
เปิดมุมมองวิธีคิดอีกมุมหนึ่ง ซึ้งแต่เข้าใจง่ายแบบ‘มาริโอ้'
เป็นพระเอกขวัญใจใครหลายคน สำหรับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” บันเทิง “คม ชัด ลึก” พาไปพูดคุย ล้วงลึก รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาให้มากขึ้น
เป็นพระเอกหนุ่มหล่อขวัญใจใครหลายคน สำหรับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ที่มีผลงานล่าสุด กับละคร “บัลลังก์ดอกไม้” ทาง “ช่อง 3” ที่กระแสดีคนพูดถึงมาก อยู่ในเวลานี้ “คม ชัด ลึก” จะพาไปพูดคุย ล้วงลึก รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาให้มากขึ้น
@@ผลงานล่าสุด
ละคร “บัลลังก์ดอกไม้” บทบาทเป็นอย่างไรบ้าง
สนุกดีเรื่องนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้เล่นกับเต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ) รู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ตลกดี และมีอะไรเซอร์ไพรส์เยอะ มีทั้งดราม่า โรแมนติก คอมเมดี้ ปะทะคารมกับเต้ยเยอะ สนุกดี เต้ยเองก็เต็มที่ เราก็สนิทกันเร็ว รับ-ส่งกันได้ดี บรรยากาศในกองสนุกสนาน แล้วก็แกล้งกันทั้งวัน ที่กองมีแต่เสียงหัวเราะ เราก็เต็มที่กับงานที่ทำ ทุกครั้งที่ตื่นมา ก็รู้สึกอยากจะไปกอง ไปถ่ายละคร เป็นเรื่องแรกที่ได้ร่วมงานกับพี่ตู่ (ปิยวดี มาลีนนท์) ก็ดีใจ พี่ตู่ก็น่ารัก คอยแนะนำเราตลอด อย่างบางอัน เขาก็บอกว่าเล่นใหญ่ไปหน่อย อะไรแบบนี้
ในเรื่องเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ความยากของเรื่องนี้เป็นอย่างไร
เป็นคนที่ขี้วีน เหวี่ยงวีน เพราะมั่นใจในตัวเอง และเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ค่อยจะยอมใครเท่าไหร่ ไม่สนใจใครว่าเขาจะอาวุโสกว่า หรือจะประสบการณ์มากกว่า จะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดหมดเลย ไม่เคยกรองก่อน มั่นใจว่าตัวเองเก่งสุด ความยากคือ การจะเข้าไปสู่คาแรกเตอร์ตอนแรกยาก เพราะเรายังคิดภาพไม่ค่อยออก จนได้มีโอกาสไปเวิร์กช็อป แล้วก็ดีขึ้น ตอนเข้าเวิร์กช็อป เขาจะค่อยๆ ละลายพฤติกรรม ให้เราเข้าไปสู่ตัวละคร แล้วเราจะอินเร็วขึ้น
เรื่องนี้ไปถ่ายทำตามไร่ด้วย บรรยากาศเป็นอย่างไร
บรรยากาศสวยงาม เราก็ไปถ่ายทำกันทุกฤดูเลย ฤดูหนาว ฤดูฝน ฤดูร้อน จะเห็นการเจริญเติบโตของดอกไม้ ตั้งแต่เล็ก กลาง จนบาน ได้มีโอกาสลงมือทำไร่ ทำสวนบ้าง ไปแล้วก็รู้สึกว่าชอบนะ มีบางวันที่ถ่ายทำแล้วหนาวมากก็มี บรรยากาศสวย เข้ากับตัวเรื่อง
ความประทับใจของละครเรื่องนี้
