
“กอร์ เวอร์บินสกี” กับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด
“กอร์ เวอร์บินสกี” พูดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาใน “A CURE FOR WELLNESS”
ในหนังเขย่าขวัญเชิงจิตวิทยาชวนระทึก เรื่อง “A CURE FOR WELLNESS” ได้ผู้กำกับเปี่ยมวิสัยทัศน์ อย่าง กอร์ เวอร์บินสกี (Gore Verbinski) มาทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราว โดยหนังเรื่องนี้ได้ เดน เดอฮาน รับบทเป็นล็อคฮาร์ท นายหน้าค้าหุ้น ผู้ทะเยอทะยานจากนิวยอร์ก ซึ่งได้เดินทางไปยังสปาเพื่อสุขภาพ อันห่างไกลในเทือกเขาแอลป์ ดูเหมือนว่าคนไข้ที่นั่นจะได้รับการรักษาด้วยวิธีการอันน่าอัศจรรย์ ทว่าคนไข้กลับดูป่วยหนักขึ้นกว่าเดิม ล็อคฮาร์ทพบว่าความเป็นจริงไม่ได้เหมือนสิ่งที่ปรากฏภายนอกเลยแม้แต่น้อย ขณะที่เขาสืบสวนความลับอันดำมืดเบื้องหลังสปาแห่งนี้ ล็อคฮาร์ทก็ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคเดียวกันกับคนไข้คนอื่นๆ และเริ่มหลุดออกจากโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่ง กอร์ เวอร์บินสกี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไว่ว่า
@อยากทราบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน
ผมนั่งคุยอยู่กับจัสติน เฮย์ธ (ซึ่งร่วมเขียนเรื่องนี้) และเราก็เริ่มสำรวจแนวคิดเกี่ยวกับสปาเพื่อสุขภาพในเทือกเขาแอลป์ ศูนย์สุขภาพซึ่งที่จริงแล้ว ไม่ได้ช่วยให้คุณสุขภาพดี แล้วเรื่องราวก็พัฒนามาจากจุดนั้น เราเริ่มรู้ชัดยิ่งขึ้นว่าเรื่องนี้จะเป็นหนังเขย่าขวัญ และเราก็เริ่มต้นเล่นกับแนวคิด สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำให้เนื้อเรื่องเป็นเหมือนอาการป่วยชนิดหนึ่ง เหมือนจุดดำบนฟิล์มเอกซเรย์ที่ค่อยๆ ลุกลาม เรานึกถึงสปาและถามตัวเองว่าใครจะเข้ามาในสถานที่ประเภทนี้ คนเหล่านี้ป่วยด้วยโรคอะไรกันแน่ ทำให้เราได้ความคิดเรื่องสถานบำบัด ที่ผู้บริหารและผู้นำประเทศเข้ามารับการรักษา เป็นคนประเภทที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะ แล้วพวกเขาก็ต้องชดใช้สิ่งที่ทำไป คนพวกนี้อาจโอนอ่อนตามการวินิจฉัยโรคของ ดร.โวลเมอร์ ซึ่งเป็นการบอกทั้งข่าวดีและข่าวร้าย “คุณป่วยแต่เรามีวิธีรักษา” และพวกเขาก็อยู่ที่นั่นต่อไป ด้วยความหวังว่าอาการของตัวเองจะดีขึ้น เราจินตนาการถึงความป่วยไข้ครั้งใหญ่ของสังคมที่เราทุกคนต่างปฏิเสธ จะเรียกว่าความป่วยไข้ของคนยุคใหม่ก็ได้ แล้วปราสาทเก่าบนภูเขาแห่งนี้ก็ดูเหมือนจะรับมือกับโรคร้ายนี้ได้ดีในระยะเวลาหนึ่ง
@อะไรที่ทำให้คุณสนใจให้ เดน เดอฮาน มารับบทนำเป็น ล็อคฮาร์ท
ผมได้เห็นเดนในหนังชื่อ The Place Beyond the Pubes (2012) เขารับบทเล็กๆ ในตอนท้ายเรื่อง แล้วผมก็พูดขึ้นมาเลยว่า “นั่นใครน่ะ” ผมมองว่าเขาน่าสนใจ ดูขึ้นกล้อง และจริงใจมาก ผมคิดมาตลอดว่าเขาน่าจะมารับบทล็อคฮาร์ท แล้วเขาก็มีวินัยในการทำงานที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก เขาพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าถึงตัวละคร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเวลาที่คุณต้องการร่ายเวทมนตร์ คุณจะพลาดไม่ได้สักวินาทีเดียว เพราะผู้ชมรอดูพร้อมกับเตรียมลับมีดรอไว้แล้ว เดนเป็นเพื่อนร่วมงานที่มีส่วนร่วมในกระบวนการทำงานอย่างแท้จริง เพราะเขามักมองหาความจริงใจอยู่ตลอดเวลา
