เป็นคุ้งเป็นแคว อาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2560
รวมน้ำใจ“รถไฟดนตรี”
โดย เคน สองแคว
วัยรุ่นตอนปลายๆ ที่เข้าสู่วัยกลางคน มีใครที่ไม่รู้จักค่ายเพลง "รถไฟดนตรี” ที่มี “ระย้า” ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร อดีตดีเจชื่อดัง เป็นผู้บริหาร มาถึงวันนี้ ค่ายรถไฟฯ มีอายุราว 38 ปี ผลิตผลงานเพลงไทยสากล เพลงสตริงมาจนถึงเพลงเพื่อชีวิตและลูกทุ่ง งานเพลงที่โดดเด่นของค่าย ลำดับต้นๆ คือ “สาว สาว สาว” วงฟรีเบิร์ดส ปู พงษ์สิทธิ์ ชุด “เสือตัวที่ 11” หนู มิเตอร์ ฯลฯ และสร้างศิลปินแตกแขนงไปสู่ค่ายเพลงและคนดนตรีทั่ววงการ
ปลายเดือนที่ผ่านมา รถไฟดนตรีได้จัดคอนเสิร์ตแรกในรอบ 20 ปี เพื่อหายได้มอบให้ครอบครัวของพี่ใหญ่ สุระชัย บุญแต่ง อดีตสมาชิกวงแฟลชและผู้ก่อตั้งวงปะการังที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไปก่อนหน้านี้ที่จะมีคอนเสิร์ต ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เลียบด่วนรามอินทรา
สุระชัย บุญแต่ง เคยเล่นดนตรีแบ็กอัพให้อัลบั้มทุกชุดของ ชรัส เฟื่องอารมย์ และเป็นผู้เรียบเรียงดนตรีชุด “ประตูใจ” ให้ สาว สาว สาว โด่งดังทะลุฟ้า งานนี้จึงรวมคนเบื้องหน้าเบื้องหลังมากมาย และที่พิเศษ คือ คุณระย้า ได้เปิดเวทีร้องเพลง “สวรรค์บนทราย” จากอัลบั้ม “ระย้า&ปะการัง” ชุดแรกชุดเดียวของระย้า เพลงนี้ สุระชัย บุญแต่ง เรียบเรียงดนตรี (ต้นฉบับคือ อดิเรก จันทร์เรือง คำร้องโดย ป.วรานนท์ ทำนองโดยครูสมาน กาญจนะผลิน)
หลังจากนั้น ได้ย้อนยุคไปกับ เอ๋ พัณนิดา เศวตาสัย ที่ไม่ได้ขึ้นเวทีร้องเพลงมานานนม กับเพลง “เดียวดาย” “รักไร้ค่า” และ "ฉากสุดท้าย” ซึ่งมีภาพมิวสิกวิดีโอฉายบนจอใหญ่ด้านหลัง ย้อนวัยได้อย่างน่ารัก ต่อด้วย โอ๋ คีรีบูน ชรัส เฟื่องอารมย์ กับเพลง “รู้อยู่แก่ใจ” “รักเองช้ำเอง” “เพราะฉะนั้น” พร้อมภาพมิวสิกย้อนยุคที่ดูราวกับคนละคนในปัจจุบัน ต่อด้วยนักร้องที่สุระชัยเคยอยู่เบื้องหลังการทำงาน ทั้ง ปั่น ไพบูลย์เกียรติ ในเพลง “รักล้นใจ” “รักยืนยง” “รักนิรันดร์” อุ้ย รวิวรรณ จินดา กับเพลงเก่ง “พี่ชายที่แสนดี” ฯลฯ ต่อเนื่องด้วยวงปะการัง พร้อมด้วย แฟม ภัคภิญญา บุตรสาวของสุระชัย บุญแต่ง ร่วมร้องเพลง “ฝังใจ” เพื่อรำลึกถึงผู้จากไป มีภาพสมัยสุระชัยเล่นดนตรีชวนให้ซึ้งปนเศร้า
งานนี้ มี จำรัส เศวตาภรณ์ มาขับร้องเพลง “นกเจ้าโผบิน” “น้ำเซาะทราย” ด้วยเสียงที่ยังคงความไพเราะแม้วัยจะล่วงเลยไป พร้อมเล่าความในใจให้ฟังว่า ระย้า มีส่วนในการทำให้เขาได้เป็นศิลปินยืนยาว เพราะก่อนหน้านี้ ตั้งใจแค่ทดลองบันทึกเสียงเพลง แต่รายการ "มิวสิคเทรน” นำไปโปรโมทจนดัง ทำให้จำรัสได้ทำเพลงตามฝันอีกมากมายในเวลาต่อมา โอ ชัยรัตน์ เทียบเทียม กับเพลง “รักหนอรัก” ฯลฯ วงเลเบอร์ ที่มีเพลง "ส่งรักส่งยิ้ม” วงฟรีเบิร์ดส กับเพลงดังมากมายที่ร้องตามกันได้ และปิดเวทีด้วยวง สามโทน ที่มากันครบกับบทเพลงสนุกๆ “เจ้าภาพจงเจริญ” แปลงร่างเป็นสาวสาวกับเพลง “ประตูใจ” และ “น้ำตาฟ้า” จบลงอย่างซาบซึ้งปนสนุกสนาน ไม่มีบรรยากาศเศร้าฟูมฟายกันจนเกินไป
รายได้จากบัตรคอนเสิร์ต รวมถึงกล่องรับบริจาคได้ทั้งสิ้น 125,000 บาท และโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง 1999 จำกัด สมทบทุนอีก 25,000 บาท มอบให้ทายาทครอบครัวเป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท งานนี้ประทับใจทั้งคนจัดและคนดู แม้จะเป็นบรรยากาศในโรงเบียร์ ที่มีลูกค้ามาดื่มกิน ชมดนตรี แต่ก็สามารถสอดแทรกเรื่องการกุศลได้อย่างลงตัว จังหวะพอเหมาะพอดี และทราบมาว่า ทำกิจกรรมแบบนี้มาหลายครั้ง และเร็วๆ นี้ก็จะมีคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ช่วย ดอน สอนระเบียบ ที่ยังป่วยอยู่ที่นครสวรรค์ ซึ่งน่าสนับสนุนกิจกรรมเช่นนี้ เพราะหากมาช่วยกันเมื่อสิ้นลมแล้ว คนที่จากไปก็ไม่อาจจะรับรู้ถึงความรักความปรารถนาดีของคนที่อยู่ข้างหลัง ช่วยกันตอนเป็นๆ ก่อนที่จะสายเกินไป