให้เว่ยอิงชะงักไป แล้วบอกให้อาหลิงไปตามเหยาเจวียนมาดู เว่ยอิงถามปันซูว่าได้จดหมายมายังไง
    “คนที่ให้จดหมายเจ้า หน้าตาเป็นยังไง อยู่ที่ไหน นางพูดอะไร ยังจำไดมั้ย”
    “ก็ ตอนที่เจอนาง นางมีผ้าปิดหน้า มองเห็นไม่ชัด แต่น่าจะสวยมาก เจอนางตามถนนที่จะมา นางจะไปเยี่ยมญาติที่ลั่วหลาง แต่เจอกับคนร้าย ข้าช่วยนางล่อคนร้าย แต่ข้าถูกคนร้ายจับได้ บังคับให้นางออกมา ข้าคิดจะช่วยนาง แต่นางบอกว่าคนร้ายคือคนของสามี สามีนางดีกับนาง เขาจะไม่ทำร้ายนาง” 
    “จากนั้นละ นางบอกอะไรอีก”
    “จากนั้น นางฝากจดหมายให้ข้าไปส่งให้ในเมือง ตอนข้าข้ามแม่น้ำหวง ข้าทำตกน้ำ ก็เกือบตาย โชคดีที่เก็บขึ้นมาได้ แต่ตัวอักษร ท่านดูสิมันไม่ชัดเจน ชื่อผู้รับจดหมายก็ไม่ชัด อ่านไม่ออก ดูจดหมายแล้ว ข้าคิดว่า คนรับนั่นแซ่สุ่ย แต่ข้าใช้เวลาหาอยู่นานก็ยังหาตระกูลสุ่ยไม่เจอ หรือแม้แต่ญาติทางตะวันตก”
    “แล้วทำไม เจ้าไม่เคยบอกข้า” 
    “แล้ว มันเรื่องอะไรกันแน่ ท่านรู้จักแม่นางโม่โฉวเหรอ”
    เหยาเจวียนมาถึง เว่ยอิงให้ดูก็บอกว่าเป็นลายมือหลิวเซียน
    “ใช่ ใช่แน่นอน ชื่อศิษย์พี่ ก็มีอักษรตัวนี้ ดังนั้น เวลาเขียน นางจะสะบัดปลายพู่กัน ข้ายังไม่ตาย โดนฮ่องเต้ของทางใต้จับไว้ ฮึ่ ศิษย์พี่ยังไม่ตาย ศิษย์พี่ นางยังไม่ตาย ฮึ่ๆ” เหยาเจวียนดีใจ
    เว่ยอิงอ่าน “ข้ายังปลอดภัยดี จะต้องเป็นนาง เป็นนาง เป็นนางแน่”
    ปันซูได้แต่ฟังอึ้งๆ 

ยอดหญิงปันซู 33
    ทั้งสามพากันไปเข้าเฝ้าไทเฮา เว่ยอิงอยากขอทหารไปช่วย แต่ไทเฮาปฏิเสธ ปันซูช่วยถามเหตุผลจากไทเฮา
    “เพราะว่าพี่ชายเจ้าปันหย่ง เพิ่งส่งข่าวมาบอกว่า หลังจากแพ้การรบ ทางตอนใต้ก็ตั้งใจจะมาเข้าร่วมกับเรา ใต้เท้าหนาน เป็นขุนนางที่มีความสำคัญ เปรียบเสมือนกับตำแหน่งขุนนางสูงสุดของเรา ในเวลาแบบนี้ ข้าไม่อาจช่วยนางได้จริงๆ ต้องรอไปก่อน”
    “ไทเฮา ตอนนี้นางก็เป็นแค่คนใช้ ใต้เท้าหนานตำแหน่งสูงส่ง จะมาสนใจอะไรแค่คนใช้”
    “ถ้านางเป็นแค่คนใช้ก็คงไม่เป็นไร หมิงกงจ่าง เอาสาส์นลับที่เพิ่งส่งมาให้ข้าที นี้เป็นสาส์นที่ส่งมาเมื่อหลายวันก่อน เจ้าลองดูสิ เพราะความรักที่มีต่อหญิงคนหนึ่ง ไม่สนอะไรทั้งนั้น จากคนใช้มาเป็นสนม และยังทำให้เกิดการทะเลาะกันอีก”
