"หมาก" ปริญ สุภารัตน์ ยันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์คดีทำร้ายลูกชายนายพล รับเครียดกับข่าว เผยเตรียมบินให้ปากคำตำรวจที่เชียงใหม่วันนี้
ยังคงเป็นที่ติดตามความคืบหน้ากับคดีการ์ดทำร้ายร่างกายลูก ผบ.มทบ.38 ที่เชียงใหม่ ที่มีชื่อดาราเอี่ยวด้วย รวมถึง “หมาก” ปริญ โดยเจ้าตัวเผยเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมด ดังนี้
"สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก เรื่องราวที่เกิดขึ้นผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรื่องราวไปถึงไหนแล้ว แต่สำหรับผม วันนั้นผมไม่รู้เรื่องจริงๆ สำหรับเรื่องการ์ด ผมขอเล่าให้ฟังเลยแล้วกัน วันนั้นผมนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วผมก็ถามพี่คนหนึ่งว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน พอเขาบอก ผมเดินไปกับพี่ที่กอง ก็ไปเข้าห้องน้ำปกติ ทุกอย่างปกติ ไม่ได้มีอะไรเลยแล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ถามว่ามีการ์ดไปเฝ้าด้วยไหม เรื่องการ์ดผมไม่ได้สังเกตจริงๆ แต่มีคนเข้าห้องน้ำไปกับผม ผมจำได้ว่ามีน้องคนหนึ่งยืนทำธุระส่วนตัวอยู่ข้างผม ไม่ได้มีเฉพาะเรา ผมก็เข้าไปแค่นั้นจริงๆ เสร็จแล้วก็ล้างมือ เดินออกมา ขอโทษด้วยที่ไม่ได้สังเกตว่ามีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง มีในโซเชียลคอมเมนต์ว่าหรือว่าอาจจะเข้าห้องน้ำนานหรือเปล่า อันนั้นผมก็ไม่ทราบ ว่าเขาไปรู้อะไรมาหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้ว อย่างที่ผมบอกว่าผมก็ไปเข้าห้องน้ำตามปกติทุกอย่าง เข้าทำธุระส่วนตัว แล้วออกมาเลย
(มีคนโยงไปเรื่องยาเสพติด) ก็เข้าใจว่าทุกคนคิดได้ ว่าทุกคนพยายามหาข้อผิดพลาดต่างๆ แต่ผมยืนยันว่าผมไปเข้าห้องน้ำตามปกติจริงๆ และไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นแน่นอน เอาจริงๆ ก็คือ เข้าห้องน้ำประมาณ 1 นาทีได้ หรือ 2 นาทีไม่แน่ใจ ถามว่าได้เห็นเหตุการณ์อะไรที่ร้านไหม ให้ตายเถอะไม่ได้เห็นอะไรเลย จนกระทั่งตอนเช้ามา ผมได้ยินเขาคุย ได้ยินข่าวมา ผมก็ยังคุยแบบปกติ ว่ามีจริงๆ หรอ ซึ่งเราก็ตกใจ วันนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะวันนั้นก็เป็นอีกเช้าวันหนึ่งที่เราถ่ายละคร ผมไม่ทราบจริงๆ อย่างที่บอกก็คือมาทราบอีกวันแล้ว คืนนั้นผมไปที่ร้าน 4 ทุ่ม แล้วพอถึงเวลาเที่ยงคืน ผมก็บอกพ่อกับแม่มารับหน่อยนะ พ่อแม่ก็มารับอยู่ข้างล่าง พอพ่อแม่ทราบข่าว ท่านเครียดกว่าผมอีก กลัวว่าผมจะเกี่ยวอะไรด้วย แต่จริงๆ แล้วคือ บอกตามตรงเลยคือ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