ผมชอบในเรื่องของตัวบท บทสนุก มีอะไรให้เล่นเยอะ ที่ชอบอีกอย่างก็คือ ได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ที่ตัวละครจะค่อยๆ เรียนรู้ สนุก แปลกใหม่ ไม่เคยลอง เสน่ห์ของเรื่องนี้ คือ ตัวพระนางที่ไม่ถูกกัน เราก็จะค่อยๆ เห็นตามว่า สุดท้ายเข้ากันได้ สำหรับโอ้มองว่า เป็นละครครอบครัว เป็นละครที่น่าจะเหมาะกับคนดูในหลายๆ วัยเลย เพราะว่าเป็นละครค่อนข้างจะวัยรุ่น ค่อนข้างจะมีบทสอน และเราจะได้เรียนรู้กับตัวละคร ว่าทำตัวแบบนี้ อนาคตจะรอดไหม แล้วจะได้เห็นการพัฒนาของตัวละคร
ผลงานต่อจากนี้ละคร “บ่วงบรรจถรณ์” ถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง
ถ่ายทำไปได้เยอะแล้ว ได้กลับมาร่วมงานกับ ใหม่ (ดาวิกา โฮร์เน่) อีกครั้ง ก็สนุก เป็นละครที่ผมได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งขี่ม้า ฟันดาบ มวย เป็นกิจกรรมแมนๆ ดี แต่ชอบขี่ม้าที่สุด เพราะง่ายกว่าฟันดาบ ต่อยมวย การต่อยมวยยาก เพราะในเรื่องเป็นมวยพม่า ท่าจะค่อนข้างฟิกซ์ ท่าทางการรำ การไหว้อะไรแบบนี้ ถามว่าชอบการเล่นบู๊ไหม ก็ชอบนะ ในเรื่องนี้ได้เล่นบู๊เยอะอยู่เหมือนกัน อย่างตอนเด็กๆ โอ้จะชอบมาก พวกหนังจีนต่อสู้ ยิปมัน ถ้ามีโอกาสคงจะไปเรียนเพิ่มเติม ส่วนจะได้ชมกันเมื่อไหร่อันนี้ผมก็ยังไม่ชัวร์
@@มุมมองในอนาคต
มีวิธีพัฒนาฝีมือด้านการแสดงอย่างไร
ส่วนใหญ่จะไปเวิร์กช็อปก่อน แล้วค่อยๆ อินกับคาแรกเตอร์เข้าไปสู่ตัวละคร ควรจะรู้ว่าตัวละครควรเป็นยังไง คิดยังไง โอ้จะใช้เวลาศึกษาตัวละครหลายอาทิตย์อยู่ ก่อนจะเล่นละครเรื่องหนึ่ง ในเรื่องการแสดงทุกเรื่องก็ไม่เหมือนกัน โอ้ก็จะพยายามเปลี่ยนคาแรกเตอร์ไปเรื่อยๆ ไม่ให้ซ้ำกัน เราจะเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ต้องหาอะไรใหม่ๆ ถามว่าชอบบทบาทแบบไหนมากที่สุด ผมว่าทุกบทมีเสน่ห์ต่างกัน แต่ว่า ผมจะชอบบทอย่าง “รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน” แบบนักรบ สู้กัน เรื่องบ่วงบรรจถรณ์ก็จะคล้ายกัน สำหรับบัลลังก์ดอกไม้ก็เป็นนักรักเลย ส่วนผลงานหลังจากนี้ เดี๋ยวรอดู คงมีต่อเป็นละคร งานหนังยังไม่มีเข้ามา
มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ด้วยความที่ทำงานเยอะ
พยายามนอนเยอะๆ เพราะเป็นคนชอบนอนดึก จะหาเวลาพักผ่อนเยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกาย ผมก็มีไปฟิตเนส ชอบไปวิ่ง ยกเวท ซิกแพ็กผมก็ชอบนะ ถามว่ามีใครเป็นไอดอลเรื่องซิกแพ็กไหม ก็นี่เลย น้องเคน (ภูภูมิ พงศ์ภาณุ) เราออกกันคนละที่ แต่น้องเขาเฟิร์มมาก ส่วนโอ้ตอนนี้รวมแล้วประมาณ 3 แพ็ก นอกจากนี้ผมก็ชอบเตะฟุตบอล สเกตบอร์ด แต่ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว เล่นเมื่อก่อน เล่นกับเพื่อนๆ
