ส่องหนังไทยตลอดปี 2559 | คมชัดลึก

    ในปี 2559 ที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีภาพยนตร์ไทยจำนวนน้อยกว่าทุกปี เมื่อครั้งแรกที่เริ่มประชุมคณะกรรมกล่าวว่าหนังไม่ค่อยน่าสนใจ แต่กลับกลายเป็นว่าภาพยนตร์ไทยที่เด่นๆ กลับเข้าฉายปลายปีเสียส่วนใหญ่ มาดูกันดีกว่า ว่ามีภาพยนตร์ที่เข้าตากรรมการกันบ้าน

 
    เริ่มต้นที่ภาพยนตร์เรื่อง “อวสานโลกสวย” ค่าย กันตนา ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้บทเด่นตกอยู่ที่ “สายป่าน” อภิญญา สกุลเจริญสุข ในบท เกรซ เด็กสาวลึกลับผู้มีอดีตอันเลวร้ายกับการเคยเป็นเน็ตไอดอล ในขณะที่ “มายด์” ณภศศิ สุรวรรณ รับบทแคร์ซึ่งเป็นเน็ตไอดอลในเรื่องก็เล่นได้น่าสนใจไม่แพ้กัน ถัดมาที่ “ลูกทุ่งซิกเนเจอร์” ของค่ายสหมงคลฟิล์ม ซึ่งเรื่องนี้มีนักแสดงมากมายหลายคู่ และหนึ่งในคณะกรรมการของเรากล่าวว่า “กอล์ฟ” เบญจพล ที่รับบทเป็นคนขับแท็กซี่นั้น แสดงได้โดดเด่นที่สุด 

    นอกจากนี้ยังมีเรื่อง “ขุนพันธ์”  ที่เลื่อนฉายมาหลายครั้งเพราะรอเวลาเหมาะสม ก็ส่งให้ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ น้อย กฤษดา สุโกศล แคลปป์ เข้าตากรรมการในฐานะนักแสดงนำและนักแสดงสมทบชาย

ส่วนภาพยนตร์เรื่อง “Take me home สุขสันต์วันกลับบ้าน” ค่าย นอร์ธ สตาร์ โปรดักชั่น หนังเรื่องนี้เข้าตาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบทที่ซับซ้อนและดูแหวกกว่าหนังสยองขวัญเรื่องอื่น รวมถึงการกำกับของ “โขม” ก้องเกียรติ โชมศิริ  นอกจากนี้นักแสดงนำชาย อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ก็แสดงได้ดีเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ “วิว” วรรณรท สนธิไชย ก็ดูเหมือนจะเข้าตากรรมการในฐานะนักแสดงนำหญิง แม้จะเล่นภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกก็ตาม แต่ความเก๋าของเธอก็ไม่แพ้ใคร และที่สะดุดตาในเรื่องการแสดงคงหนีไม่พ้น นพชัย ชัยนาม ที่มารับบทเป็นสามีของสาววิวในเรื่องนั่นเอง 

    ปีนี้มีหนังของค่ายจีดีเอช 559 เข้าฉาย 2 เรื่อง คือ “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ที่เรื่องนี้ก็เข้าตากรรมการทั้งเรื่องบทและการกำกับของ บรรจง ปิสัญธนะกูล นอกจากนี้การแสดงบทนางเอกของ “มิว” นิษฐา จิรยั่งยืน ก็โดดเด่น ในขณะที่ “เต๋อ” ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ก็ทุ่มทุนเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมากมาย เพื่อแสดงบทพระเอกในเรื่อง ส่วน “ตุ้ย” ธีรภัทร์ สัจจกุล ก็แสดงเป็นหนุ่มเพอร์เฟกท์ที่สาวๆ อย่างครอบครองได้อย่างแนบเนียน  

ในขณะที่เรื่อง “พรจากฟ้า” แม้จะทำเงินไม่เข้าเป้าเพราะขายบัตรในราคาพิเศษ แต่เรื่องนี้โดดเด่นเรื่องบทกับแนวคิดดีๆ ที่นำเพลงพระราชนิพนธ์ 3 เพลงมาร้อยเรียงเพื่อเป็นของขวัญแก่คนไทย รวมถึงการแสดงของ “วี” วิโอเลต วอเทียร์ ในบทภรรยาท่านทูตคู่กับ “นาย” นภัทร เสียงสมบุญ ก็ไม่ทำให้เสียชื่อที่เคยได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปในปีที่แล้ว 

