สุดยอดบทบาทต้องพูดถึงแห่งปี ‘เจ้าแม่นาคี’ ปะทะ ‘คุณอุบล’ | คมชัดลึก

    ในปีที่ผ่านมา หากพูดถึงบทบาทการแสดงที่ถูกกล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมากจากคนดูละครทั่วประเทศ และกระแสต่างๆ ในโลกโซเชียล ในปีนี้ต้องยกให้แก่สองบทบาทที่ฟาดฟันขับเคี่ยวกันมาแบบกินกันไม่ลง อย่างบทบาท “คุณอุบล หรือ สโรชินี”  ที่นำแสดงโดย “นุ่น” วรนุช  ภิรมย์ภักดี  จากละครเรื่อง “พิษสวาท” ทางช่องวัน อีกหนึ่งบทบาทก็คืิอ “เจ้าแม่นาคี หรือ คำแก้ว” ที่ได้นักแสดงสาวมากฝีมือ “แต้ว” ณฐพร เตมีรักษ์ จากละครเรื่อง “นาคี” ทางช่อง 3  วันนี้ “คม ชัด ลึก” มีโอกาสพูดคุยกับ 2 นักแสดงสาวเจ้าของบทบาทแห่งปี 
“นุ่น” วรนุช สู่ คุณอุบล/สโรชินี ใน “พิษสวาท”
    เรียกว่าเป็นบทบาทที่พูดถึงมากที่สุดในปี 2559 เลยทีเดียว สำหรับบทบาท “คุณอุบล” จากละคร “พิษสวาท” ที่ถูกถ่ายทอดโดยนักแสดงสาว “นุ่น” วรนุช ในบทบาทนางรำผู้มีความอาฆาตทีี่่ถูกจองจำให้ทำหน้าที่เฝ้าทรัพย์สมบัติของชาติด้วยคำสัตย์ที่คนรักลวงล่อ ที่เรียกกระแสฮือฮาอย่างมากและสร้างปรากฏการณ์ให้ช่องวัน ด้วยการสร้างเรตติ้งที่สูงที่สุดของช่อง วันมาครอบครอง  โดยเฉพาะฉากที่พูดถึงมากที่สุดคือ ฉาก “พระอรรค” ที่นำแสดงโดย “ป้อง” ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ฟันคอ “คุณอุบล” เพื่อให้เฝ้าสมบัติแผ่นดิน งานนี้ “คม ชัด ลึก” ได้มีโอกาสพูดคุยถึงการตอบรับที่ดีของสุดยอดบทบาทแห่งปีของนุ่น 
    กระแสตอบรับมีคนพูดถึงเยอะ และทุบทุกสถิตของช่องวัน 
    ปลื้มใจ ดีใจนะ ที่คนดูชม เพราะว่าทุกคนก็เต็มที่ เป็นความภาคภูมิใจของทีมงาน นักแสดง ผู้กำกับ และทุกๆ คนนะ เพราะทุกคนตั้งใจกันทำงานเต็มที่  เมื่อผลงานออกมาดีก็ถือว่าเป็นโบนัสของทุกคน  ไม่ใช่แค่นุ่นคนเดียว ต้องบอกว่าพี่สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) เก่งมาก เป็นผู้กำกับที่ตั้งใจทุกอย่าง มีการคิดเป็นการบ้าน งานนี้ต้องปรบมือให้พี่สันต์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรตติ้งที่ทุบทำลายทุกสถิติของช่องวันด้วย กระแสต่างๆ ด้วย ขอบคุณทุกๆ คนที่ได้ติดตามและชื่นชอบตัวละครตัวนี้จริงๆ 

    ฉากที่พูดถึงมากในโซเชียลคือฉากโดนฟันคอ
    ดีใจ ต้องขอบคุณที่ให้กำลังใจกันตั้งแต่ตอนแรก เรื่องนี้ให้อะไรเยอะมาก มากกว่าความรักความเกลียดชัง เป็นเรื่องของชาติ เรื่องของแผ่นดิน ต้องบอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ละครตบจูบเนอะ คือแต่ละเรื่องก็มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน แต่เรื่องนี้มีเสน่ห์ในความเป็นพีเรียดของความเป็นไทย ซึ่งไม่มีละครแบบนี้ให้เล่นบ่อยๆ อย่างเรื่องราวมันมีมาในสมัยก่อน ในเรื่องของแผ่นดิน เรื่องทรัพย์สมบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ
    ถือเป็นนางเอกคนแรกที่ทำลายสถิติเรตติ้งเปิดตัวตอนแรกของช่องวัน
    ดีใจๆ (ออกอากาศตอนแรกกระแสดี คนดูคาดหวัง) คือเป็นเรื่องราวของคุณอุบล มีการกลับมาเพื่อชำระแค้น มาทวงความยุติธรรมของตัวเอง เป็นการทวงความยุติธรรมในแบบของคุณอุบล คือเขามีทั้งความรักความแค้น
    เป็นละครที่ยากสำหรับนุ่นไหม
    นุ่นว่ายากนะ อ่านบทประพันธ์ อ่านเยอะ เราต้องทำความเข้าใจ ในเรื่องคำพูดก็ยาก และทุกคำมันมีความหมาย คำเชื่อมหรือคำพูดเราต้องเป๊ะ 99 เปอร์เซ็นต์ แล้วต้องใส่ชุดไทย ที่ต้องมีชฎา เนื่องจากเจ็บหัว เจ็บหู แต่ก็เริ่มชิน เพราะบางวันใส่ทั้งวัน อย่างฉากพูดกับพระยมถ่ายตั้งแต่ 10 โมง ถึง 5 ทุ่มครึ่ง
    ถือว่าเป็นการที่ตัดสินใจถูกไหม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธรับเล่นเรื่องนี้ไป
    เราทำงานอย่างตั้งใจดี และปรารถนาดี (เหมือนเจ้าของเรื่องเลือกเราแล้ว) นุ่นก็ไม่รู้นะ แต่มีอะไรหลายๆ อย่างที่มันโอเค เราอธิบายให้คนเข้าใจได้ลำบาก มันดีกับใจ โอเคเลย(ยิ้ม) ถามว่ากดดันมั้ยที่มาเล่นบทนี้ ไม่กดดันเลย คือไม่ว่าเราจะทำงานอะไร เราก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ถ้าคนชอบก็ถือว่าเป็นกำไรของเรา เป็นโบนัสของเรา เราและทีมงานมีความตั้งใจ

    ด้วยความที่เป็นละครที่ดูเคียดแค้น ตอนถ่ายทำมีเครียดบ้างไหม
    ไม่เครียดเลย ในกองสนุกมาก สนิทกันหมด เพราะกับทีมงานก็รู้จักกัน ป้อง (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ก็เคยร่วมงานกันมาแล้ว ยอมรับว่าเราอ่านบทประพันธ์ อ่านหนังสือ เพื่อทำความเข้าใจ และมีโอกาสได้คุยกับยายอี๊ด (ทมยันตี) นุ่นเคยถามคุณยายว่าเขาบอกว่ามันเป็นเรื่องประพันธ์ เรื่องแต่ง ทำไมคนถึงบอกว่ามีจริง คือเราไม่เข้าใจ ซึ่งมีหลายๆ อย่างตามที่มีข่าว ตามที่คุณยายให้สัมภาษณ์
    คุณทมยันตี เจ้าของบทประพันธ์ พอใจกับการที่นุ่นได้รับเล่นเรื่องนี้ด้วย
    การเป็นนักแสดง ถือว่าเป็นบทที่ท้าทาย ก็ไม่เคยเล่นเป็นผู้หญิงที่มีอายุเกิน 249 ปี วันที่ถ่ายคุยกับพระยม ฉากสีทองๆ ด้านหลัง ชื่อวัดพระขาว อยู่ที่อยุธยา เป็นกุฏิ และเป็นที่ตั้งของศพหลวงพ่อ เขากั้นผ้า ก็อยู่กับท่านตลอดทั้งวันทั้งคืน แล้วในบทพระยมจะถามว่า เจ้าทุกข์ทรมาน และทำหน้าที่นี้มากี่ปีแล้ว เราก็ตอบว่า 249 ปี แล้ววันนั้น ก็ตรงกับ 249 ปี เป็นวันที่เสียกรุงพอดีวันที่ถ่าย คือเป็นจังหวะพอดี คือเราก็ทำส่งบุญให้กับคุณอุบล แล้วก็คนที่เคยเล่นในเรื่องนี้ที่เสียชีวิตไปแล้ว แล้วก็บรรพบุรุษของไทยเรา
