“คีอานู รีฟส์” เล่นเป็นนักฆ่าใน 'John Wick Chapter 2' | คมชัดลึก

         คีอานู รีฟส์ กลับมารับบทเดิมในภาคต่อของหนังแอ็กชั่นแห่งปี 2014 John Wick มือสังหาร ผู้เป็นตำนานที่ถูกบีบให้กลับมาทำงานอีกครั้ง หลังจากเกษียณตัวเองไป เพราะอดีตเพื่อนร่วมงานวางแผนเข้าควบคุมองค์กรมือสังหารลับข้ามชาติ ด้วยความผูกพัน ดุจพี่น้องต่างสายเลือด จอห์นให้คำมั่นว่าจะช่วย เขาเดินทางไปกรุงโรม ที่ซึ่งเขาต้องเผชิญกับบรรดานักฆ่าที่อันตรายที่สุดในโลก รับรองดีกรีระห่ำด้วย แชด สตาเฮลสกี้ ผู้กำกับจากภาคต้นฉบับ พร้อมทีมดาราใหม่ที่จะมาเสริมความมันให้ อย่าง ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น ที่เคยร่วมงานกับ รีฟส์ ใน The Matrix และ รูบี้ โรส สาวเท่ที่ไม่มีใครแซงเธออีกแล้วช่วงนี้

@ มีอะไรใน John Wick Chapter 2 ที่ต่างจากภาคแรกบ้าง

         สำหรับผม ผมรักคาแรกเตอร์นี้  ผมรัก จอห์น วิค หนังเรื่องนี้ ได้กลับมาร่วมงานกับ แชด สตาเฮลสกี้ ผู้กำกับ และ ดีเรค โคลแสตด คนเขียนบท พวกเราต้องหาเหตุผลว่าทำไมควรมีภาคต่อเรื่องนี้ มีเรื่องอะไรจะเล่า ในที่สุดเราก็เจอ มันเป็นประเด็นที่เชื่อมโยงกับภาคแรก แต่ยังจะขยายโลกของแฟรนไชส์นี้ ด้วยภาคนี้เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกับภาคแรก มันจะเฉลยปริศนา เผยอดีตของ จอห์น วิค และยังตั้งคำถามกับตัวเขาด้วยว่าเขาคิดดีแล้วหรือที่จะกลับเข้าวงการนี้อีกครั้ง เอาเป็นว่า ถ้าคุณเป็นแฟน จอห์น วิค ภาคแรก สิ่งที่คุณชอบทั้งหมดจะถูกนำมาต่อยอดในภาคนี้ แถมยังให้มุมมองใหม่ๆ ที่คุณจะอ้าปากค้างแน่นอน

@ แล้วคุณพอจะรู้ไหมแรงบันดาลใจที่ว่ามาจากไหน

         แชดได้แรงบันดาลใจในการทำ JohnWick 2 จาก Aliens โดย เจมส์ คาเมรอน ตอนแรกก็ยอมรับนะว่าหัวตื้อไปเลย เพราะหนังจบสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว แต่หนังกลับประสบความสำเร็จ และมีแฟนๆ เรียกร้องให้มีภาคต่อมากมาย เช่นเดียวกับ Alien ที่จบสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว แต่ตอนที่ เจมส์ คาเมรอน มารับช่วงต่อ จาก ริดลีย์ สก็อตต์ เขาได้มอบมุมมองใหม่ให้แฟรนไชส์นี้ จนทำให้มันประสบความสำเร็จยิ่งกว่าเดิม แชดใช้เรื่องนี้มาเป็นแรงบันดาลใจ 

@ ได้ยินว่า ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น เป็นคนขอมาร่วมงานกับคุณในเรื่องนี้เอง

         ใช่แล้ว ลอว์เรนซ์และผมยังเป็นเพื่อนซี้กัน มีวันหนึ่งเราบังเอิญเจอกัน เขาบอกผมว่า เขาชอบ จอห์น วิค มาก เขาบอกกับผมว่า “ถ้าสมมุติเรื่องนี้มีภาคต่อ นายต้องบอกแชดนะว่า ฟิช เพื่อนซี้นายอยากมาแจมด้วย” ผมคุยกับแชด เลยส่งบทไปให้เขา ซึ่งเขาบังเอิญตรงกับตัวละครหนึ่งของเราพอดี มันเจ๋งมากที่ได้กลับมาทำงานกับเขาอีกครั้ง เขาเล่นได้ดีมาก ไม่มีใครเล่นบทนี้ได้ดีกว่าเขาแล้ว