    ในปีนี้มีหนังนอกกระแสเข้าฉายหลายเรื่อง ที่เข้าตากรรมการก็มีไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “เทริด” ที่ เอกชัย ศรีวิชัย ทำหน้าที่้เขียนบท กำกับและแสดงนำเองนั้น กรรมการมองว่าในเรื่องนี้เอกชัยในเรื่องการแสดง ซึ่งสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของคนเป็นพ่อ และครูโนราได้อย่างเข้าถึง  

ซึ่งในปีนี้ยังมีภาพยนตร์เรื่อง “ธุดงควัตร” ของ บุญส่ง นาคภู่ ที่ได้รับคำชมจากคณะกรรมการอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นการชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับ บท รวมถึงนักแสดงนำชายและสมทบชาย  นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์เรื่อง “ดาวคะนอง” ที่กำกับและเขียนบทโดย อโนชา สุวิชากรพงศ์

รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง “ป่า” ของผู้กำกับชาวต่างชาติหัวใจไทย อย่าง พอล สปาเรีย กับการนำเรื่องราวความเชื่อเรื่องผีสางมาบอกเล่าผ่านหนังเรื่องนีี้ นอกจากเด็กชายและเด็กหญิงในเรื่องแล้ว อัสนี สุวรรณ ก็แสดงเป็นครูชนบทได้อย่างสมบทบาท หรือจะเป็นหนังเพศที่ 3 อย่าง “Fathers” ซึ่งเหล่าคณะกรรมต่างมองว่า “นก” สินจัย เปล่งพานิช ถ่ายทอดการแสดงเรื่องออกมาได้ดีทีเดียว

    นอกจากนี้ยังมีหนังเรื่อง “Bangkok Stories บางกอกสตอรี่” หนังสั้น 6 เรื่อง ที่แต่งชื่อแต่ละตอน เป็นสถานที่เด่นๆ ในกรุงเทพอย่าง “เยาวราช” ที่กำกับโดย สายป่าน อภิญญา “ข้าวสาร” ที่กำกับโดย ใหม่ อโนชา “สีลม” ที่กำกับโดย วรกร ฤทัยวาณิชกุล “พาหุรัด” ที่กำกับโดย โสรยา นาคะสุวรรณ “หมอชิต” กำกับโดย วิชชานนท์ สมอุ่มจารย์ และ “สุขุมวิท” ที่กำกับโดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ ก็นำเสนอเรื่องราวได้น่าสนใจจนดูเหมือนจะติดโผทั้งเรื่องการกำกับ บท รวมถึงหนังเยี่ยมในปีนี้ แถมในหนังทั้ง 6 เรื่อง ยังมีนักแสดงมากฝีมือร่วมถ่ายทอดเรื่องราวมที่ไม่ควรมองข้ามหลายคน นอกจากนี้ยังมีหนังสั้น 3 เรื่องมารวมกันโดยใช้ชื่อเรื่องว่า “Lost in Blue  ระหว่างเราครั้งก่อน” ขอบอกว่าเรื่องนี้โดดเด่นทั้งเรื่องราว การกำกับ และการแสดงไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เช่นเดียวกัน 

    ในช่วงปลายปี “ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน่ ก็มาประกาศศักดาความสามารถทางการแสดงผ่านภาพยนตร์เรื่อง “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” กับค่าย ซีเจ เมเจอร์ (CJ MAJOR) เรื่องนี้ได้รับเสียงชื่นชมมากกว่าเรื่องที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงในปีที่แล้วเสียอีก ผลงานการกำกับโดย อารยะ สุริหาร ซึ่ง “นุช” นีรนุช ปัทมสูต ที่แสดงเป็นสาวใหม่ในวัยสูงอายุก็ได้รับเสียงชื่นชมด้านการแสดง อย่างล้นหลามจากเรื่องนี้เช่นเดียวกัน 

    ปิดท้ายที่ภาพยนตร์เรื่อง “ปั๊มน้ำมัน” ของผู้กำกับ “กอล์ฟ” ธัญญ์วาริน สุขุพิสิษฐ์ แม้หนังเรื่องนี้จะทำเงินไม่มาก แต่เหล่าคณะกรรมการมองว่าภาพยนตร์นี้มีความคิดสร้างสรรค์ทั้งการกำกับ รวมถึงบทของเรื่องที่มีการใช้บางสิ่งบางอย่างในการสื่อสาร ก็ส่ง เพ็ญพักตร์ ศิริกุล และ แม็กกี้ อาภา ภาวิไลในฐานะผู้เข้าชิงสมทบหญิงด้วย
    ส่วนผู้เข้าชิง 5 อันดับในสาขาต่างๆ รางวัลคมชัดลึกอวอร์ด ประเภทภาพยนตร์ไทย จะมีใครบ้างนั้น ติดตามได้ในเดือนหน้า รู้ผู้เข้าชิงชัยอย่างแน่นอน