    คำว่าผลงานที่เป็นชั้นเยี่ยมจากนุ่น และการรักษาคุณภาพการแสดง 
    ใจจริงก็อยากจะทำทุกชิ้นงานให้ออกมาดีที่สุดนะ ขึ้นอยู่กับที่คนดูด้วยแหละ ไม่ใช่นุ่นเพียงคนเดียว ยังมีทีมงานอื่นๆ อีกมากมายด้วยที่คอยซัพพอร์ตกันทุกคน ต้องร่วมแรงรวมใจกันทุกๆ ฝ่าย การรักษามาตรฐานการแสดงของตัวเองออกมาและศึกษาเข้าถึงตัวละครที่ได้รับมอบหมายทำความเข้าใจและแสดงส่งออกมา ที่สำคัญต้องคิดดี ตั้งใจ เพราะเราอยากจะเป็นคนที่ทำอาชีพนักแสดง คำคำนี้คือสิ่งที่นุ่นต้องการให้ทุกคนยอมรับเราและคงคุณภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุด 
    “แต้ว” ณฐพร สู่ “เจ้าแม่นาคี/คำแก้ว” ใน “นาคี”
    สำหรับละครเรื่อง “นาคี” แห่งค่ายแอคอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด นำแสดงโดยนางเอกสาว “แต้ว” ณฐพร ที่ทุ่มสุดตัวกับการรับบทบาทเป็น “คำแก้ว” และ “เจ้าแม่นาคี” ผ่านการพิสูจน์ฝีมือในการแสดงมาจากละครหลายเรื่อง จนชื่อของนางเอกสาวหน้าหวานกลายเป็นโลโก้การันตีคุณภาพ วันนี้ “คม ชัด ลึก” ได้พูดคุยกับนางเอกสาวถึงบทบาทเจ้าแม่นาคี ที่หลายคนต่างพูดถึงกันในปีนี้ 
    บทบาทเจ้าแม่นาคี คำแก้ว สำแดงเดช
    ตื่นเต้นและดีใจมาก คือบอกเลยว่าตอนที่เล่นเราเป็นตัวละคร แต่เรายังไม่เห็นภาพว่า ตอนที่ตัวละครต้องมาอยู่กับซีจีแล้วจะเป็นยังไง ตอนนั้นเราเล่นแบบแห้งๆ ยังไม่เห็นอะไรชัดเจน แต่พอออกมาเป็นภาพในละคร เราจะเห็นเรื่องราวชัดเจนขึ้น เพราะมีการตัดต่อใส่ซาวนด์ดนตรีเข้าไป ส่วนงูที่ดีไซน์ออกมาสวยมาก
    รู้สึกยังไงตอนที่ถ่ายทำแล้วต้องเล่นกับจินตนาการตัวเอง
    มีความกังวลก่อนที่เราจะเล่นเหมือนกัน แต่ตอนที่เราต้องอยู่ในฉาก เราจะเป็นตัวละคร มีอยู่ฉากหนึ่งที่มีตัวละครที่ชื่อว่า “เปรตงู” เราก็ไม่รู้ว่าเปรตงูหน้าตาเป็นยังไง พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ผู้กำกับ) เขาจะพยายามอธิบายให้เราฟัง รวมถึงมีฉากในถ้ำ ที่เราต้องดีไซน์ให้เป็นเมืองบาดาล แต่ตอนที่เราเข้าไปถ่าย คือถ้ำมืดๆ (หัวเราะ) ซึ่งพอออกมาเป็นภาพที่เห็นในละครคือดีมาก
    ความยาก-ง่ายในการถ่ายทำละครเรื่องนี้
    ความง่ายไม่ค่อยมีเท่าไหร่ มีแต่ความยาก อย่างเรื่องการอ่านบท เราต้องใช้เวลาเยอะเหมือนกัน เพราะมีเรื่องของภาษาและสำเนียงอีสาน เราอยากให้ออกมาดี และเราโชคดีที่มีครูมาสอนภาษาอีสาน ซึ่งเป็นคน จ.