
คมเคียวคมปากกา- ก้อง กับ เพลิน
ก้อง คือ ก้อง กาจกำแหง ส่วนเพลิน คือเพลิน พรหมแดน
เปล่าครับ ก้องกับเพลินไม่ได้มีคดีความอะไรกันอย่าง ก้อง กับ มนต์ เมืองเหนือ เพราะโดยบุคลิก "มหาเพลิน" เป็นคนใจเย็น รัดกุม วางแผนชีวิตดี ศิลปินแบบนี้แก่ลงไม่ลำบาก และไม่ต้องไปโวยวายหรือทะเลาะเบาะแว้งกับใคร แต่ถ้าเป็นศิลปินประเภทตอนดังก็ไม่เก็บออม แบบมีแล้วกินให้หมด อดแล้วหาเอาใหม่ พอแก่ลงหมดทางหา ก็จะลำบาก หรือใช้ชีวิตแบบสามล้อถูกหวย ตอนดังก็มีเมียหลายคน มีรถหลายคัน บ้านหลายหลัง สุรุ่ยสุร่าย รับรองบั้นปลายลำบากแน่
คือไหนๆ ก็ว่าด้วยเรื่อง มนต์ เมืองเหนือ ก้อง กาจกำแหง มาถึงขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด เปิดไปดูข้อมูลเก๊าเก่า เปิดหนังสือเพลงยิ่งเก่ากรอบ จึงได้เห็นเพลงดีๆ ที่ ก้อง เคยแต่งให้เพลินร้อง และเพลงรุ่นนั้น ผมร้องได้ อ่านเนื้อเพลงไปก็เลยระลึกชาติ เพลงอะไรบ้าง...
เพลิน พรหมแดน ปีนี้อายุ 69 (เกิดปี 2483) ส่วนก้อง กาจกำแหง อายุ 68 (เกิด 2484) ก้องอายุเท่ากับชวนชัย ฉิมพะวงษ์ ทั้งสามคนผมขอมอบรางวัลศิลปินแห่งดวงใจให้วันนี้เลย ส่วนรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขา เพลงลูกทุ่ง อย่าไปชะเง้อรอให้เมื่อยคอเลยครับ
เพลิน พรหมแดน เป็นนามที่ตั้งเองได้อย่างมีความหมาย เพราะเป็นคนอรัญประเทศเขตพรมแดน มีนามจริงว่า สมส่วน พรหมสว่าง เลยเอา “พรหม” จากนามสกุลมาสวมรอยกับคำว่า พรมแดน จึงเป็น เพลิน พรหมแดน
ที่เกิดคิดถึง เพลิน พรหมแดน ขึ้นมานั้น เพราะเมื่อเช้าเปิดซีดีเพลงชุด คนเก่งภาษา ฟังไปอมยิ้มไป...แล้วจะเล่าให้ฟังโอกาสหน้า
เพลิน พรหมแดน กับ ชวนชัย ฉิมพะวงษ์ (คนนครนายก) แจ้งเกิดจากการประกวดร้องเพลงที่สถานีวิทยุยานเกราะขวัญใจชนบท เมื่อปี 2503 จึงได้เข้าสังกัดวงดนตรีชุมนุมศิลปิน ของจำรัส วิภาตะวัต นักจัดรายการผู้มีอิทธิพลมากในยุคบุกเบิกวิทยุทรานซิสเตอร์ โดยมีห้างอารยะโอสถ ตรามือ เป็นสปอนเซอร์
ส่วน ก้อง กาจกำแหง เป็นคนตาคลี นครสวรรค์ เรียนจบแค่ ป.3 แต่เป็นคนหัวโต ช่างคิดช่างจำ มาอยู่กับวงดนตรีพร ภิรมย์ ในวัยไม่เต็มยี่สิบ ก็ได้ ขุนแผน ภุมรักษ์ นักลิเกคลาสสิกช่วยสอนเรื่องกลอนเรื่องสัมผัสให้ รวมทั้งได้ครูพักลักจำจาก พร ภิรมย์ ครูไพบูลย์ บุตรขัน เด็กป.3 จึงเหมือนได้เข้าวิทยาลัยนักเพลง แล้วก้องก็ไปเป็นทหารเกณฑ์ ก่อนจะออกมาอยู่กับวงดนตรี เพลิน พรหมแดน เป็นเวลา 6 ปี ใช้ชื่อ ก้อง กำจาย ทั้งร้องเพลง เล่นตลก รุ่นเดียวกับ เด่น ดอกประดู่ เพชร ดาราฉาย
พลิกหนังสือเพลงเก๊าเก่า เห็นชื่อ ก้อง กำจาย แต่งเพลงให้เพลิน พรหมแดน ร้องอยู่หลายเพลง เช่น กลัวฟื้น ( ร้องไห้ร้องห่ม จนตาระบมแดงก่ำ เมื่อผัวตายนอนคว่ำ ฝ่ายเมียก็ร่ำแต่ร้องไห้ น้องดิ้นพรวดพราดเหมือนดังจะขาดใจตาย สมบัติผัวมีอยู่มากมาย น้องยังร้องไห้ร้องห่ม)
เพลง จากกันวันที่ 5 (เธอจากฉันตั้งแต่วันที่ 5 วันที่ 5 เดือนกันยาคม อกเราคงเฝ้าแต่ตรม คิดฮอดเอวกลมเลยต้องไปให้หมอดู หมอถามฉันว่าเกิดวันอะไรนะ ผมเกิดวันพระ สิบเจ็ดค่ำ ไม่ใช่วันคู่ หมอลงเลขว่าตายแล้วไอ้หนู เนื้อคู่กำลังเป็นตานขโมย)
เพลง ดังป้าบ (ใครอยากจะดังก็ดังกันไป เพราะเดี๋ยวนี้เมืองไทย ใครๆ ก็อยากจะดัง หากดังยังไม่ทันโด่ง อย่าดังแบบโกงนะจงระวัง อย่างขึ้นที่สูงตกลงมาเสียงดัง แบบนี้ก็มีหวัง เขาเรียกว่าดังป้าบ)
และยังมีเพลง รู้ไหมเนี่ยะ ที่เล่นลงกลอนเอี๊ยะ แบบตลกๆ อีกเพลงชื่อ น้องม่วย เพลงนี้ผมจำไม่ได้ คงไม่ค่อยดังเท่าไร
เพลงของเพลิน พรหมแดน รุ่นนี้ไม่เห็นมีขายในตลาดเพลง ลิขสิทธิ์มาสเตอร์น่าจะอยู่ในมือของเพลิน พรหมแดน เอง เพราะเขาเป็นนักเพลงอิสระมาตลอด แม้แต่เมื่ออัดเสียงเพลงแรก ทุ่งร้างนางลืม ในปี 2503 เพลินก็ลงทุนเอง โดยใช้เงินที่เก็บสะสมมาตั้งแต่เป็นกรรมกรโรงงานออด๊าส
ลงทุนเองเจ๊งเอง ก่อนจะโด่งดังในเพลงที่สอง บุญพี่ที่น้องรัก
วัฒน์ วรรลยางกูร