@ ตอนก่อนถ่ายทำมีวิดีโอคุณฝึกยิงปืนหลุดออกมา เราแทบอ้าปากค้างเลย คุณยิงแหลกเหมือนกับทหารมือโปร อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังหรือไม่

         แน่นอน ตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ที่เราต้องการผลักดันขีดสุดของนักแสดงออกไป สำหรับผมแล้ว ขั้นที่ผมชอบที่สุดคือขั้นฝึกนี่แหละ ฝึกกับนักแม่นปืน และอดีตหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย การฝึกกินเวลา 3 อาทิตย์ในขั้นก่อนถ่ายทำ การฝึกปืน 3 กระบอก แบบที่คุณเห็นในคลิป โฟกัสไปที่การใช้อาวุธ การฝึกกลยุทธ์ การควักปืนจากปลอกพิเศษ รวมทั้งการฝึกปืนยาวอีกกว่า 40 ชั่วโมง เขาถ่ายไว้ เพื่อให้ผมห็นว่าผมดูเป็นยังไงในกล้อง ซึ่งเป็นงานหินไม่ใช่เล่นเลย โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกต่อไปแล้ว เขาขอผมอัพโหลดลงเว็บ กลายเป็นว่าผมดูเท่อย่างกับหน่วยรบพิเศษ คนทักผมมาเพียบเลย ซึ่งมันจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าผมไม่ได้ครูดี นอกจากอาวุธแล้ว เขายังต้องฝึกศิลปะป้องกันตัวอย่างยูโด ยูยิตสู คราฟมากา มวยและอีกเพียบเลย

@ ช่วยพูดถึงการยกระดับไปเล่าเรื่องกันที่โรมบ้าง ถือเป็นอะไรที่ทะเยอทะยานทีเดียว

         แน่นอนที่สุด มันเป็นอะไรที่ลงตัวกับหนังมาก ถึงแม้มันจะมาพร้อมความยุ่งยากพอสมควร มันมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับโรม ที่ไม่เหมือนที่อื่นในโลก ทั้งบรรยากาศ บ้านเมือง ผู้คน และที่สำคัญมันมีประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่เหมาะจะเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ โรงแรมคอนติเนนตัลที่คุณเห็นในภาคแรกจะกลับมา มันเกี่ยวพันกับเมืองนี้โดยตรง คุณจะได้เห็นองค์กรมือสังหารที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง

@ แน่นอนว่าจุดขายของ จอห์น วิค คือฉากแอ็กชั่น คุณพอจะกล่าวถึงฉากไหนที่อยากให้แฟนๆ ตั้งหน้ารอเป็นพิเศษไหม

         จริงผมคิดว่าหลายฉากเลย แต่ผมว่าฉากใกล้ไคลแมกซ์นี่แหละ ผมไม่อยากเล่าเยอะ เดี๋ยวจะหมดสนุกก่อน เล่าสั้นๆ คือ มันเหมือนเป็นการคารวะ Enter The Dragon ของ บรู๊ซ ลี เป็นการดวลกันในวงกตกระจก ที่ตัวร้ายสามารถโผล่มา หรือหายไปได้เมื่อไหร่ก็ได้ มันเจ๋งมาก และสร้างฉากบู๊ที่สนุกได้ หนังบู๊เอเชียมีอิทธิพลอย่างมากในหนังเรื่องนี่ คุณไปดูหนังบู๊เอเชียเรื่องไหนก็ได้ คุณจะได้เห็นภาพกว้าง คุณจะได้เห็นนักแสดงที่มีทักษะ ถ้าคุณใช้การตัดต่อช่วย ผมคิดว่ามันคือการโกง โชคดีที่ทีมนักแสดงของเรามีทักษะทุกคน ตัวผมเองก็เรียนด้านศิลปะป้องกันตัวมา 25 ปีแล้ว