@ ล็อคฮาร์ทเป็นคนบ้างานที่มุ่งมั่นเอามากๆ ดูเหมือนว่าคุณกำลังสะท้อนถึงอันตรายจากวิถีชีวิตแบบนี้ ใน A CURE FOR WELLNESS ใช่ไหม
ครับ เราทุกคนมีมือถือและใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่กับการทำงานไม่มีหยุด แต่เพื่ออะไรกันล่ะ เพื่อสุดท้ายคุณจะได้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากงั้นเหรอ ทั้งหมดนี้เราทำไปเพื่ออะไรกัน สถานที่แห่งนี้นำเสนอทางเลือกใหม่ ทางเลือกที่ “ไม่เคยมีใครกลับออกไป” แบบในเพลง Hotel California หรือในเรื่องราวของมนุษย์กินบัว (ชนเผ่าตามตำนานกรีกที่กินดอกบัวแล้วทำให้หลงลืมทุกอย่าง) เราเล่นกับแนวคิดเรื่องการวินิจฉัยโรคที่กลายเป็นการชำระบาปให้คนเหล่านี้ ก็ใครล่ะจะไม่อยากได้คำพูดจากหมอมาช่วยล้างบาปที่ตัวเองกระทำมา มันเหมือนยาที่ทำให้ง่วงซึม คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีกต่อไปเพราะว่าคุณไม่สบาย
@ ทำไมคุณจึงเลือก มีอา ก็อธ มารับบทเป็นฮานนาห์
มีอาเข้ามาทดสอบบทนี้ แล้วเธอก็ใช่เลย เธอคือคนที่ผมนึกภาพไว้สิ่งที่ผมคิดไว้ในใจสำหรับบทฮานนาห์ มันเป็นบทที่เล่นยากนะครับ คุณไม่สามารถใช้ลักษณะท่าทางเพื่อถ่ายทอดมุมมองโลกที่แปลกประหลาดแบบนั้นได้ ฮานนาห์อยู่ในสถานบำบัดมานานมาก จนกระทั่งเธอมีมุมมอง ที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างโดยสิ้นเชิง และมองทุกสิ่งแตกต่างไปจากคนอย่างเราๆ ที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของโลกสมัยใหม่ เหมือนเวลาที่เด็กถามคุณว่าทำไมไปเรื่อยๆ แล้วพอคุณตอบไปถึงครั้งที่สาม คุณก็จะไปพบสิ่งที่ค่อนข้างลึกซึ้ง แต่ฮานนาห์พาคุณไปถึงจุดนั้นได้ในการถามครั้งเดียว มีอาเกิดมาเพื่อรับบทนี้
@ เจสัน ไอแซคส์ ก็เยี่ยมมากในบทตัวละครที่แฝงเจตนาร้ายอย่าง ดร.โวลเมอร์
เจสันกับผมคุยกันเรื่องโวลเมอร์อย่างละเอียดตั้งแต่แรกเลย ผมติดตามงานของเจสันมานานหลายปี แล้วเขาก็เล่นได้จัดจ้านมาก! แต่สำหรับบทนี้ เราคิดว่าอาจจะต้องดึงเอาความจัดจ้านออกไปหน่อย เพราะเราต้องการให้รู้สึกเหมือนกับว่าผู้อำนวยการโวลเมอร์สูญเสียบางสิ่งไปกับการรักษา คนไข้มองว่าเขาเป็นคนดีมาก เพราะเขาคอยห่วงใยใส่ใจคนไข้ เวลาที่ ดร.โวลเมอร์โน้มตัวข้ามโต๊ะมาแตะที่เข่าคุณแล้วถามว่า คุณรู้สึกสบายดีครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ผมคิดว่าคุณก็คงใจอ่อน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมากก็คือความจริงใจซึ่งเขามีอยู่ แต่ผมว่านั่นล่ะคือฝันร้าย ยิ่งสถานการณ์เลวร้ายมากเท่าไหร่ คนที่นั่นก็ยิ่งคอยถามว่าคุณดีขึ้นบ้างรึเปล่า
@ดนตรีในหนังเรื่องนี้ช่วยสร้างบรรยากาศน่ากลัวชวนอึดอัดในหนัง องค์ประกอบนี้มีความสำคัญมากแค่ไหน
สำคัญมากเลยล่ะ เป็นเหมือนเสียงเพรียกของไซเรนเลย มันกวักมือเรียกล็อคฮาร์ทจากนิวยอร์กไปยังสวิตเซอร์แลนด์เหมือนขวดน้ำหอมที่เปิดออก เบน (เบนจามิน วอลล์ฟิสช์ นักแต่งเพลง) กับผมคุยเรื่องดนตรีกันครั้งละนานๆ หลายครั้งเลย ทำนองจะต้องเหมือนเชื้อที่แพร่กระจายออกไป คอยแพร่อาการป่วยไปตลอดเรื่อง ที่สำคัญหนังเรื่องนี้จะต้องให้อารมณ์แบบกอธิก แต่ก็มีความทันสมัยด้วย เมื่อคุณเข้าไปยังสปาแห่งนี้ในตอนต้นเรื่อง ผมอยากให้รู้สึกว่าเราหลงยุคไปเล็กน้อย มือถือใช้ไม่ได้ คอมพิวเตอร์หยุดทำงาน และนาฬิกาก็หยุดเดิน เหมือนกับว่าคุณหลุดออกนอกเขตแดนไป ผมคิดว่าดนตรีเป็นส่วนสำคัญในการแสดงเอกลักษณ์ของสถานบำบัดแห่งนี้
ติดตามชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์