บันเทิง

สัมผัสหัวใจ 'บอย' ปกรณ์

สัมผัสหัวใจ 'บอย' ปกรณ์

18 มี.ค. 2560

สัมผัสหัวใจพระเอกหน้าหนวด อวดความฮอตของ“บอย”ปกรณ์    


    หายหน้าจากละครไปนานมากกว่า 1 ปี หลังจากเรื่อง “ไฟล้างไฟ” ล่าสุดพระเอกหนวดงาม “บอย” ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ กลับมาพร้อมกับละครเรื่องใหม่ “เดอะ คิวปิดส์ บริษัทรักอุตลุด ตอน กามเทพหรรษา” ซึ่งเป็นการจับคู่กันกับ “เต้ย” จรินทร์พร จุนเกียรติ ซึ่งละครออกฉายแค่ตอนแรกก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น วันนี้ “บันเทิง คม ชัด ลึก” มีโอกาสเปิดใจหนุ่มสุดฮอตคนนี้ 
    @@ ละครใหม่
    กระแสตอบรับเรื่อง “เดอะคิวปิดส์ ตอน กามเทพหรรษา” เป็นยังไงบ้าง

    กระแสตอบรับดีมากเลย หลังจากออนแอร์ไปได้ประมาณ 4-5 ตอน กระแสดีกว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก ถามผมคนที่ต้องให้เครดิตมากๆ ก็คือเต้ย (จรินทร์พร) ก่อนหน้านี้คุณจะเห็นเต้ยจากละครก่อนหน้านี้อย่าง บัลลังก์ดอกไม้ และคลื่นชีวิต แล้วก็มากามเทพหรรษา ซึ่งเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักแสดงตัวจริง ซึ่งเขาแสดง 3 เรื่องนี้ ในช่วงถ่ายทำเวลาใกล้เคียงกัน แล้วจะเห็นว่า เต้ยเขาสามารถแสดง 3 ตัวละครนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน สำหรับผมแล้วผมคิดว่าไม่มีใครจะมาเป็นหนูษาได้ดีเท่าเต้ยแล้ว ในตัวละครหนูษา ถึงจะมีความโก๊ะมีความซื่อบื้อ และเข้าขั้นโง่อย่างหนัก (หัวเราะ) แต่คนดูก็ไม่เกลียดเต้ย และเขาก็แสดงออกมาค่อนข้างน่ารัก
    อีกส่วนหนึ่ง ที่ผมต้องให้เครดิตเต็มๆ ก็คือ พี่ใหม่ (ภวัต พนังคศิริ) ผู้กำกับ เพราะว่านอกจากการกำกับแล้ว สิ่งที่เขาทำออกมาจากในละครคือเรื่องของการตัดต่อ มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ พี่ใหม่ใส่ใจทุกรายละเอียด ในทุกสิ่งทุกอย่าง ในตอนถ่ายทำเรายังไม่รู้สึก แต่พอมาดูในละคร เราเห็นได้เลยว่าพี่ใหม่ใส่ใจในรายละเอียด ผมคิดว่าสิ่งที่ได้รับตอบกลับมาคือ ละครเรื่องนี้เป็นมิติใหม่ของวงการละครไทย อย่างแรกเลยคือละครเรื่องนี้มีกลิ่นอายของความเป็นซีรีส์เกาหลี ทันสมัย แล้วก็มีมุก มีกราฟฟิกที่ใส่เข้ามา แล้วทำให้ละครดูสนุกมากขึ้นสำหรับผมนะ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่โคตรเทพคือจังหวะการตัดต่อ มันกระชับฉับไว และทำให้เกิดความตลก มากกว่าการแสดงที่สื่อออกมา
    ความสนุกของละครเรื่องนี้สำหรับบอยอยู่ที่ตรงไหน
    คือกระแสตอบรับในทวิตเตอร์ จากวันแรกที่ละครออนแอร์ มีคนทวิตแท็กกามเทพหรรษาประมาณ 3 แสนกว่าทวิต พอวันหลังจากนั้นก็มีประมาณแสนทวิต คือทุกวันที่ละครออนแอร์กระแสตอบรับในทวิตเตอร์จะดีมาก อย่างผมเอง ถ้าได้ดูสดเลยก็จะดูไปด้วยทวิตไปด้วย ซึ่งในทวิตเตอร์มันสนุกมาก มีการแท็กข้อความต่างๆ ซึ่งเป็นสีสันทำให้ละครเรื่องนี้ดูน่าสนใจมาก อย่างบางครั้งผมไม่สามารถดูสดได้ เพราะเวลาพักกอง ก็จะใช้วิธีการมาอ่านในทวิตเตอร์ มีทวิตอยู่อันหนึ่งที่ผมชอบมาก คือข้อความที่ว่า “มันจะหาใคร ที่สมประกอบในละครเรื่องนี้ได้บ้างไหม มันมีใครปกติในละครเรื่องนี้บ้าง” (หัวเราะะ) มันตลกมาก ผมยังคุยกับเต้ยอยู่เลยว่าพี่ไหมอ่ะ ก็จะทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่ได้กลัวว่ากระแสตอบรับจะเป็นยังไงแล้วก็เหมือนเป็นโชคดีนะ ที่กระแสตอบรับของเรื่องนี้มันดีมาก
    ละครเรื่องนี้ดูจะเป็นข้อแตกต่างมากที่สุดในละครลอตนี้ของทุกๆ ช่อง
    ละครเรื่องนี้จะสอดแทรกมุกตลกขำๆ ลงในทุกซีน มันเลยเป็นละครที่ให้ความหรรษา

