บันเทิง

ไตรโทน - Jukebox Musical

ไตรโทน - Jukebox Musical

25 ส.ค. 2552

คำว่า "ดูหนังฟังเพลง" เนี่ย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มันป็นของคู่กันจริงๆ

  น้อยคนนักจะไม่ชอบฟังเพลง แต่ชอบดูหนัง ใครรู้จักคนแบบนี้ช่วยแนะนำทีนะครับ อยากขอลายเซ็น เอาล่ะ ฟังทางนี้ครับ ผมเองเป็นอีกคนที่ชอบดูการแสดงมาก ส่วนใหญ่ก็เริ่มจากชอบดูหนังเนี่ยแหละ หนังไทย เนี่ย โอโห พี่เลี้ยงจับนั่งข้างๆ ดูทีวีตอนแม่ไม่อยู่ ตั่งแต่จำความได้ มิตร ชัยบัญชา เกิดอุบัติเหตุ ผม ห้าหกขวบเอง ตอนนั้น อินทรีแดง มาฉายในทีวี เป็นภาพ ตอนกำลังหล่นจากบันไดลิง แล้วเขาก็หยุดภาพไว้ เล่นซ้ำไปซ้ำมา มีเสียงโฆษกชายประกาศแทรกเล่าเรื่องราวให้ฟัง พอเรารู้ว่ามันคือของจริง ของสด เท่านั้นแหละ มันฝังลงไปในสมองเลย

 ก็ตามประสาเด็กผู้ชายอะครับ ดูอะไรประทับใจอะไรก็จะจำ อย่างดูหนังสงคราม พอดูเสร็จ ซักพัก กับน้องชายชื่อนายเจ ก็ต้องเอาไม้แบดมาทำเป็นเอ็มสิบหก ยิงกันรอบบ้าน ดูไอ้มดแดงก็เล่นแปลงกายกันใหญ่ อยากเป็นมด แปลงกายอยู่นั่นแหละไม่ได้ต่อยสักที เคยมีครั้งหนึ่งตั้งใจแปลงกายมากจนนึกว่าเป็นมดแดงไปแล้ว กระโดดเตะสองขาแบบในทีวี แม่บ้านคงฉีดยากันฆ่าแมลงมั้ง ผมหล่นลงมากองกับพื้น ตอนจบคือเข้าเฝือกที่แขนข้างซ้าย กระดูกร้าวเลย

 นั่นคือการเรียนแบบ คือชอบอะไรที่แบบสดๆ แบบ live เหมือนฟังเพลง พอดูเล่นสดๆ ปุ๊บ โอโห! ถอนตัวไม่ขึ้น ตอนนั้นฟัง bee gees แล้วชอบมาก แต่ยังเล่นดนตรีแบบก๋องๆ แก๋งๆ เล่นได้ก็แค่  started a joke ก็ไปห้องซ้อมแถวพระโขนง มีวงอาชีพซ้อมอยู่ เหลืออีกประมานสิบนาทีจะหมดเวลา เราก็ไปนั่งข้างๆ ห้อง ปรากฏว่าเวลามีคนเดินเข้าเดินออกเสียงดนตรีทีมันพุ่งออกมาผ่านประตูเก็บเสียง มันทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปเลย คือมันบันเจิดอิ่มเอมในชีวิตมาก มันเป็นดนตรี disco ที่แบบเมดเลย์ ไม่มีหยุดเลย

 ตอนนี้พอจะรู้แล้ว ว่าเขาคงต่อแพลงไปแสดงที่บาร์แหงๆ แต่ตอนนั้นมันหลงใหลแบบยืนติดกระจกสี่เหลี่ยมบานเล็กๆ แบบไม่อายเลยที่เอาหน้าไปมุงดูเขาแบบนั้น หลังจากนั้นไปก่อนเวลาทุก weekend เลยครับ จนรู้จักพวกพี่เขา หลังๆ อนุญาตให้เข้าไปข้างในด้วยเลย  กะนายก้อง สหรัถ นี่แหละ คิดอยู่อย่างเดียว อยากเล่นแบบนี้มั่ง……

 ตอนเด็กๆ เลยนะครับ บ้านอยู่ซอยทองหล่อ 16 หลังบ้านเป็นคอรด์แบดมินตัน ข้างบนมีห้องซ้อมดนครี ของพระธิดาใน พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา เรียกขานกันว่า หญิงเล็ก (อ๋าย) เมื่อไรที่วงนั้นมาซ้อม ผมก็ไปแอบดูแต่จะรู้สึกว่าหนวกหูมาก เพราะตอนนั้น 6 ขวบ!!!

 เอาละครับ พอตอนโตมาได้เจอวงที่ห้องซ้อมย่านพระโขนงแล้วนั้น ความคิดแรกเลยคือ อยากเข้าบาร์!!!! เพียงแค่คิด ผลการเรียนก็ตกทันทีสำหรับเด็กอายุ 15 แต่…ไปครับ!  pub bar เนี่ยตอนนั้นไม่มีตรวจบัตร กินเหล้ายังไม่เป็นเลย ราคาร้อยยี่สิบ ได้ soft drink สองที่ topper club ตึกนายเลิศ (กรุณาอย่านับอายุผมเลยครับ รับรองมีแก่กว่าอีกแยะ)

 นี่ไงครับ ของสดๆ มันมีเสน่หมาก ดูทีวีก็เอามาแอ็กติ้ง เพื่อได้ความสด ฟังเพลงก็ต้องดูแบบสดๆ
 กลับมาเรื่องการแสดง โอโหอันนี้ของชอบเลย พอตอนเป็นหนุ่ม หน้าตาจัดว่าดี เขาให้ไปเรียน แอ็กติ้งกับครูแอ๋ว แล้วเล่นละครทีวีเลย ตอนนั้นพวก มิก แจ็กเกอร์ กับ อริค แคลปตั้น โทรมาบอกในฝันทุกคืน บอกว่า อย่าเล่น อย่าเล่น no no don' t do it man! เลือดร็อก แอน โรลล์ มันจะจางไปทันทีที่เริ่มเล่น …แต่…ทนราคาไม่ไหวครับ  

 ปรากฏว่าก็รายได้ดีทีเดียว จนถึงวันนี้ สิบกว่าเรื่อง ไอ้เพื่อนผมที่ชื่อก้องนี่ทุกวันนี้มันยังไม่หยุดเล่นเลย เป็นเสี่ยไปแล้ว ผมมักจะบอกเชิงแซวๆ เสมอว่า ใส่อารมณ์ เยอะๆ นะเพื่อน จะรอดูผลงานเสมอ (มันขำใหญ่) ที่ผมประทับใจไม่มีวันลืมอีกก็คือ ได้รับบทในละคร musical เรื่อง Cinderella แสดงกับ นุสบา ที่กาดสวนแก้ว เชียงใหม่ 18 รอบ ประมานปี 2536 แล้วเป็นไง…โอ้โห…ชีวิตเปลี่ยนอีกแล้ว คือทีมงานประกอบไปด้วย ลูกศิษย์อาจารย์บรูซ แกสตั้น ชื่อว่า คุณไก่ ไกรวัลย์ ทำดนตรี ออเครสเตรชั่นทั้งหมด ผู้ประพันธ์เนื้อเพลง คือคุณโจ้ กำกับโดยคุณลิง แห่ง dass entertainment ผู้ออกแบบลีลา คือคุณโจ้ ภัคดีเทวา

 จะไม่ให้ชีวิตเปลี่ยนได้ไง ทุกคน คือตัวแม่หมด ส่งถ่ายพลังงานมาให้ผมแบบ ถึงกะต้องเรียก อาจารย์...ดนตรีสด…แสดงสด…มาอยู่ด้วยกัน ต้องเรียกว่า เหมือนอยู่ในสวรรค์ ผมได้เจอของชอบอีกอย่างแหละ นั่นคือ "ละครเวที" โดยเฉพาะ musical play

 สดมั้ยครับ สดมาก ชอบมากๆ จนพออายุได้ 35 ก็เดินทางไปเลย London ปรากฏว่าในช่วงนั้น บินไปกลับ นับได้ 12 เที่ยว ในสองสามปี บางคนนึกว่าผมมีแอบเก็บไว้เมืองนอกคนหนึ่ง มีลูกมีเต้ากันเลย อ้าวว่าไป…มีบางทริป การบินไทยเขามีโปรโมชั่น ซื้อชั้นธุรกิจ 1 ที่แถม 1 ที่ ก็ชวนอาจารย์ป้อม แห่งมอร์ มิวสิค เดินทางไปแบบกะหนุงกะหนิงกันสองคน ทริปนั้นไปดูแจ๊สเลย เรื่อง Chicago พอนับดู ผมดูของสดๆ แบบนี้ไปเยอะทีเดียว ก็จะมี  phantom of the opera Lion king….Bombay dream….Woman in white….The producer...les miserable

 ส่วนพวกละครแบบ ประเภท jukebox mucial  ก็จะมี.…Rat pack….jail houserock( Elvis presley)….We will rock you 2 รอบ…. Chicago 2 รอบ  Mamamia 4 รอบ….ส่วนเรื่อง  staying alive (bee gees) กับเรื่อง Love (The Beatles ) สองเรื่องนี้ยังไม่ได้ดูแต่คงต้องเร็วๆ นี้แน่นอน Cats ไม่ได้ดูครับที่โน้นเขาเลิกเล่นไปแล้ว ส่วนตอนมาเมืองไทยไม่ได้ไป  เสียดายทีเดียว

 ของไทยก็ดูครับ บัลลังก์เมฆ นางนาค  แม่นาค นี่ทั้งของ เอ็กแซกท์ และ dreambox ดูหมด คือชอบมากของสดๆ ดีๆ ทั้งน้าน ที่ชอบดูหลายรอบก็คงจะหนีไม่พ้น musical play สมัยใหม่ ที่เขาเรียกกันว่า jokebox musical นั่นหมายถึง นำเพลงที่มีอยู่แล้วในวงการดนตรี pop rock มาร้อยเป็นละคร อย่างเช่น We will rock you ก็จะนำเพลงของ วง Queen มาร้องทั้งเรื่อง Staying alive ก็เพลง วง Bee Gees ทั้งเรื่อง

 ทีนี้ผมก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ชอบมากเหรอ? เนื้อเรื่องอ่ะ  ถึงได้ดูหลายรอบ ปรากฏว่า ไม่เชิงครับ ที่ชอบในการคิดเรื่องให้เพลงไปหยอดๆ ใส่อย่างเนียนๆ นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญอยากฟังของสดๆ ไม่เชื่อให้ไปหามา ถ้ามี Pub ไหนมีวงมาเล่น Bee Gees ให้ฟังอย่างเนียนๆ หรือ เล่น Queen แบบฝรั่งมาร้อง as a pro. เนี่ยนะ ถ้ามีผมก็คงไปฟังบ่อยๆ แต่นี่มันไม่มีไง แล้วเสน่ห์ของเพลงยุคนั้นก็คงไม่ต้องบรรยาย อย่างของ ABBA ในเรื่อง Mamamia เนี่ย สุดยอด (พวก Rock 'n Roll แอบไปดูกันเป็นแถว เขาเรียกพวก abba หมกเม็ด กลัวไม่เท่ถ้าบอกชอบ)

 นี่ที่มาเล่นล่าสุดนี้ก็ไปดูมา เวทีกับฉาก ก็โอเค ถือว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ จากที่ London เนื้อเรื่องไม่หลุดก็โอเค แต่ที่สะดุดมากสุด คือคนที่รับบทเด่นเป็นตัวแม่ อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร คือแข็งได้อีก ไม่เอาเราอย่าไปว่าเขา

 คือผมเคยคิดตั้งแต่ดูเมื่อสิบปีมาล่ะว่า เพลงบ้านเราในวงที่เพลงฮิตเยอะๆ นะจะทำบ้าง วันนี้ก็เริ่มอิ่มเอิบใจเมื่อเห็นว่า จะมี เฉลียง เดอะ มิวสิเคอร์  กับ บอยด์ โก เดอะมิสิเคอร์  เอาละครับต่อไปนี้ jockbox musical ก็จะเจริญรุ่งเรืองอีกถ้าทำกันดีๆ นะ (นูโว ก็เพลงฮิตเยอะนะ ใครนึกบทละครออกก็เชิญไปคุยกับอากู๋โน่น อีกหน่อยอาจจะมี อัสนี วสันต์  เดอะ มิวสิเคอร์ หรือ นูโว เดอะมิวสิเคอร์) เต็มที่ไปเลยครับพี่น้อง

"จิรายุส วรรธนะสิน"