เจาะลึกทำไม “ลูกสาวเอลวิส” ถังแตก | คมชัดลึก

 

         แม้ว่าจะเกิดเป็นลูกนักร้องดังระดับตำนานที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาร็อคแอนด์โรล” แต่ก็ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่า “ลิซา มารี เพรสลีย์” จะรอดพ้นจากความยุ่งยากทางการเงินไปได้

 

         ตอนนี้ ลิซา มารี เพรสลีย์ ลูกสาวของ เอลวิส เพรสลีย์ กำลังมีปัญหาทางการเงินอย่างหนักทั้งที่ได้รับมรดกมหาศาลจากผู้เป็นพ่อ โดยเรื่องนี้แดงขึ้นเมื่อลิซาได้ฟ้องหย่าจากสามีนักร้องชื่อ “ไมเคิล ล็อควู้ด” และได้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเลี้ยงดู และค่าทนายให้เขา ทำให้ต้องมีการยื่นเอกสารทางการเงินประกอบคำชี้แจงต่อศาลว่าทำไมถึงให้ไม่ได้

         เรื่องนี้เองที่ทำให้นักข่าวไปขอดูเอกสารทางการเงินของลิซาได้เลยรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังถังแตก โดยลิซาอ้างว่าเธอมีรายได้จากมรดกของพ่อเดือนละ 100,000 ดอลลาร์ (ราว ๆ 3.3ล้านบาท) แต่ผู้จัดการทางการเงินของเธอไม่ยอมจัดการเรื่องภาษีให้ ลิซาก็เลยต้องจ่ายภาษีย้อนหลังหลายปีจนอ่วมไปหมด

         ลิซาบอกว่าเธอเป็นหนี้กรมสรรพากรสหรัฐอยู่ 7.3 ล้านดอลลาร์ แล้วยังเป็นหนี้รัฐบาลอังกฤษอยู่อีกกว่า 5 ล้านดอลลาร์ ติดค้างภาษีรัฐอยู่อีก 250,000 ดอลลาร์ แล้วยังมีหนี้สินอื่น ๆ อยู่อีกหลายแสนดอลลาร์ แถมยังอ้างว่าสามีเอาเงินจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของเธอไปใช้กว่า 1 ล้านดอลลาร์ แล้วยังรูดบัตรเครดิตของเธอไปอีกเป็นจำนวนไม่น้อยด้วย

         นอกจากมรดกแล้ว ลิซายังได้เงินเดือนอีก 4,300 ดอลลาร์ (ราว 140,000 บาท) ในฐานะพนักงานของเกรซแลนด์ แต่ในส่วนของการเป็นนักร้องที่มีซิงเกิลฮิตอย่าง Lights Outและ Dirty Laundry นั้น ลิซา วัย 49 ปี บอกว่าปัจจุบันเธอไม่มีรายได้จากการเป็นนักร้องหรือนักแต่งเพลงเลย

         ตอนนี้ลิซาพยายามประหยัดด้วยการไม่ไปพักร้อนหรือเดินทางเลย เธอบอกว่าไม่ได้ขึ้นเครื่องบินมา 18 เดือนแล้ว และไม่ได้จ่ายค่าเช่าบ้านเพราะตอนนี้เธออาศัยอยู่กับลูกสาวคนโตวัย 27 ปีที่ชื่อ “ไรลีย์ คาฟ”

“ฉันจำไม่ได้แล้วว่าจ่ายเงินซื้อเสื้อผ้า และรองเท้าครั้งสุดท้ายเมื่อไร” ลิซากล่าว