รู้ไหมว่า ‘ปาล์มมี่’ เคยรู้สึกแย่ จนเกือบเลิกทำเพลง!! (คลิป)
กว่าจะมาเป็นเพลง “นวด” รู้ไหมว่า “ปาล์มมี่” เคยรู้สึกแย่ จนเกือบเลิกทำเพลง
การกลับมาทำเพลงใหม่ในรอบ 4 ปีของนักร้องสาวสุดแนว ที่มีเอกลักษณ์และสไตล์เป็นของตัวเองกับ “ปาล์มมี่” อีฟ ปานเจริญ งานนี้เธอจะเอาอะไรมาเซอร์ไพรส์ “มิตรรัก” หรือ “แฟนคลับ” ของเธออีกครั้ง เจอตัวในงาน “เปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ของ "ปาล์มมี่“ ชวนขยับคลายเส้นกับเพลงรักอารมณ์ดี "นวด" ภายใต้ค่าย "genie records" ณ ชั้น 21 ห้อง ออดิทอเรียม อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ได้รับการเปิดใจจากศินปินสาวคนนี้ว่า
"เราทำตามสัญญาว่าขอเวลาทำเพลง อัลบั้มก็ยังทำอยู่ วันนี้เรากลับมาแล้ว พร้อมกับซิงเกิ้ล เพลง นวด เพลงนี้สนุกมาก มี่สนุกมากในการทำ เหมือนที่บอกไปบนเวทีว่า มี่เริ่มทำจากอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น และไม่คิดว่าจะได้ทำงานเพลงเต็มรูปแบบขนาดนี้ ต้องขอบคุณ คุณป้าช่างนวดประจ ำที่มานวดให้มี่ และทำให้มี่อยากจะพูดถึงเรื่องการนวด และเรื่องของความสัมพันธ์ของคนที่รักกันว่า มีตึง มีหย่อน จะแก้ยังไง หรือว่าเราตัดสินใจ ที่จะปล่อยให้ “ไม่รัก” คนๆ นั้นแล้ว เปรียบเหมือนการปล่อยให้นวดให้เจ็บจนเราจำ และเข็ดไปเลย มี่เลยเอา 2 เรื่องนี้มาผูกกัน เป็นเรื่องความรักกับเรื่องนวด เพลงนี้จะเน้นความสนุก แต่เพลงอื่นๆ ที่มี่ทำ จะมีเพลงเครียดเยอะเหมือนกัน แต่เพลงนี้เบาๆ
บรรยากาศในการทำงาน เป็นยังไง เหมือนเดิมไหม
ไม่เหมือนเดิมนะ เพราะว่า ไม่มีใครอยากทำงานกับมี่แล้ว (หัวเราะ) ไม่หรอก แต่โดยส่วนตัว นิสัยมี่เป็นคนต้องใช้เวลากับงานเยอะมาก ต้องลงรายละเอียดเยอะ และคนที่ต้องทำงานกับมี่จะเหนื่อยและเข็ดมาก ทุกคนก็จะหายตัวไปแล้ว ตอนนี้มี่เลยทำงานเอง และมีเพื่อนๆ น้องๆ มาช่วยบ้าง ปีนี้มีการทำร่วมกันกับแจ๊บ เดอะ ริชแมนทอย และ เงาะ (มือกีต้าร์ ริชแมนทอย) เป็นคนมาช่วยทำ
การมาร่วมงานที่บ้าน จีนี่ เรคคอร์ดส์ เป็นยังไงบ้าง
เป็นบรรยากาศใหม่ๆ การทำงานในค่ายราบรื่นมาก ตั้งแต่วันที่เข้ามาอยู่ พี่นิค (วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้บริหารค่าย) และลูกทีมในบ้านทั้งหลัง ดูแลมี่ดีมาก เป็นแบบครอบครัว และพยายามสื่อสารกับมี่มากที่สุดในทุกๆ เรื่อง เหมือนเราเป็นทีมเดียวกัน ทำงานแบบแมนๆ คุยกันและลุยเลย มีอิสระในการทำเพลงแน่นอน พี่นิคให้อิสระกับศิลปินทุกวงในค่าย
