บันเทิง

“พอกันทีกับฉายากงผู้น่ารัก”

“พอกันทีกับฉายากงผู้น่ารัก”

03 ธ.ค. 2559

คอลัมน์..... เอเชียเอนเตอร์เทนเมนท์

 

          ในซีรีส์เรื่อง “Incarnation of Jealousy” ที่เพิ่งลาจอเอสบีเอส ไปหมาดๆ นั้น กงฮโยจิน เจ้าแม่ละครโรแมนติกคอมเมดี้ยังสวมมาดเป็น กงบิลลี่ หรือกงผู้น่ารัก โดยสวมบทบาทเป็นนักพยากรณ์สภาพอากาศสาวแสบซ่า แถมมีผู้ชายสองคนมาชอบเธอในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธอ อย่าง “Missing Woman” ที่เพิ่งเข้าโรงภาพยนตร์ที่เกาหลีไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลับเป็นบทบาทที่เธอไม่คุ้นเคย โดยเรื่องนี้เธอรับบทเป็น ฮันแม หญิงสาวชาวจีนสุดลึกลับ ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในเกาหลี แล้ววันหนึ่งเธอก็ลักพาตัวลูกสาวของคนอื่นไปหน้าตาเฉย พร้อมกับเรื่องราวส่วนตัวที่ล้วนเป็นเรื่องโกหก

          เรียกว่าหลังจากที่ได้อ่านบทนี้ นักแสดงสาวก็ไม่สามารถสลัดเรื่องของฮันแมออกไปได้ เธอจึงตัดสินใจรับแสดงบทนี้ แม้บทที่ได้รับจะดูเหมือนเป็นตัวประกอบในเรื่องก็ตาม แถมในเรื่องเธอจะต้องเติมจุดด่างดำกว่า 30 จุด ขนตาก็ต้องแต่งใหม่ และยังต้องใส่วิกเพื่อให้เข้ากับคาแรกเตอร์ในเรื่องอีกด้วย แต่เธอก็ไม่แคร์ เธอหวังเพียงว่า ขอให้หนังเรื่องนี้ออกมาดี มีคุณภาพและเป็นที่น่าพอใจก็พอ บอกได้คำเดียวว่าแฟนๆ ลืมภาพเก่าๆ ของกงบิลลี่ไปได้เลย เพราะบทบาทนี้เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับนักแสดงสาวคนนี้อย่างแน่นอน

          @ คุณได้แสดงหนังเรื่องนี้จนเสร็จสิ้นแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
          จริงๆ บทมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมนิดหน่อย ตอนอ่านบทครั้งแรก ทำให้ฉันรู้ว่าฮันแมนั้นเป็นคนจีนขนานแท้ พูดเกาหลีไม่ได้เลย แถมมีบทพูดภาษาจีนเยอะซะด้วย ตอนแรกฉันคิดจะให้ฮันแมพูดภาษาจีนสำเนียงเกาหลี แต่บทเขียนมาเลยว่าต้องพูดภาษาจีนเท่านั้น ในเมื่อฉันตัดสินใจแสดงแล้ว ก็ต้องทำให้ออกมาดีที่สุด สรุปบทพูดภาษาจีนฉันใช้วิธีท่องจำเอาทั้งหมด จริงๆ ก็จำความรู้สึกตอนนั้นไม่ค่อยได้แล้วนะว่ารู้สึกอย่างไร เพราะผ่านมานานเป็นปีแล้ว เท่าที่จำได้คือรู้สึกสงสารฮันแมมาก นึกถึงเขาอยู่ 2-3 เดือนเลย เหมือนเขายังอยู่ในตัวเรา รู้สึกแปลกๆ นะเหมือนถูกฮันแมสิงร่าง ไม่รู้ว่าตัวเองเศร้าหรือยังไงกันแน่