    “ฮ่ะ ไทเฮา กระหม่อมรู้ว่ามีผลต่อบ้านเมือง ควรเห็นแก่องค์หญิงแต่งออกไปเพื่อบ้านเมือง”
    ไทเฮาสวน “พอแล้วเว่ยอิง เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว หลิวเซียนทำไมถึงเป็นแบบนี้ เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้านางแต่งออกไปด้วยความเต็มใจ ไม่แอบหนีไปกับเจ้า เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ อย่ามาว่าข้าใจร้าย เป็นถึงองค์หญิง ไม่ควรที่จะไปมีความรู้สึกกับใคร เอาละ เรื่องนี้เราจะไม่พูดถึงอีก ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบดู ว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร เว่ยอิง ข้ารู้ว่าเจ้ากับหลิวเซียนรักกันมาก แต่ว่าพรหมลิขิต ของเจ้ากับนางมันจบไปแล้ว จะไปคิดถึงภรรยาคนอื่นทำไม ควรรักคนที่อยู่กับเจ้าดีกว่า”
    เว่ยอิงออกมาก็บอกฮั่วเหิงว่าไทเฮาไม่อนุญาต เขาจะขอยืมทหารแปดนายเดินทางไปช่วยหลิวเซียน เหยาเจวียนเตือนให้คิดถึงความรู้สึกปันซูด้วย เว่ยอิงหันมาทางปันซู
    “อาชู ข้าขอโทษ ได้ยินว่าอาเซียนลำบาก รู้สึกร้อนใจ ไม่ได้สนใจเจ้า” 
    “มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องสนใจข้า ท่านพูดถูก ถ้าราชสำนักไม่ช่วย เราไปช่วยเองก็ได้ แปดคนยังไม่พอ อย่างน้อยต้องสิบคน อีกอย่าง ต้องเตรียมม้ายี่สิบตัว สลับกันขี่ไม่หยุด จะได้ถึงเร็วขึ้น อ้อ ใช่แล้ว พวกเราจะไปกันเองไม่ได้ ข้าจะไปหาอาม่อตง เขาเป็นคนกว้างขวาง ให้ช่วยหาคนนำทาง เอาแบบนี้แหละทุกอย่างถึงจะสำเร็จ ฮ่ะ ถ้างั้น เอาแบบนี้นะ ดีมั้ย”
    “อาชู เจ้าอยากให้ข้าไปช่วยจริงเหรอ”
    “แน่นอน พี่เซียนได้รับความลำบาก ยิ่งนานเข้าจะไม่ดี ข้าที่โง่เอง” ปันซูสะอื้น “ถ้าไม่ทำจดหมายนั่นหาย ท่านคงหานางเจอแล้ว เอาละ พวกเราแยกย้ายกัน พี่ฮั่วเหิง ท่านไปหาคน เว่ยอิงท่านไปเตรียมข้าวของ ศิษย์พี่ ข้ากับเว่ยอิงไม่อยู่ การเรียนในวัง คงต้องพึ่งท่านแล้ว”
    “เจ้าก็ไปด้วยเหรอ”
    “ข้าต้องไปสิ แผลของเว่ยอิงยังไม่หายดี ข้าต้องไปเป็นเพื่อน” 
    เว่ยอิงค้าน “ไม่ได้ ข้าไม่ให้เจ้าไป”
    “ทำไมล่ะ พี่เซียนก็เป็นพี่สาวข้า”