มี่เซ็นต์สัญญาเอาไว้ 3 ปี ระหว่างนี้มี่ทำอัลบั้มเอาไว้ คิดว่าไม่ปลายปีนี้ ก็ต้นปีหน้าจะได้ฟังกัน และคิดว่าจะพยายามมีเพลงที่ 2 ออกมาให้พี่นิคเร็วๆ นะ ส่วนสต็อกเพลงมี่มีเยอะมาก เพราะมี่ทำไว้หลายแนว แต่ว่าเพลงนวด คือในปีที่ผ่านมา บรรยากาศรอบข้างของเราค่อนข้างเศร้า มี่แค่รู้สึกว่าเราห่างหายจากเพลงสนุกๆ ที่จะเข้ามาเสริมบรรยากาศให้กระชุ่มกระชวย เลยคิดว่าเพลงนี้เหมาะกับช่วงนี้
เพลงนวด ใช้เวลาทำนาน 10 เดือน
ใช่ ใช้เวลาทำนาน 10 เดือน แต่คืออย่างนี้ ในระหว่าง 10 เดือน มี่ไม่ได้ทำเพลงนี้เพลงเดียว มี่แต่งไปเรื่อยๆ แต่เพลงนี้มันมาในจังหวะเวลาที่เหมาะสม และมันลิงค์กับแนวทางในเพลงอื่นๆ ของอัลบั้มชุดนี้ มี่เลยคิดว่า มี่ใส่รายละเอียดให้มันเยอะพอแล้ว เลยออกมาเป็นเพลงนี้
4 ปีที่หายไป สะสมเพลงไว้กี่เพลง
เอาจริงๆ เยอะมาก อยากให้รู้ว่าเราทำเพลงตลอด เป็นงานอดิเรกเลยก็ว่าได้ ว่างก็แต่งเพลงเก็บไว้ แฟนๆ จะได้ทยอยฟังแน่นอน มี่หายไป 4 ปี วันที่มี่กลับมาหมายความว่า มี่ต้องพร้อมในทุกเรื่อง รวมถึงสภาพจิตใจในการกลับมายืนตรงนี้ ในการเจอนักข่าวทุกคน (หัวเราะ) แต่ว่ามี่ไม่เคยห่างหายไปจากการเล่นคอนเสิร์ตเลยนะ ถามว่าคาดหวังมั้ย มี่คาดหวังให้ทุกคนฟังเพลงนี้ แล้วรู้สึกพอใจ การที่มี่หายไป และมี่เอาสิ่งนี้กลับมาให้แฟนเพลงทุกคนนะ ความตื่นเต้นของมี่ในซิงเกิ้ลเพลงนี้ เหมือนเราออกอัลบั้มชุดแรกเลย ตื่นเต้นทุกชุดที่ได้ทำ
เพลงใหม่ ท่าเต้นใหม่
เรื่องท่าเต้นเราไม่เคยคิดเลยนะ มี่คิดแต่ว่าเสื้อผ้าจะเป็นยังไง พอผู้กำกับตั้งกล้อง แล้วบอกให้มี่ลุยเลย เราก็บอกโอเค และทำเลย ฟีลที่เห็นคือฟีลจริงๆ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องเสื้อผ้า มีออกแบบเอง เวลาทำงานมี่จะคิดทั้งหมดรวมกัน เหมือนอัลบั้มชุด “คิดมาก” ที่ผ่านมา ว่าเพลงนี้เสื้อผ้าต้องเป็นแบบนี้ เพราะมี่เป็นคนชอบเรื่องเสื้อผ้า ก็จะชอบผ้า โดยเฉพาะครั้งนี้มี่อยากให้คอนเซ็ปต์มีความไทยนิดหนึ่ง และอยากใส่ผ้าไทย อย่างบนหัวหมวกของมี่ คือถ้าคนที่ตามมี่ในอินสตาแกรม จะเห็นว่ามี่ไปภาคเหนือบ่อยมาก พอเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ เราก็จะแวะดูผ้าพื้นเมือง โดยเฉพาะผ้าถุง แต่ตอนนี้อึดอัดมาเลย สำหรับการใส่รองเท้า (ยิ้ม) อึดอัดมาก จริงๆ ไม่อยากใส่เลย แต่มันต้องใส่เพราะตอนถ่ายรูป มี่อยากลองดู อยากเรียบร้อย แต่ก็ไม่ชิน