          @ คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกไหม ที่มาแสดงบทนี้
          หวังว่าหนังจะออกมาตามที่ผู้สร้างหวัง ฉันไม่ได้คิดมากเรื่องมีบทน้อยเลย จริงๆ ผู้กำกับก็มีมาถามเหมือนกันว่าอยากเพิ่มบทมั้ย แต่ฉันก็ตอบไปว่าเป็นแบบเดิมก็เหมาะสมดีอยู่แล้ว อาจเป็นเพราะตอนนั้น ฉันเพิ่งประสบอุบัติเหตุแขนหักตอนถ่ายซีรีส์เรื่อง “It's Okay, That's Love” มา จะให้ถ่ายหนังเป็นปีเห็นจะไม่ไหว แถมบทพูดภาษาจีนในเรื่องก็ยากมากด้วย ฟังแล้วอาจจะดูเหมือนฉันไม่ค่อยยินดียินร้ายอะไรกับหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่เพราะฉันรู้สึกพอใจกับสิ่งที่ตัวเองเลือกแล้วต่างหาก

          @ แม้บทฮันแมจะดูน่าสนใจ แต่ดูเหมือนใครๆ จะคุ้นเคยกับการที่คุณเป็นกงบิลลี่มากกว่า
          ถ้าจะถามว่ากังวลไหม ฉันไม่กังวลเลย เพราะปกติฉันมักจะมองหาบทบาทใหม่ๆ จากภาพยนตร์มาเล่นอยู่แล้ว หนังเรื่องล่าสุดที่เล่นไป คือ “Aging Family” ก็ไม่ใช่บทธรรมดาๆ นะ ฉันรู้สึกว่าเวลาละครไม่ประสบความสำเร็จ ฉันจะรู้สึกผิดหวังมาก ในทางกลับกันฉันกลับไม่ได้รู้สึกผิดหวังมากมายเมื่อเป็นภาพยนตร์ ก็แค่บอกตัวเองว่าให้ลองอะไรใหม่ๆ บ้าง ก็แค่นั้น

          @ มาดงซอก (นักแสดงจากหนังเรื่อง Train to Busan) ได้ฉายาใหม่ว่ามาบิลลี่ (มาผู้น่ารัก) เรารู้สึกหวั่นใจบ้างมั้ย
          ครั้งแรกที่รู้สึกว่ามีคู่แข่งคือตอนมี “ชูบิลลี่” (ชูซารัง) หนังเรื่อง Derailed ของพี่มาดงซอกก็ออกฉายใกล้ๆ กันเลยนะ เรื่องนี้น้องมินโฮ (วงชายนี่) เล่นด้วย จริงๆ ฉันเป็นแฟนคลับของน้องมินโฮ ฉันเคยชวนเขามารอบปฐมทัศน์ด้วย แต่น้องบอกว่าหนังน้องก็จะออกเหมือนกัน (หัวเราะ) ส่วนตัวฉันเคยร่วมงานกับพี่มาดงซอกในซีรีส์เรื่อง Heaven's Soldiers มาแล้ว และก็จำได้ด้วยว่าตอนนั้นกลัวตัวเองจะแข็งตายในแม่น้ำมากๆ จะว่าไปแล้วยุคนี้มีบิลลี่ 3 คนเลยนะ (มาบิลลี่ ชูบิลลี่ และกงบิลลี่) วันก่อนได้ดู “Train to Busan” แล้วร้องไห้หนักมาก รู้สึกประทับใจมาบิลลี่เหมือนกัน

          @ คุณมีหลักเกณฑ์ในการเลือกบทภาพยนตร์และละครอย่างไร
          ไม่ได้มีอะไรมากมาย เรียกว่าเป็นวิธีคิดดีกว่า คือในซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้นั้นควรจะมีนางเอกน่ารักๆ ใช่ไหม คือฉันคิดว่าชีวิตจริงมันโหดร้ายมากพอแล้ว ฉันก็เลยอยากให้ภาพของนางเอกในซีรีส์ออกมาสดใสร่าเริง แต่การที่เราอยู่กับตัวละครแบบนั้น เป็นเวลานานๆ ฉันก็รู้สึกอยากเปลี่ยนตัวเอง อยากทำอะไรใหม่ๆ บ้าง ก็เลยมาปลดปล่อยในหนัง โดยการรับบทที่แตกต่างกับการแสดงซีรีส์แบบสุดขั้วแทน คือไม่ได้จงใจกดดันตัวเอง เพียงแต่รู้สึกว่าอยากเปลี่ยนจากกงบิลลี่เป็นคาแรกเตอร์อื่นบ้างก็แค่นั้นเอง