    “พี่ชายเจ้ากำลังจะกลับมาแล้ว ถ้าเขากลับมาไม่เจอเจ้า ข้าจะบอกเขาว่ายังไง”
    “จะเป็นอะไรไป ช้าเร็วก็ต้องได้เจอ”
    “อาชู เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่น ถ้าเจ้าไปอาจไม่ปลอดภัย ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าไปเสี่ยง ข้าไปช่วยอาเซียน เพราะข้าติดค้างนาง แต่ว่าเจ้า ข้าไม่ยอมให้ไปเด็ดขาด”
    ปันซูพาม่อตงมาบอกเส้นทางให้ เว่ยอิงฝึกวิทยายุทธ ปันซูมาคอยดูแลเว่ยอิง
    “อาชู ดึกแล้ว รีบกลับไปนอนเถอะ นะ นางคงจะลำบาก ข้าต้องไปช่วยนาง” 
    “ฮึ่ ข้าเข้าใจท่าน”
    “อาชู ข้าขอโทษ”
    “ฮึ่ ท่านจะขอโทษทำไม ถ้าไม่ไปช่วยนางสิ ถึงจะเรียกว่าทำผิด เอาละ ข้าไปละ”

ยอดหญิงปันซู 33
    วันต่อมา ปันซูได้ยินเหยาเจวียนปรับทุกข์กับฮั่วเหิง
    “ศิษย์พี่นะศิษย์พี่ แต่อาชูก็เป็นศิษย์น้องข้า ถ้าหากศิษย์พี่เว่ย พาศิษย์พี่เซียงกลับมาจริงแล้ว แล้วอาชูจะทำยังไง ใครๆ ก็รู้ ว่าตอนที่ศิษย์พี่เว่ย ทำศพศิษย์พี่เซียงหาย แม้ว่าป้ายชื่อจะเขียนว่าองค์หญิงฟู่เหวียน ทำพิธีดังองค์หญิง แต่ แต่ที่จริง เป็นการทำพิธีศพภรรยา”
    “ตอนนี้ไม่มีใครรู้ได้ ว่าควรจะทำยังไง เป็นเรื่องของเขาสองคน เขาโตมาด้วยกัน และก็เป็นรักแรก ฮ่าย ถ้าไม่เกิดเรื่อง ก็อาจจะมีลูกแล้ว ใครจะรู้ ตอนหลัง จะมีปันชูล่ะ” ฮั่วเหิงถอนหายใจ 
    ปันซูได้ยินเช่นนี้ก็แทบทรุด ได้แต่ยืนพิงประตูร้องไห้
    หลี่หย่งขี่ม้าชนผลไม้หกเต็มถนน ทำให้ป้าคนหนึ่งล้ม ชาวบ้านช่วยกันพูดให้เขารับผิดชอบ แต่เขาอวดเบ่งว่าตัวเองเป็นลูกขุนนางใหญ่โต ปันซูเห็นก็จัดการสั่งสอนแล้วตบหน้า แถมได้หลิวเอี้ยนที่ผ่านมาเห็นช่วยสั่งสอนว่ามีตำแหน่งใหญ่โต ยังไม่อวดใคร แล้วสั่งให้หลี่หย่งชดใช้ หลี่หย่งเสียหน้ามากรีบหนีไป
    เว่ยอิงเห็นจะเข้าไป แต่เรื่องก็จบด้วยดี ปันซูหันมาเห็น ทั้งสองเดินคุยกันมา
    เว่ยอิงว่า “ข้าว่าจะเข้าไปหาเจ้า ไม่คิดว่าจะไปไม่ทัน”
    “ทำไมถึงมาหาข้าละ เก็บของเสร็จแล้วเหรอ”
    “อึ่ พรุ่งนี้เช้า ก็ต้องออกเดินทางแล้ว”
    “รีบไปรีบกลับ ไปไม่กี่วัน ข้าคงไม่ไปส่งท่านนะ”
    “ได้ เจ้าชอบกินเนื้ออูฐของที่นั่นมาก ข้าจะเอากลับมาฝากเจ้านะ”
