บันเทิง

อาร์สยามโตแล้วแตก
หนู มิเตอร์ ตั้ง “ภูมิไทย”

อาร์สยามโตแล้วแตก หนู มิเตอร์ ตั้ง “ภูมิไทย”

20 ก.พ. 2552

อาร์สยาม เพิ่มหน่วย (ยูนิต) "ภูมิไทย" มอบหมายให้หนู มิเตอร์ นั่งคุมบังเหียนเน้นผลิตเพลงพิเศษสำหรับธุรกิจดาวโหลดและรวมฮิตเพลง แบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้ศิลปินชัดเจน แถมพ่วงคัดสรรนักร้องใหม่ทำเพลง

   สร่างศัลย์ เรืองศรี หรือ หนู มิเตอร์ กล่าวถึงการนั่งคุม "ภูมิไทย" หน่วยใหม่ล่าสุดในสังกัดอาร์สยามว่า เป็นการเพิ่มการผลิตเพลงให้สอดคล้องกับการทำธุรกิจเพลงในยุคดาวโหลด


  "นอกจากอาร์สยามแล้ว ตอนนี้จะมียูนิตอื่นอีก 3 ยูนิต คือ มีดี เรคคอร์ด อะบอริจิ้น และ ภูมิไทย ยูนิตล่าสุด ซึ่งผมมานั่งดูแลอยู่ การเปิดภูมิไทยขึ้นมาก็คือการเพิ่มงาน เมื่อก่อนค่ายมีดี เรคคอร์ด ผมทำกับคุณสนอง โสตถิกุล ยูนิตมีดีฯ เป็นการทำงานหน้าเดียว คือ คิดกันทำกันระหว่างผมกับพี่สนอง งานออกมาได้แค่ชุดเดียว แต่พอมาเปิดยูนิตภูมิไทย ผมทำเอง คิดเอง พี่สนองก็ทำยูนิตมีดีฯ ไป มันได้งานออกมา 2 ชุดเลย เราแบ่งนักร้องในกลุ่มเอจะมี บ่าววี หลวงไก่ บิว กัลยาณี และตัวผม จะต้องมีอัลบั้มออกมา 2 ชุดต่อปี โดยยูนิตภูมิไทย กับ มีดี เรคคอร์ดจะคุยกันว่า นักร้องคนนี้ใครจะทำอัลบั้มไหน ผมอาจทำเพลงพิเศษให้บ่าววีออกปลายปี ส่วนมีดีฯ อาจจะทำอัลบั้มเต็มให้บ่าววีออกช่วงต้นปี"


 ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำงานของยูนิต "ภูมิไทย" จะแตกต่างอย่างไรจากยูนิตที่เคยปิดตัวไปก่อนหน้านี้


   "ภูมิไทย จะมีการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่สร้างเพลงออกมาที่ไม่มีแนวตายตัว ถ้าเราได้นักร้องที่เก่งจริงในแนวอื่นเราก็ทำเราก็หาอยู่ ส่วนการทำดนตรีของเราจะแตกต่างจากตลาดลูกทุ่งที่มี อย่างครั้งหนึ่งเรานำกีตาร์มาใส่ในเพลงลูกทุ่ง ต่อมาคนอื่นก็ทำเหมือนเรา ถ้าเราได้นักร้องดีๆ มา เราก็จะทำเพลงให้เขาอาจจะคนละ 2 เพลง แล้วขายดาวโหลด ถ้าเพลงดัง แล้วค่อยมาทำอัลบั้มเต็มอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นเราจะผลิตเพลงรวมฮิตออกมาเร็วกว่าปกติ โดยมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากค่ารวมฮิตให้แก่ตัวนักร้อง คนเบื้องหลังด้วย ตอนนี้ภูมิไทยมีนักร้องชื่อ  สิงหา กับพิทักษ์ เสริมราษฎร์ อยู่ในสังกัด"


  ศิลปินหนุ่มจากเมืองลพบุรี กล่าวถึง ยูนิต "ภูมิไทย" ว่าจะให้ความสำคัญกับการทำเพลงดาวโหลดมากกว่าการขายแผ่นซีดี ซึ่งเป็นการทำค่ายพลงในยุคใหม่


  "ซีดีทำขายยากมากในปัจจุบัน ยอดขายตกลงอย่างน่าใจหาย เปอร์เซ็นต์ค่าส่วนแบ่งจากการขายซีดีที่เราเคยได้ก็ลดลงไปด้วย ทุกวันนี้นักร้องอยู่ได้เพราะงานโชว์ แล้วอาศัยขายซีดีหน้าเวทีแทน มันก็ดีแต่ได้ไม่มากนัก เมื่อก่อนพอเพลงดังก็มีเปอร์เซ็นต์กินไป ทุกวันนี้ต้องไปเหนื่อยกับงานโชว์อีก ผมคิดว่าแนวทางของเราจะทำเพลง 2 เพลงแล้วขายดาวโหลดเอา ถ้าเพลงดังแล้วค่อยมานั่งทำอัลบั้มเต็มกันอีกที การทำขายดาวโหลดสมมติเราลงทุนทำเพลง 2 เพลงไป 2 หมื่น แต่เราขายดาวโหลดได้ 1 แสนบาทก็เป็นกำไร ที่ผ่านมาเราทำ 10 เพลงแต่ถูกใช้จริงแค่ 2 เพลงเท่านั้น สู้ทำเอาเพลงหัวๆ มาเลยเห็นเร็วดี"


  เจ้าของฉายา ”ขุนขลุ่ยพิฆาต” กล่าวทิ้งท้ายถึงความคาดหวังกับยูนิตภูมิไทยว่าน่าจะทำให้การทำเพลงมีทิศทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน


  "ผมมองว่า การทำยูนิตนี้เป็นการเปลี่ยนจากการทำงานแบบเดิมๆ ที่ค่ายเพลงทำกันมาสู่การทำงานที่เข้ากับยุคสมัยมากกว่า มันชัดเจนที่สุด แล้วเห็นผลเร็วมากไม่ซํ้าซ้อนเป็นการลดต้นทุนการผลิต ทุกวันนี้ทิศทางของหลายๆ ค่ายเพลงก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เราไม่ปรับรูปแบบการทำงาน มุมมองความคิด ผมว่าจะไปไม่รอด ต้องทำให้อยู่ได้ทั้งนักร้อง บริษัท มันทำให้การทำงานเพลงละเอียดขึ้นเลยทีเดียว”