บันเทิง

 อาชีพ ‘โคโรกราฟเฟอร์’ ลูกทุ่ง

อาชีพ ‘โคโรกราฟเฟอร์’ ลูกทุ่ง

02 มิ.ย. 2560

หลังรายการ‘ประกวดวงลูกทุ่ง’ จบเห่

    รมย์ลักษณ์ เนียมเครือ หรือ ครูโบว์ ชิงช้าสวรรค์ นักออกแบบโชว์ ท่าเต้น ชื่อดังแห่งวงการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งมัธยม ที่ได้รับผลกระทบหลังรายการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งทยอยปิดตัว กับการเบนหัวเข้าสู่การออกแบบโชว์ให้วงหมอลำ
    “การไม่มีรายการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งตอนนี้ผลกระทบคืองานเราน้อยลงทันที 100% ทุกที่เลย ทุกรายการงดหมด เด็กๆ ที่เป็นกลุ่มมัธยมเป็นส่วนใหญ่ที่นิยมมาประกวดกัน ส่วนเวทีที่เป็นระดับมหาวิทยาลัยได้ข่าวว่าปีนี้น่าจะเป็นปีสุดท้ายที่เขาจัด ในส่วนของชุดในร้านที่มีอยู่ตอนนี้ก็เป็นพันชุด เพราะว่าร้านเราในวงการลูกทุ่งถือว่าเป็นร้านตัวเลือกใหญ่ ซึ่งร้านแบบเรามีไม่กี่แห่ง นอกนั้นจะเป็นรายย่อยที่มีชุดไม่เท่ากับเรา บวกกับเด็กวัยรุ่นที่จับกลุ่มสอนเต้นกันเอง ทำชุดกันเองเยอะมากโดยการเรียนรู้กันเอง เราเป็นรายใหญ่ก็ต้องทำให้ทุกอย่างลดลง ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจเราจะอยู่ได้อย่างไร เรามีอะไรรองรับบ้าง 10 กว่าปีที่โบว์อยู่ในวงการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งถ้วยพระราชทานของเราได้มา 20 กว่าถ้วยพระราชทาน จากทุกการประกวด มันเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้จับถ้วยพระราชทาน จนเรากลายเป็นโลโก้หนึ่งของรายการชิงช้าสวรรค์ ทุกคนเรียกครูโบว์ ชิงช้าสวรรค์"
    เมื่อถามถึงการทำหน้าที่ออกแบบโชว์และท่าเต้นมาตลอด 10 กว่าปี มาวันนี้ไม่มีตรงนี้ทำแล้ว จะพาอาชีพนี้ไปทางใด ครูโบว์บอกว่า
    “ทุกวันนี้ เรากลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ โบว์ถือว่าวงการประกวดวงลูกทุ่งมัธยมสร้างธุรกิจให้โบว์จากเด็กธรรมดาจนๆ บ้านนอกที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ส่งตัวเองเรียน วงการลูกทุ่งเลี้ยงชีวิตโบว์มาให้มีทุกวันนี้ แต่วันนี้รายการประกวดหายไป แต่เราก็ประคับประคองตัวเองไหว ผลกระทบเราเลยไม่มาก ตอนนี้โบว์ได้เข้าไปในวงการหมอลำ ไปคิดออกแบบโชว์ ออกแบบเสื้อผ้า ให้กับวงหมอลำภูไท วีระพงษ์ วงศ์ศิลป์ และหมาดๆ คือไปออกแบบเสื้อผ้าให้ พ่อพยัพ คำพันธ์ุ พ่อทำเพลงลูกทุ่งให้น้องหลิน กับ น้องเบ้นซ์ ลูกอาเสรี รุ่งสว่าง เรามีทางเดินเพิ่มมา”

อาชีพ ‘โคโรกราฟเฟอร์’ ลูกทุ่ง
    ผู้สื่อข่าวถามถึงการก้าวเข้าสู่การทำโชว์ให้กับวงหมอลำ ต้องปรับตัวอย่างไรในสนามที่มีการแข่งขันสูงกว่าการประกวดวงลูกทุ่ง ครูโบว์บอกว่า
    “เราได้ทำโชว์มากมายมีกระแสดีกับไม่ดีเข้ามา เราไม่ได้เป็นคนอีสาน เราเรียนนาฏศิลป์มา เรียนมาทั้ง 4 ภาค โบว์ทนกระแสข้ามเข้าปีที่ 2 มีการตอบรับดีขึ้น ทุกอย่างโบว์ว่ามันอยู่ที่ผลงานและความคิดและการทำตัวในสังคมของเรา เราทำวัฒนธรรมเขาให้เด่นมากขึ้น หมอลำเป็นวัฒนธรรมบันเทิงที่เจาะตลาดได้ใหญ่ที่สุด มันทำยากขึ้น แต่พอโบว์ก้าวเข้ามาเหมือนเป็นใบเบิกทางให้โคโรกราฟลูกทุ่งคนอื่นๆ ได้เขาไปสัมผัสและได้รับการยอมรับด้วยที่เจาะเข้าวงการหมอลำ แต่ละวงทำโชว์ไม่ต่ำกว่า 30 เพลง ตลาดโชว์ตอนนี้แข่งขันกันสูงมาก พูดง่ายๆ ทุกวันนี้มีกำไรมีทุนเมื่อย้อนไปสัก 5 ปียังพอมีกำไรบ้าง พอ 2-3 ปีหลังการแข่งขันสูงตามด้วยไม่ใช่กำไรสูงนะ ตามมาด้วยต้นทุนสูง ต่างคนต่างใส่ทุนที่ต้องหนักขึ้น ลูกน้องต้องมีเพิ่มขึ้น สถานที่ต้องใหญ่ขึ้น ทุกคนเห็นผลข้างหน้า แต่ทุกคนไม่เห็นข้างหลัง แล้วการรับงานก็ไม่ได้มากขึ้น ราคาเดิมไม่ได้แล้ว ความอยู่รอดมันอยู่ที่ใจมากกว่า คนทำงานมีหลายประเภทเพื่อเงิน เพื่อหัวใจ พอวันนี้เรามีแล้วเหมือนเราได้ตอบแทนพระคุณอาชีพเรา เราเก็บสะสม งานนั้นที่เราทำเราอาจไม่ได้กำไร แต่เราก็เอาชุดมาเช่าบ้างก็ต้องอยู่ได้"