อุบลราชธานี มาอยู่ในกองถ่ายด้วยตลอด คอยรีเช็กให้ว่าเราพูดได้ดีมั้ย หรือมีคำไหนต้องปรับแก้ และเรื่องตัวบทละครมีความซับซ้อน เราต้องใช้พลังในการแสดงค่อนข้างเยอะ เพราะใครจะไปคิดว่าอยู่มาวันหนึ่ง เราต้องมาเป็น “เจ้าแม่” เราเลยอยากรู้ว่าสิ่งที่เราคิดและตีความตอนแสดง จะออกมาเป็นอย่างไร นอกจากนั้น ยังยากในเรื่องของซีจี และการเล่าลำดับเรื่องราวด้วย เส้นของช่วงเวลาที่อธิบายให้เห็นเป็นภาพได้ค่อนข้างยาก พอมาทำเป็นละครจะน่าตื่นเต้นตรงนี้ว่า จะเล่าเรื่องออกมายังไง ให้คนดูเข้าใจ ซึ่งเป็นความยากของทางทีมงานตัดต่อด้วย
    คนชมแต้วเรื่องการพูดภาษาอีสาน
    เราจะพอรู้วิธีในการทำงานแล้วว่า เวลาต้องพูดภาษาอีสานจะเตรียมตัวอย่างไร แต่ในเรื่องการออกเสียง สำเนียง จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ต่างจากตอนเล่น เรื่อง “คุณชายรัชชานนท์” เพราะพี่อ๊อฟรู้แล้วว่าเราทำได้ เพราะฉะนั้นเขาจะใส่ให้เราเต็มที่กว่าเดิมเลย และในเรื่องมีหลายคนที่ไม่ใช่คนอีสานอย่าง อาปุ๊ (มนตรี เจนอักษร) ก็ต้องฝึกพูด และไม่ใช่แค่การพูดให้เหมือน แค่ความรู้สึกที่เราใส่ลงไปในคำพูด บางทีทำให้การเปล่งเสียงวรรณยุกต์เพี้ยน แต่จะได้ความเป็นธรรมชาติ ซึ่งอาปุ๊เก่งมาก มีพี่อุ้ม (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ด้วย ซึ่งทุกคนตั้งใจกันมาก แต่เวลานอกฉาก ก็พูดภาษากลางกันนะ ไม่มีใครพูดอีสาน เพราะเดี๋ยวจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ)
    เล่นกับ “เคน” ภูภูมิ พงษ์ภาณุ เรื่องแรก
    ดีนะ เราเคยดูงานของเคน รู้สึกว่าเขาตั้งใจ มีฝีมือ เขาเล่นเป็น “ไชยสิงห์” และ “ทศพล” ที่ทำให้คนดูชอบ พี่อ๊อฟจะใส่เสน่ห์ของเคนเติมเข้าไป ทำให้ดูน่ารักดี คนก็คงหลงอยากเป็นคำแก้ว (หัวเราะ) ซึ่งตัวจริงเคนเขาจะมีความขี้เล่น แต่ทศพลเขาจะเป็นคนจริงใจ พูดอะไรก็พูดจริง ทำให้คนฟังรู้สึกว่า หวานเหลือเกิน ในกองเคนเป็นคนตั้งใจทำงานมาก ต่างคนต่างเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีในการเล่นละครเรื่องนี้ 
    “นาคี” กระแสแรงจนสร้างเรตติ้งที่สูงได้สำเร็จ 
    ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในทีมงานเราดีใจนะ เพราะว่าเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายมากๆ กระแสตอบรับเสียงที่เข้ามาคอนเมนท์ คนที่เราเจอหน้าแล้วเขาแฮปปี้นะ ส่วนในเรื่องเรตติ้งก็เป็นอะไรที่ตาม เหมือนทำให้คนที่ทำงานก็ยิ่งแฮปปี้มากขึ้นนะ ถามว่าคาดหวังมาก่อนไหมว่าเรตติ้งจะถล่มทลายขนาดนี้ ไม่นะ เพราะว่าตอนทำงานเราก็ไม่รู้หรอกว่าจะออกมารูปแบบไหน คนจะชอบหรือเปล่า แล้วคนอีสานเองให้การยอมรับหรือเปล่า และอย่างที่บอกว่าตอนนี้มันเกินคาดมากแล้ว เป็นกำไรของคนทำงาน
  

 และนี่คือสองบทบาทที่ถูกกล่าวขวัญแห่งปี “คุณอุบล” VS “เจ้าแม่นาคี”