
‘นายทองดี ฟันขาว-400นักรบ รองปลัดชู’ หนังไทยบุกตลาด ‘เอเชีย'
“นายทองดี ฟันขาว” - “400นักรบ รองปลัดชู” หนังไทยบุกตลาด “เอเชีย” อินเดีย เกาหลีใต้ จีน เวียดนาม ตอบรับดี
ต้องบอกว่า “หัวกระไดไม่แห้ง” เลยทีเดียว สำหรับบูธ Content Thailand ในงานนิทรรศการภาพยนตร์นานาชาติฮ่องกง ครั้งที่ 21 (Hong Kong International Film&TV Market : FILMART 2017) ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13–16 มีนาคม 2560 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
งานนี้เป็นการรวมกลุ่มกันของสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สมาคมผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์กราฟิกส์แห่งประเทศไทย สมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ ผู้ประกอบการภาพยนตร์และแอนิเมชั่น 18 บริษัท โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพาณิชย์
การออกมาพบปะลูกค้าครั้งนี้ เพื่อประกาศว่า ประเทศไทยผลิตหนังดี มีคุณภาพ รวมทั้งมีศักยภาพในการธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ฟิล์มมาร์ทเป็นตลาดสำคัญของเอเชีย ที่ผู้ผลิตและผู้ขายภาพยนตร์ มาพบปะเพื่อเจรจาธุรกิจกัน ปีนี้มีบริษัทเข้าร่วมงานกว่า 800 แห่ง ผู้เข้าร่วมงานกว่า 7,600 คน จาก 60 กว่าประเทศ ผู้ซื้อส่วนใหญ่มาจากประเทศในเอเชีย อาทิ อินเดีย เกาหลีใต้ จีน และเวียดนาม ประเทศใหม่ๆ ที่มา เช่น บังคลาเทศ มองโกเลีย โปแลนด์
กฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่ารัฐบาลไทย ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะกรรมการภาพยนตร์ และวีดิทัศน์แห่งชาติ ที่มี พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ ได้ร่วมบูรณาการผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของประเทศไทย ผ่านยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะ 3 เพื่อให้ภาพยนตร์และวีดิทัศน์เป็นเครื่องมือในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย
ในปีนี้รัฐบาลไทยได้ริเริ่ม “คอนเทนต์ ไทยแลนด์” ตราสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือของหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อผลักดันและส่งต่อให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยก้าวสู่เวทีโลกอย่างเข้มแข็ง
ภายในงานสามวันแรก มีผู้คนเวียนมาที่บูธของประเทศไทยตลอดเวลา ฮอตสุดๆ น่าจะเป็นสหมงคลฟิล์ม เพราะช่วงบ่ายของงานวันที่สาม พิทยา สิทธิอำนวย ถึงกับเขียนโน้ตไว้บนใบปิดหนังเรื่อง “ทองดี ฟันขาว” ว่า “Sold” ให้แก่จีน อินเดีย และเกาหลีใต้แล้ว ยังไม่นับเรื่องอื่นๆ อีกสองสามเรื่อง
อัยย์ชิตา ปรีชาว่องไวกุล รอง กก.ผจก.บริษัท ไรท์ บิยอนด์ จำกัด ผู้ผลิต 400 Bravers (400 นักรบรองปลัดชู) ซึ่งเป็นหนังแนวแอคชั่น บอกว่าลูกค้าชาวอินเดียชอบแนวนี้ ผู้ประกอบการจีนหลายรายก็สนใจ รองลงมาคือเรื่อง Fighting Fish
เยื้องๆ กันเป็นบูธของ บริษัทไฟว์สตาร์ จำกัด ซึ่งต่างชาติยอมรับในฝีมือเช่นกัน ดังที่ อภิรดี เอี่ยมพึ่งพร ผู้บริหารบริษัทบอกว่า มีนัดเจรจาธุรกิจ เฉลี่ยวันละมากกว่า 20 ราย ส่วนใหญ่นัดหมายล่วงหน้า และว่ากันว่า ก่อนปี ค.ศ.2000 ภาพยนตร์ไทยยังไม่เป็นที่รู้จัก หลักๆ คือภาพยนตร์ฮ่องกง แต่ปัจจุบันผู้ผลิตไทยขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ในเอเชียรองจาก ฮ่องกง-จีน และเกาหลี
ในงานนี้ ไฟว์สตาร์มาพรี-เซลให้กับลูกค้า โดยมีกำหนดส่งหนังภายในปีเดียวกัน ปกติทำหนังไทย ให้คนไทยดู แต่กลไกตลาดเปลี่ยนไป หนังฉายในโรงทั่วไป ได้ 30-50 ล้านบาท เป็นรายได้ระดับกลาง ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย แต่รายได้จากต่างประเทศ บางแห่งแซงหน้าไทย
“คนต่างประเทศดูหนังไทย และบริษัทที่จัดจำหน่ายมีรายได้ ประสบความสำเร็จก็กลับมาซื้อ...รายได้ของเรามาจากเพื่อนบ้าน เมื่อก่อนเป็นอินโดนีเซีย มาเลย์ สิงคโปร์ แต่ปัจจุบันเป็น พม่า เขมร ลาว เวียดนาม โซนนี้ชอบหนังตลก และหนังตลกเกี่ยวกับผี”
ทั้งนี้ ผลการเจรจาของผู้ประกอบการ 14 บริษัท สองวันแรก มีการเจรจา 189 ครั้ง จำนวนสัญญาที่ลงนาม 11 ฉบับ มูลค่า 39.35 ล้านบาท หลังจบงาน คาดว่าคงมีอีกหลายดีลตามมา