บันเทิง

ยอดหญิงปันซู 1

ยอดหญิงปันซู 1

31 มี.ค. 2560

Ban Shu Legend Ep.1

ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 18.25 น. ทางช่อง NOW26

    ในระหว่างปีตงฮั่น ไทเฮาอุ้มฮ่องเต้แรกเกิดขึ้นบัลลังก์ ราชวงศ์ฮั่นนับวันอ่อนแอ โจรทางทิศเหนือ อาละวาดอยู่เขตชายแดนบ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อน ปล้นชิงทรัพย์ชาวบ้าน 
    ปันซูเดินทางไปหาพ่อที่เฝิงฟู พร้อมอาจง ระหว่างทางถูกซู่ลี่จับตัวไว้พร้อมกับชาวบ้าน ปันซูอาสาวางแผนให้พวกซู่ลี่หลอกล่อพวกเว่ยอิงที่มากำจัดพวกซู่ลี่ได้สำเร็จ
    ซู่ลี่ยอมปล่อยตัวชาวบ้าน แต่บังคับให้ปันซูแต่งงานกับเขา ปันซูบอกว่า
    “เฮ้อ ข้ามาจากที่ราบสูง ในวันแต่งงานเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจะต้องทำการแข่งขันขี่ม้า ถ้าชนะข้าไม่ได้ ก็แต่งงานกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นในวันแต่งงาน เจ้าต้องทำตามกฎที่ราบสูง ขี่ม้าตามข้าให้ทันข้าถึงจะเข้าหอกับเจ้า”
    พวกซู่ลี่พากันหัวเราะเยาะ ชอบใจ
    ถึงเวลาต้องแข่งม้า ปันซูขอให้ปล่อยตัวอาจงก่อน แล้วจึงเริ่มแข่ง โดยปันซูขอนำไปก่อน ซู่ลี่ตามไปติดๆ แต่จู่ๆ ม้าก็วิ่งช้าลง
    “ม้าของข้าปกติไม่ช้าแบบนี้ เจ้าเล่นตุกติกอะไรกับมัน”
    ปันซูว่า “ข้าเพิ่งป้อนสลอดให้ม้าของเจ้ากิน ย๊ะ”
    ซู่ลี่แค้น “เจ้าสมควรตาย”
    “เจ้าเป็นผู้ชาย ต้องยอมให้ผู้หญิง หากตามข้าไม่ทัน อดเข้าห้องหอนะจะบอกให้ ย๊ะ”
    “ข้าต้องไล่เจ้าทันแน่ ย๊ะ”
    ปันซูควบม้าข้ามสะพานแขวนระหว่างเขาไปได้ แต่ม้าซู่ลี่ช้า ปันซูถึงอีกฝั่งก็หันมาคุยกับซู่ลี่
    “ดูท่า...เจ้าตามข้าไม่ทันหรอก เพราะว่า ข้าไม่เพียงแต่ป้อนสลอดให้ม้า แถมใส่ยาพิษไว้บนอานเจ้าด้วย คราวนี้ เจ้าต้องตายแน่ๆ”
    “เจ้ามันผู้หญิงโหดเหี้ยม”
    พวกลูกน้องตามมา “พี่ใหญ่ๆ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
    “ไป จับผู้หญิงคนนี้มาให้ได้”
    พวกลูกน้องจะข้ามสะพาน ทันใดนั้นปันซูตัดเชือก ทุกคนตกจากสะพาน
    “พวกเจ้าเป็นพวกคนเลวต่ำช้าไม่มีสมองข้าพูดว่ามียาพิษก็เชื่อเหรอ จะเอายาพิษมาจากไหน ฮึ กล้าตอแยข้า ก็ต้องตายอย่างทุเรศ”
    ซู่ลี่ร้องลั่นขณะตก “เจ้าโหดเหี้ยมที่สุดเลย อ๊า”
    อาจงวิ่งมาถึงแต่ข้ามไม่ได้ ก็ร้องเรียก “ปันซูๆ หา อาซูๆ”
    “อาจง ข้าไม่เป็นอะไร ท่านกลับที่ราบสูงเถอะ ข้าจะไปหาพ่อเอง”
    “ไม่ได้ ข้ามาคุ้มครองเจ้า เจ้ารอก่อนนะ”
    “ไม่ต้องแล้ว สะพานนี้พังแล้ว ตอนนี้ข้ามมาไม่ได้หรอก ท่านวางใจเถอะ คนฉลาดอย่างข้า จะต้องหาพ่อเจอโดยเร็วรอข้าได้พบพ่อแล้ว ข้าจะกลับมารับท่าน”
    อาจงจำยอมปล่อยปันซูไป
    ระหว่างทางค่ำแล้ว ปันซูพบหญิงสาวคนหนึ่งร้องเพลงอยู่ก็เข้าไปหา ชมว่านางร้องเพลงไพเราะ หญิงงามว่าพบกันเป็นโชคชะตา มอบอาหารให้ปันซูกิน แต่ทันใดนั้นก็มีชายหลายคนมาตาม ปันซูอาสาหลอกล่อไปเอง สุดท้ายปันซูก็ถูกจับตัวได้
    หญิงงามมาช่วยปันซูไว้แล้วบอกว่าจะยอมกลับไปด้วย แต่แอบขอปันซูให้ช่วยส่งจดหมายให้ที ปันซูงง