อยู่วงการมานานวงการนี้ให้อะไรกับโอ้บ้าง
ทุกวงการมีหลายด้าน เราพยายามเก็บเกี่ยวในสิ่งที่ดี คือจะมีสิ่งดีและสิ่งที่ไม่ดี เราก็ต้องพยายามไปในสิ่งที่ดี โอ้ก็อยู่วงการมาประมาณ 10 ปี วงการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ หรือนิสัยของการดูหนังดูละคร สมัยนี้จะดูย้อนหลังกันเยอะ เมื่อก่อนเขาจะดูสด แล้วหนัง บางทีคนก็ไม่ค่อยจะไปสนับสนุน มันก็แล้วแต่ช่วง บางช่วงก็สนับสนุนกันมากๆ บางช่วงก็ค่อยๆหายไป ขึ้นๆ ลงๆ
มีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาก มีวิธีรักษามาตรฐานตัวเองอย่างไร ให้คนยังรัก และเป็นพระเอกอันดับต้นๆ
เราต้องเต็มที่กับงาน ผมเป็นคนเต็มที่กับงานที่รัก จะทำให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ ผมว่าคนดูเขารับรู้ได้ ว่าเราทำงานอย่างเต็มที่ จริงจัง ไม่ได้ปล่อยผ่านไปเฉยๆ ผมก็รู้สึกดีใจ ที่คนยังรัก ขอบคุณทุกๆ คนเลย ที่สนับสนุนและให้การตอบรับผมตลอด ผมก็พยายามจะหาอะไรใหม่ๆ หาอะไรที่ทำให้เราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อคนดู
ยังสนใจไปทำงานต่างประเทศอยู่ไหม
สนใจนะ ตอนแรกจะไปที่จีน แต่พอดีเขายังมีปัญหาอะไรกันนิดหน่อยเลยหยุดไว้ก่อน แต่ก็มีทาบทามไว้แล้ว ก็อาจจะมีไป เป็นพวกซีรีส์ ผมว่าการได้ไปประเทศจีน ได้ประสบการณ์เยอะแยะ ถามว่ามองไปไกลถึงขั้นฮอลลีวู้ดไหม ผมไม่กล้าคิด ไม่เคยคิดไปขนาดนั้น เอาแค่ในเอเชีย หรือบ้านเราก็พอแล้ว อย่างในเอเชีย ถือว่าเราโชคดี ที่หนังของเราได้มีโอกาสมีชื่อเสียงขึ้นมาหน่อย เขาถึงรู้จักเรา แต่พอมาถึงขนาดนี้ ผมก็พอใจนะ พอใจมากที่ได้มีงานดีๆ ได้เจอคนดีๆ เยอะแยะเลย
มองอนาคตต่อจากนี้อย่างไร มองบั้นปลายชีวิตไหมว่าอยากทำอะไร บางคนมองว่าจะเป็นนักแสดงไปตลอด
อนาคตผมมองว่า คงได้ทำงานในวงการต่อ และคงไปช่วยแม่ในเรื่องของธุรกิจด้วย ก็มองว่าอยากทำอะไรที่ตัวเองชอบ เป็นงาน ธุรกิจ โอ้คงจะไม่ได้เป็นนักแสดงไปตลอด ผมคงเป็นจนถึงประมาณหนึ่ง และคงจะทำอย่างอื่นด้วย ไม่ได้ทิ้งตรงนี้ แต่คงเฟดตัวเองไปทำอย่างอื่นด้วย
@@เรื่องของความรัก
ความชื่นชอบความคลาสสิกของโอ้
ผมชอบรถคลาสสิก ชอบในเสน่ห์ของมัน ไม่เหมือนรถใหม่ๆ แล้วก็ลุ้นดีด้วยว่าจะดับหรือไม่ดับ และบางทีพอดับ เราก็จะได้เพื่อนด้วย พวกพี่ๆ วินมอเตอร์ไซค์ เราจะได้เขาเป็นเพื่อน ได้เรียนรู้ในการซ่อมรถ อันไหนซ่อมได้เราก็จะรู้สึกภูมิใจ เปลี่ยนล้อได้ เปลี่ยนยางได้ สนุกดี จุดเริ่มต้นของความชอบมาจากคุณพ่อ ความฝันของผมกับพ่อคือการสะสมรถ