    “ใช่แล้ว ท่านไปที่นั้น ระวังให้มาก ขาของท่านยังไม่หายดี ถ้ามีการต่อสู้กัน ต้องเล็งไปที่ขาม้า ถ้าม้าล้ม พวกมันก็ล้ม” 
    “ข้ารู้แล้ว ข้าเคยสู้กับพวกนั่นแล้ว”
    “ข้าลืมไป คงคิดมากไป เมื่อครู่ ข้าบอกให้พวกหลิวเอี้ยนแกล้งคน ท่านคงเห็นแล้ว คงคิดว่าข้าใจร้อน คิดว่าเป็นพวกวู่วาม เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่เหมาะสมจะเป็นอาจารย์” 
    “ไม่ ครั้งนี้เจ้าทำดีมาก เป็นอาจารย์ เจ้าจะต้องรักษาชื่อเสียงไว้ ลูกศิษย์ที่เกเร ต้องได้รับการสั่งสอน”
    “เว่ยอิง ท่านคงรู้สึกผิด ถึงได้ทำตัวแปลกๆ ไม่ด่าข้าเหมือนเมื่อก่อน ข้ารู้ดีอยู่แก่ใจ วันนี้ข้าโมโหจริงๆ แล้ว ข้าวู่วามเลยสั่งสอนคน อยากจะทำอะไรก็จะทำ ไม่ต้องให้ท่านมาคอยชมข้า”
    “ไม่ใช่อย่างงั้น เจ้าคิดมากเอง”
    “ฮ่ะ คิดมาก แค่มองตาท่านก็รู้แล้ว รู้ดีว่าควรมีเหตุผล มีความสุขแล้ว รอแค่พวกท่านกลับมา แต่ต่อจากนั้นไป ในหัวข้าก็ว่างเปล่า รู้ว่าสู้พี่เซียนไม่ได้ แล้วไม่ควรแย่งท่านมาเจ็บปวดนัก ใจข้าเหมือนดั่งไฟ ที่กำลังถูกสุม เจ้าจะให้ข้าทำอย่าไร” ปันซูร้องไห้ออกมา
    เว่ยอิงกอดปันซู “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ ฮ่ะ ข้ารู้ทั้งหมด”
    “รู้ว่าข้าเป็นตัวปัญหา ที่นั้นอันตรายมาก ข้าจะรอท่านและพี่เซียนกลับมา แต่ว่า แต่ข้าไม่รู้ทำไม รู้แต่ว่าตัวเองทุกข์ใจ ข้าเคยคิดว่า ไม่อยากให้ท่านกับนางกลับมาอีก ข้ามันคนไม่ดี ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ข้ามันเห็นแก่ตัว” ปันซูร้องไห้ตลอด
    “เจ้านะ ไม่เรียกว่าไม่ดี เพียงแต่เป็นห่วงคนรัก คิดถึงอยากมีคนเคียงข้าง ขอโทษด้วย ข้าเอาแต่ห่วงอาเซียน ไม่ได้สนใจความรู้สึกของเจ้า เจ้าต้องเชื่อข้านะ ถ้าข้ากลับมาแล้ว จะไม่ทำให้เจ้าเสียใจ ข้าขอสาบาน จะไม่ทำให้เจ้าเสียใจ”
    ปันซูสะอื้น “ข้ายอมที่จะเสียใจ ขอแค่ท่านกับพี่เซียนกลับมาอย่างปลอดภัย”
    เว่ยอิงไปสั่งเพ่ยหวนให้ดูแลปันซูดีๆ พอดีหลี่หย่งพาท่านพ่อจะมาเอาเรื่องปันซู เว่ยอิงจึงพูดความจริงให้ฟัง แล้วสั่งสอนกลับไป
    เช้าวันรุ่งขึ้น ฮั่วเหิงไปสั่งเว่ยอิง เขาฝากให้ดูแลปันซูด้วย

จบตอนที่ 33