 

 

สัมผัสหัวใจ \'บอย\' ปกรณ์


    “บอย” หายหน้าหายตาจากละครไปปีกว่า หลังจากเรื่อง “ไฟล้างไฟ” 
    ใช่ หายไปประมาณปีนิดๆ  ซึ่งพอกลับมาแฟนๆ ก็ให้การตอบรับที่ดี เหมือนเขาก็รอคอยผลงานของเรา และอีกอย่างคนก็ชอบผมในลักษณะแบบนี้ หมายถึงการได้เล่นละครแนวคอมเมดี้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผมชอบเล่นดราม่ามากเลย และในละครเรื่องนี้สำหรับตัวผมในเรื่องคือตัวละครดราม่านะ เพราะอย่างที่บอกว่า ในตัวแสดงตัวนี้ในตัวคุณทิมจะเป็นคนเป๊ะ เป็นคนเงียบ และเดี๋ยวสักพักจะมีเฉลยว่าตัวละครตัวนี้มีปมอะไร โดยในเรื่องนี้ความดราม่าอยู่ที่ผมคนเดียว
    ละครแนวดราม่ากับคอมเมดี้ชอบเล่นอะไรมากกว่ากัน
    ส่วนตัวผมชอบการแสดงดราม่ามากกว่านี้ แต่คนดูจะคิดว่าผมชอบเล่นตลก อาจจะเพราะด้วยคาแรกเตอร์ผมเป็นแบบนี้มั้ง เลยมีโอกาสได้เล่นละครแนวเฮฮาเยอะ ผมก็ไม่ได้เชิงรีเควสหรอก แต่ก็มีบอกกับทางที่ช่องว่าผมก็ค่อนข้างโตนิดหน่อย ผมขอละครที่โตขึ้น เป็นแนวผู้ใหญ่และเป็นแนวดราม่า
    แปลว่ามีการขอช่องเรื่องละคร
    เป็นการคุยกันมากกว่า เพราะที่ช่อง 3 ค่อนข้างที่จะเปิดกว้าง โดยทางช่อง ก็จะมีการเฉลี่ยบทให้กับนักแสดงแต่ละคน เพราะอย่างที่ช่องเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ผมก็มีการบอกว่า ผมอยากเล่นดราม่าบ้าง เพราะผมก็ค่อนข้างที่จะโตแล้ว ผมอายุ 32 ปีแล้ว จะมาตลกมันก็เกินอายุผม แต่ก็ต้องมีบ้างกับละครแนวคอมเมดี้ มันเป็นโทนของละคร
    @@ วิถีวงการมายาของ “บอย” 
    “บอย”อยู่วงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว

    ประมาณ 8 ถึง 9 ปีแล้ว
    เรียนรู้อะไรจากการอยู่ตรงนี้บ้าง
    9 ปีที่ผมอยู่ในวงการ ทำให้เราได้เรียนรู้ทุกอย่าง การทำงานการใช้ชีวิตอยู่ตรงนี้ การรับมือกับสิ่งที่เข้ามา เอาง่ายๆ ก็คือการรับมือกับข่าว และก็ทุกอย่าง ซึ่งทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น และประสบการณ์ที่มากขึ้นก็ทำให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่เราอยู่เหมือนกัน ในส่วนตัวผมคิดว่าผมอยู่ตรงนี้ ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดแล้วมั้ง ซึ่งเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
    อะไรเป็นสิ่งที่ “บอย” ยึดมาตลอดกับการอยู่ในวงการ
    มันเป็นคำพูดที่เป็นเหมือนเรื่องปกติที่ว่า ไม่มีใครที่จะชอบเราได้ทุกคน บางคนเขาก็ชอบเรา แต่บางคนเขาก็อาจจะไม่ถูกจริตกับเรา แล้วก็ต้องมีคนที่เข้าใจผิดเราบ้าง การที่เราอยู่ตรงนี้มานานหลายปีก็ทำให้เราเรียนรู้ เพราะเมื่อก่อนที่เราเพิ่งเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ เราก็จะรู้สึกนอยด์ ถ้ามีใครมองเรา หรือเข้าใจอะไรเราผิด แต่พอเราอยู่ไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มเข้าใจว่ามันก็มีโอกาสเป็นไปได้ เราไม่สามารถบังคับความคิดใครได้ สิ่งสำคัญที่สุดของการอยู่ตรงนี้ คือตัวเรา ว่าตัวเราที่เป็นอยู่ตรงนี้คืออะไร ผมยึดคติที่ว่า ตัวเราเป็นยังไงก็แสดงตัวตนออกมาเป็นแบบนั้น และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือ เราต้องคิดถึงใจเขาใจเรา ผมว่าการอยู่ตรงนี้เราต้องแคร์ความรู้สึกตัวเอง และก็ต้องแคร์ความรู้สึกของคนอื่นด้วย เพราะการทำงานอยู่ตรงนี้มาเป็นการทำงานที่เราทำร่วมกัน ไม่ใช่ว่าเราทำงานอยู่คนเดียว แล้วจะไม่สนใจใคร

 

 

สัมผัสหัวใจ \'บอย\' ปกรณ์

 


    มีคนบอกว่าการมาเป็นดาราจะต้องแลกกับชีวิตส่วนตัว สำหรับ “บอย” รู้สึกยังไง
    ผมว่าใครๆ ก็ชอบความเป็นส่วนตัว ใครๆ ก็อยากมีชีวิตส่วนตัว แต่สำหรับผมแล้วทุกคนที่ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงจะต้องมีการเตรียมตัวไว้แล้วว่าชีวิตส่วนตัวของคุณจะต้องหายไป แล้วต้องยอมรับให้ได้ด้วยความเต็มใจ เพราะมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าคุณอยากทำงานตรงนี้ อยากมีชื่อเสียง และคนที่ดูคุณในละครหรือในจอทีวีก็ตาม ซึ่งเขาก็คือคนที่เข้ามาทักทายเราเวลาเราไปไหนมาไหนในเวลาส่วนตัว และคนพวกนี้แหละที่ทำให้เราอยู่ตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องเข้าใจอยู่แล้วว่า มันคือหนึ่งในหน้าที่ของคนที่เป็นนักแสดง หรือคนที่อยู่ในวงการบันเทิง หน้าที่ก็คือการเข้าใจว่าเวลาส่วนตัวต้องหายไป
    @@ เรื่องหัวใจของผู้ชายชื่อ “บอย”
    สถานะหัวใจตอนนี้เป็นยังไง

    ผมโสด โสดจริง ถ้ามีก็บอกว่ามี ถามว่าเหงาไหม ก็มีบ้าง จะสังเกตได้ว่าถ้าผมเหงาผมก็ไม่ทำงานอดิเรก ไม่ทำอะไรเลย อย่างตอนนี้งานอดิเรกของผมก็คือเล่นของเล่น ดูหนัง ดูร้าน ก็จะเบื่อๆ เซ็งๆ
    ไม่อยากมีใครมาคอยอยู่ข้างๆ เหรอ
    ก็อยากมี คือจริงๆ ก็มีคนที่คุยบ้าง แต่แค่ว่ายังไม่ได้ถึงขั้นที่จะไปในทางพัฒนาต่อ ผมไม่ได้หวงความโสดด้วยนะ แต่แค่ว่าเราไม่ค่อยมีเวลาว่างมาศึกษาใคร เอาจริงๆ ผมไม่รีบนะเรื่องนี้ หมายถึงเรื่องที่จะมีแฟน คือการที่เราจะศึกษาใครสักคนมันต้องใช้เวลาที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยมีเวลาไง แล้วจะให้เขามารอเรา มันก็ไม่ใช่ไง เพราะฉะนั้นอยู่อย่างนี้ไปก่อน
    นี่แหละ!! ผู้ชายที่ชื่อ “บอย” ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ 
เรื่อง : ณัฏฐิรา หลอดแก้ว
ภาพ : กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร


สัมผัสหัวใจ \'บอย\' ปกรณ์