ส่วนเรื่องคอนเสิร์ตใหญ่ การที่มีคอนเสิร์ตใหญ่มี่ต้องพร้อมมากๆ มี่อยากมีเพลงใหม่ ไม่ใช่ออกมาแล้วจะร้องแต่เพลง “กา กา กา” ทีมมี่ และวงของมี่ต้องพร้อม ไม่อยากเล่นอะไรแบบเดิม ไม่อย่างนั้นถ้าร้องเพลงเดิมๆ มันจะดูว่าเราขี้โกงคนดูไปหน่อย
ก่อนหน้านี้ ปาล์มมี่บอกว่า คิดจะเลิกทำเพลง
จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าจะเลิกทำเพลงไปแล้วนะ เพราะมี่ชอบมีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ก็จะอยู่สังคมแคบๆ กับเพื่อน แต่มี่ไม่เข้าใจว่าอะไรดลใจให้เรามาจับกีต้าร์เริ่มทำงานเพลง แต่ก็ทำแบบเรื่อยๆ ไม่ได้คาดหวังอะไร ทำเก็บเอาไว้ จนมีเพลงจำนวนหนึ่ง ให้เราเริ่มเปิดฟัง และเริ่มผลิตเพลง อยากได้เพลงดีๆ ก็หาทีมงานดีๆ แฟนคลับก็อินบ๊อกมาถามทุกวัน
อะไรที่สิ่งที่ทำให้ “ปาล์มมี่” รู้สึกแย่ขนาดนั้น
สิ่งที่เฟลมาก จนทำให้มี่ไม่อยากทำเพลง มี่แค่รู้สึกไปเอง ในเวลาที่เรายังไม่มีงานใหม่ เหมือนกับคนที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เหมือนคนที่ทำอะไรไม่สำเร็จ คว้าน้ำเหลวตลอดเวลา คล้ายคนที่มี “จิตตกต่ำ” ตลอดเวลา เราถามตัวเองว่า ทำไมเราไม่เก่งพอ เราจะรู้สึกแย่กับตัวเอง แต่การที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตข้างนอก ทำให้เราเห็นว่า เราเล่นเพลงแบบนี้ เขาแฮปปี้ เรากลับมาทำเพลงแบบนี้ ก็โอเค ความรู้สึกเฟลมันเลยคลายขึ้น และมีกำลังใจจากทุกคนช่วยผลักดัน เพราะทุกคน รู้ว่ามี่เป็นคนที่ซีเรียส และเวลามี่ไปเจอชาวบ้าน เราได้เจอชีวิตที่มันแสนธรรมดา เราจึงคิดว่าเราจะมาแบกชีวิตแบบนี้ไว้ทำไม คนอื่นเขาเดือดร้อนกว่าเรามาก ทำให้เก็บมาคิด และทำงานไปเรื่อยๆ มี่เดินช้าเหมือนเต่า จนวันที่มีคนมาทัก ว่าเราเลิกร้องเพลงไปแล้วเหรอ แต่อารมณ์นี้จะกลับมาเมื่อมี่แต่งเพลง แล้วไม่สำเร็จ (หัวเราะ)
ทำไม ปาล์มมี่ ถึงได้ดูสดใสตลอด ไม่เปลี่ยนแปลงเลย
คุณเช็คแล้วเหรอ (หัวเราะ) ก็ต้องขอบคุณมากๆ มันเป็นความโชคดีในความโชคร้าย ที่เวลาเรากินอะไรเข้าไปแล้ว มันจะแสลงในเลือด มันก็จะแสดงผลออกมา เราก็รู้ว่าเราแพ้อะไร วันหลังจะได้ไม่ทาน แต่ก็ยังสู้ดาราไม่ได้ (ยิ้ม)