เรื่องความรักตอนนี้ดูเปิดเผยมากขึ้น พูดถึงกันมากขึ้น
ผมก็ปกติ ผมก็พูดอยู่แล้ว ผมว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง ผมไม่ได้คิดว่ามันต้องส่วนตัวไหม ถ้ามีคนถาม ผมก็พูด เวลาไปไหนก็ไม่ได้ปิดบัง หรือต้องปลอมตัวขนาดนั้น เราก็ใช้ชีวิตปกติ เป็นเรื่องธรรมชาติ
นิยามความรักในมุมมองแบบฉบับของโอ้เป็นอย่างไร คิดว่าตัวเองโรแมนติกไหม
ความรักก็เหมือนความเข้าใจกัน และช่วยเหลือกัน ผมไม่ค่อยโรแมนติก จะทำอะไรเซอร์ไพรส์สาวๆ ก็เคยทำเมื่อนานมากแล้ว ตอนนี้ไม่ค่อยได้ทำ
มีเคยมองถึงอนาคตในเรื่องของชีวิตคู่อย่างไรบ้าง
เคยคิดนะ เพราะผมมีครอบครัวที่ดี พ่อแม่ผมน่ารัก และพ่อแม่เลี้ยงดูผมมาอย่างดี คิดว่าวันหนึ่งถ้ามีโอกาสก็อยากมี แต่ก็คงอีกนานกว่าที่จะมีครอบครัว คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้
แม่มีหวงลูกชายไหม และมีสเปกของลูกสะใภ้ในอนาคตไหม
แม่ไม่มีหวง แม่ปล่อย ถามว่าเขาเคยถามผมเรื่องอนาคตบ้างไหม ก็ยัง คุณแม่ไม่ถาม แม่บอก ปล่อยไปก่อนเลย แม่ผมไม่คิดมาก เอาที่ลูกสบายใจ แต่ว่าแม่ก็จะคอยช่วยดูว่าเขาเป็นยังไง ดูแลลูกดีไหม เราดูแลเขาดีไหม เข้ากันได้ไหมที่สำคัญ เวลาผมมีความรัก ก็ไม่ค่อยปรึกษาคุณแม่เท่าไหร่ แต่ก็มีคุยบ้าง
ความรัก ความผูกพันกับแม่ ทำงานตรงนี้แบ่งเวลาให้ท่านอย่างไร
ผมเรียนมหาวิทยาลัยกับแม่ และจบปริญญาโทด้านสื่อสารการเมือง ม.เกริก พร้อมกับคุณแม่ ตอนนี้แม่ก็จะกลับไปทำงานที่บ้านเยอะขึ้น ผมก็ภูมิใจแม่ผม ที่แม่ผมได้พาผมได้เรียนรู้ ได้มีประสบการณ์ ผมอยากบอกว่าไม่มีใครแก่เกินเรียนอยู่แล้ว จะอายุมากแค่ไหน เราก็เรียนรู้ได้ตลอดจริงมั้ย ก็ไม่ได้สเปคว่าพออายุมาก แล้วจะเรียนรู้ไม่ได้นะ เพราะต่อให้อายุมาก บางคนเขาก็อยากจะเรียนรู้ต่อไปในทุกๆ ด้าน ไม่จำเป็นต้องเก่งด้านใดด้านหนึ่ง เก่งหลายๆ ด้านได้ยิ่งดี
นี่แหละ วิธีคิดแบบผู้ชายที่ชื่อ มาริโอ้ เมาเร่อ
เรื่อง การะเกด อัศวเสนา
ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์
ล้อมกรอบ
เขาชื่อ : มาริโอ้ เมาเร่อ
เกิดวันที่ : 4 ธันวาคม พ.ศ. 2531
การศึกษา : ปริญญาโท ด้านสื่อสารการเมือง ม.เกริก
ผลงานที่ผ่านมา : รักแห่งสยาม, ฝันหวานอายจูบ, สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก, พี่มากพระโขนง, เทคมีโฮม สุขสันต์วันกลับบ้าน, รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน, สองหัวใจนี้เพื่อเธอ ฯลฯ
ผลงานล่าสุด : บัลลังก์ดอกไม้