    เว่ยอิงคุมทหารปราบกบฎ วางแผนช่วยไม่ใช้ชาวบ้านล้มตาย เป็นโอกาสให้เหล่าขุนนางใส่ร้าย ไทเฮาคิดหาทางช่วย ยอมบอกกับเหล่าขุนนางว่าจะลงโทษถอดให้เขาเป็นสามัญชน แต่ฮ่องเต้องค์น้อยขอไว้เป็นพระอาจารย์ของพระองค์
    ในพระราชวังไทเฮา เรียกเว่ยอิงมาคุย
    “ข้ารู้ว่าเจ้าได้รับความอยุติธรรม แต่ว่า เจ้าเข้าใจความลำบากใจของข้ามั้ย”
    เว่ยอิงกล่าว “กระหม่อมเข้าใจเพียงแต่กระหม่อมจะขับไล่โจรกบฏ”
    “เพราะฉะนั้นเจ้าคิดว่า สอนลูกหลานไม่ใช่เป็นหน้าที่เหรอ ฮ่องเต้อายุน้อยแถมซุกซน พวกลูกหลานในวัง ก็ไม่เข้าใจความลำบากของประเทศ ถ้าหากไม่มีคนสามารถชี้แนะแล้วประเทศสงบสุขได้อีกนานแค่ไหน ในอนาคตประเทศนี้ ต้องอาศัยรุ่นลูกหลานช่วยรักษา”
    “ไทเฮาพูดมีเหตุผล เป็นเพราะเว่ยอิงโง่เขลา”
    ไทเฮาหัวเราะ “ถูกต้องแล้ว ข้าได้ยินว่า ต้นอ้อในโรงเรียนผลิดอกแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่หลิวเซวียนชอบที่สุด ถ้าเจ้ามีเวลาว่าง ก็ไปในโรงเรียนดูหน่อยเถอะ อย่าให้มันเหี่ยวเฉาล่ะนี่เป็นน้ำใจที่ข้ามีต่อเจ้า เป็นสิ่งที่ข้าเข้าใจเจ้าด้วย เจ้าเข้าใจมั้ย”
    “ขอบพระทัยไทเฮาไ
    “เฮ้อ ชีวิตคนชาตินึง ต้นไม้ใบหญ้าฤดูนึงคนที่เจ้าคิดถึงอยู่ในใจ ได้โชคดีไปแล้ว มีบางคนชั่วชีวิตของเขา ยังหาคนรู้ใจไม่พบ ฮึ จะทำยังไงได้ ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป คนเราถ้าไม่อาจเปลี่ยนชะตาชีวิต ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เข้าใจมั้ยคิดให้ดีๆ”
    ไทเฮาเดินไปกับนางสนาม เว่ยอิงคำนับ
    “กระหม่อมเข้าใจกระหม่อมจะพยายาม แม้ตายจะไม่เสียใจ”
    เมื่อปันซูเดินทางมาถึงบ้านปันเชา ปรากฏว่าปันเชาผู้เป็นบิดาได้เสียชีวิตไปแล้ว หัวหน้าเผ่าไม่ยอมรับ สุดท้ายลุงรองได้แนะนำไปลั่วหยางหาพี่ชาย
    “ใช่ข้ายังมีพี่ชายอีกคนท่านลุงรองใช่มั้ย” ปันซูดีใจ
    “ใช่แล้ว”
    “แล้วพี่ชายข้าอยู่ที่ไหน”
    “พี่ชายเจ้าปันหย่ง เป็นทหารอยู่ที่ลั่วหยาง เขาเพิ่งกลับมาไว้ทุกข์ ที่จริงต้องทำการไว้ทุกช์ แต่ว่าไทเฮามีเรื่องสำคัญ ก็เลยเรียกตัวเขากลับไป”
    “อ้อ”
    “ข้ามองเจ้าอยู่ข้างบน เจ้าเป็นคนที่กตัญญู แต่น่าเสียดาย ยังไงก็ตาม พี่ชายเจ้าตำแหน่งสูง เจ้าคารวะกับเขาก่อนส่วนเรื่องยอมรับบรรพบุรุษนั้น วันหลังค่อยคิดหาทาง/ นี่เป็นป้ายชื่อข้า เมื่อไปถึงเมืองหลวงแล้ว คนบ้านสกุลปัน จะเปิดประตูให้เจ้า”
    “ขอบคุณท่านลุงรอง ข้าจะไปลั่วหยางเดี๋ยวนี้จริงสิท่านลุงรอง พ่อข้าทิ้งของอะไรไว้รึเปล่า ข้าอยากได้หนังสือสักเล่ม หรือว่าดาบก็ได้เอาไว้เป็นที่ระลึก”
    “พ่อเจ้ายากจนตลอดชีวิต ไม่เหลืออะไรไว้หรอก กฎของบ้านสกุลปัน คนที่ทำงานเป็นข้าราชการ หนังสือที่เก็บสะสมหรือเขียนไว้ ตายแล้วต้องมอบให้ทางการ พ่อเจ้าก็เช่นกัน สำหรับ เครื่องประดับบนดาบรึเสื้อผ้า เราก็ให้พี่ชายเจ้าไปแล้ว อาซู ไปลั่วหยางครั้งนี้หนทางไกล นี่ก็จะค่ำแล้ว เจ้าเร่งออกเดินหน่อยเถอะ”
    “อืม ขอบคุณท่านลุงรอง รักษาตัวด้วย วันหลัง ข้าต้องกลับมาหาท่านแน่”
    “อืม เดินทางระวังตัวด้วย”


จบตอนที่ 1