(หลังจากเกิดเรื่องได้คุยกับทางอุ้มหรือแฟนอุ้มไหม) ผมไม่ได้คุยนะ แต่พี่อุ้มเขาฝากขอโทษมา ขอโทษที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ขอโทษที่ทำให้มีชื่อน้องอยู่ในนั้น ก็คุยกันแค่นี้เลย แล้วก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย (เครียดไหมกับข่าวนี้) พูดตรงๆ ก็เครียด เป็นกังวลว่า ทำไมอยู่ดีๆ เราถึงมีชื่ออะไรในนั้น ยอมรับว่าไปจริงๆ ในสถานที่แบบนั้นก็สามารถเกิดอะไรขึ้นได้ ก็อยากเตือนทุกๆ คนแล้วกัน ที่แบบนั้นก็ควรระมัดระวัง ตอนนี้ก็มีหมายเรียกพยาน เพิ่งจะทราบมาเมื่อ 2-3 วันที่แล้วเอง จดหมายได้ส่งมาที่เชียงใหม่ แล้วทางบ้านที่เชียงใหม่ส่งมาให้ผมอีกที วันนี้พอเสร็จงานนี้ ผมก็จะไปที่เชียงใหม่ จะทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ก็ไม่กังวลอะไรเลย ทุกอย่างที่ผมรู้ก็คือพูดความจริง ทุกอย่างที่พูดตรงนี้ ผมก็จะตอบแบบนี้แหละ ผมก็ปฏิบัติตามเต็มที่ สำหรับการสืบสวน สอบสวนอะไร ผมก็แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่เลย
(เข็ดกับการเที่ยวสถานที่เที่ยวกลางคืนเลยไหม) ก็เข็ด แต่ว่า บางทีก็คงเลี่ยงไม่ได้ ประสบการณ์สอนให้เรารู้ว่า เราต้องระวังตัวมากขึ้น (บอกอะไรถึงคนที่คอมเมนต์) อยากจะบอกถึงครอบครัวของผู้เสียหายด้วย จริงๆ ทุกคนไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย แล้วก็อยากให้เสพข่าวสารกันอย่างมีสตินิดหนึ่ง เพราะการที่เราอยู่ในที่แบบนี้ ที่สว่าง เราต้องยอมรับว่าบางทีเราทำผิดอะไรจริงๆ เราก็เสียใจ เราก็ขอโทษ บางทีเราทำสิ่งที่ดีคนชื่นชม เราก็ต้องขอบคุณ แต่บางทีสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ก็ต้องใช้สติกันนิดหนึ่ง" หมากตอบ
ถามว่า จากเหตุการณ์นี้จะมีไปทำบุญอะไรไหม หมากเผยว่า
"จริงๆ มันก็ถือว่ายังไงดีล่ะ อยู่ดีๆ ก็มีชื่อเนอะ ก็คงต้องทำบุญบ้างนิดหน่อย ได้มีไปบริจาคเลือดมา (ที่ไปบริจาคเลือดเกี่ยวกับที่ไปพัวพันเรื่องนี้ไหม) อันนี้ผมตั้งใจไว้อยู่แล้ว จริงๆ ถือเป็นกิจกรรรมของบ้าน เพราะก่อนหน้านี้เบลก ("เบลล่า" ราณี แคมเปน) ก็ไปบริจามาก่อนหน้านี้แล้ว และวันนั้นเราคิดอยู่แล้วว่าเราพักผ่อนเพียงพอ มีการตรวจร่างกายตามขั้นตอนทุกอย่าง"
ถามต่อถึงเรื่อง “คิม” คิมเบอร์ลี่ ให้กำลังใจอย่างไรบ้าง
“ให้กำลังใจน้องคิมเรื่องคุณพ่อ คงให้ความดูแลอย่างใกล้ชิด ผมเชื่อว่าทุกคน ถ้าถึงวันนั้น ทุกคนต้องการใครสักคนที่ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ก็อยู่ข้างๆ คอยปลอบ เราก็เสียใจเหมือนกัน (สภาพจิตใจคิมเป็นไงบ้าง) ดีขึ้นนะ เพราะว่ามีคนให้กำลังใจเยอะมาก ทั้งแฟนคลับ ทั้งผู้ใหญ่ น้องยังพูดอยู่เลย ถ้าพ่อรู้ พ่อคงดีใจมาก (คิมจะเอาอัฐิคุณพ่อไปไว้ที่เยอรมันจะไปด้วยไหม) ผมคงไม่ได้ไป แต่น้องคงไปกับครอบครัว (หมากเคยบอกว่าจะทำหน้าที่ดูแลคนรักให้ดี) ก็ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดเท่าที่ผมคนนี้จะทำได้” หมากกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง